Home
|
ข่าว

“ณัฐวุฒิ” ให้ข้อมูล กมธ.นิรโทษ หนุนปล่อยหมดทุกคดี

Featured Image
“ณัฐวุฒิ” ให้ข้อมูล กมธ.นิรโทษ หนุนปล่อยหมดทุกคดี รับมีคนเห็นต่าง ต้องหาข้อสรุปร่วมกัน แนะยุบพรรคไม่นำไปสู่แก้ปัญหา ยังไม่เคยคุย “ทักษิณ” กลับเชียงใหม่เรื่องปกติ อย่างมองเป็นการเมือง

 

 

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการจัดทำกฎหมายนิรโทษกรรม ถึงจุดยืนและความคาดหวังต่อการออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่า เรื่องนี้ได้แสดงความเห็นไปแล้วหลายครั้ง แต่วันนี้ที่มาร่วมในคณะกรรมาธิการฯ เพราะอนุกรรมาธิการ ที่นำโดย นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ประสานมาว่า มีความจำเป็นที่จะต้องรับฟังข้อมูลและข้อคิดเห็นจากกลุ่มมวลชนที่เคยเคลื่อนไหวในสถานการณ์ต่อสู้ที่ผ่านมา และเมื่อคณะกรรมาธิการฯ ชุดใหญ่ อยากรวบรวมข้อมูลจึงได้เรียกรวมกันมาให้ข้อมูลทีเดียว วันนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่ตนได้เดินทางมายังอาคารรัฐสภา

 

แต่หลักคิดและจุดยืนต่อประเด็นนิรโทษกรรมยังคงเหมือนเดิม คือความเคลื่อนไหวอันเกิดขึ้นจากกลุ่มมวลชนต่างๆ ตั้งแต่ก่อนรัฐประหารปี 2549 จนถึงปัจจุบัน เชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มต่างๆ แม้จะมีความเห็นต่าง แต่ก็มีแรงจูงใจทางการเมืองตามหลักการและข้อเท็จจริงที่ตนเองได้สัมผัสและยอมรับ ดังนั้น ถ้าคณะกรรมาธิการฯ หรือสภาชุดนี้ ประสงค์ที่จะทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองคลี่คลายลง หาข้อยุติร่วมกันที่จะตั้งต้นกันใหม่ แม้ว่าอาจจะเห็นไม่ตรงกันบ้าง ด้วยเหตุนี้การนิรโทษกรรมต้องหมายรวมถึงทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกคดีความ ทุกข้อกล่าวหา ในที่นี้ก็เสนอให้มีการยกเว้นข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น และความผิดอันถึงแก่ชีวิต

 

ส่วนประเด็นที่ยังเห็นต่างในกรรมาธิการฯ นั้นคือ มาตรา 112 มองว่าเงื่อนไขทางการเมืองปัจจุบัน เป็นเงื่อนไขที่ไม่เคยเกิดขึ้น อย่างน้อยก็ในห้วง 20 ปีที่สู้กันมา ถ้าอยากจะคลี่คลายความขัดแย้งในวาระนี้ ก็ควรขยายพื้นที่นิรโทษกรรมให้ครอบคลุม ถึงความผิดและข้อกล่าวหาในมาตราดังกล่าวด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าตนสนับสนุนให้ท้าย หรือให้ใครทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย แต่มองว่าผู้ที่ต้องคดีเป็นเยาวชนคนหนุ่มสาว ซึ่งต้องเติบโตเป็นอนาคตของประเทศ ดังนั้นถ้าจะนิรโทษกรรมคดีความอันมีแรงจูงใจทางการเมืองอื่นๆ และงดเว้นข้อกล่าวหาในมาตรา 112 เอาไว้เพียงลำพัง

 

ก็จะกลายเป็นว่าสังคมนี้มีคู่ขัดแย้งคู่เดียว คือคนหนุ่มสาวกับมาตรา 112 ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อบุคคล องค์กร หรือสถาบันใดๆ การมาวันนี้จึงนำข้อเสนอส่งต่อคณะกรรมาธิการฯ เพื่อนำไปพิจารณาและหาข้อสรุปร่วมกันต่อไป ตอนนี้จึงถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายควรตั้งหลัก ยุติและเริ่มต้นกันใหม่ได้แล้ว แน่นอนว่าการนิรโทษกรรมไม่ได้ทำให้ความขัดแย้งหายไป 100% แต่ถ้าตั้งใจเปิดใจให้กัน มันก็จะบรรเทาเบาบางลงได้มาก ต้องยอมรับกันและกัน เราไม่ใช่ศัตรู ไม่ใช่คนมุ่งร้ายทำลายบ้านเมืองและไม่ได้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอาชญากร หรือเป็นวายร้ายชนิดที่อยู่ร่วมกันในสังคมไม่ได้ ดังนั้นถ้าจะจับมือกันทุกฝ่ายก็อย่าปล่อยมือใครเลย แม้ว่าบางเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น ตนก็ไม่ได้เห็นด้วย แต่ถ้าสังคมนี้จะมีที่อยู่สำหรับทุกคน จะต้องเปิดหัวใจให้กว้างพอ

 

ทั้งนี้ ถ้ายังเหมารวบนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยอาจจะทำให้เรื่องนี้ตกไป นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขออย่าคิดเช่นนั้นเลย เพราะนี่เป็นขั้นตอนปรึกษาหารือกัน ในเรื่องความขัดแย้งคนต้องคิดไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่อยากให้ตั้งเสาเข็มความคิดให้ตรงกัน เพื่อช่วยกันทำให้เรื่องนี้เดินไปให้ได้ แล้วไปจบลงที่ข้อสรุปร่วมกัน โดยมีหลักเกณฑ์เงื่อนไขแต่ละเรื่อง เพื่อให้บรรลุสิ่งที่ต้องการ ซึ่งการเสนอของตนไม่ได้คาดคั้นว่าต้องเป็นไปตามนี้ แต่เป็นความเห็นหนึ่งที่จะเสนอไปสุดทางเช่นกัน

 

สำหรับกรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายเป็นคดีทางการเมือง สมควรที่จะรวมอยู่ในการนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ละเอียดอ่อนเพราะเป็นข้อกฎหมาย และเป็นข้อกล่าวหาจากการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าตนบอกเรื่องนี้เป็นการเมืองแน่ๆ ก็ถูกมองว่าพยายามจะตีไพ่ให้กัน แต่ถ้าบอกว่าไม่ใช่ ก็เป็นการสกัดขัดขวาง ฉะนั้นให้เป็นเรื่องของฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณา ส่วนตนเสนอแค่เรื่องความเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่ ปี 2548-ปัจจุบัน

 

สำหรับสถานการณ์การเมืองขณะนี้ มีบางพรรคที่อาจเสี่ยงถูกยุบ ประเมินทิศทางอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องยุบพรรคไม่ได้นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอะไรเลย หรือนำไปสู่ชัยชนะของฝ่ายไหน เพราะฝ่ายที่อาจได้ประโยชน์จากการที่พรรคใดพรรคหนึ่งถูกยุบ ก็พิสูจน์มาแล้วตั้งแต่ยุคไทยรักไทย พลังประชาชน

 

หรือกระทั่ง อนาคตใหม่ ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ประโยชน์ แม้ว่าจะได้แรงสนับสนุนจากประชาชนเพิ่ม แต่ก็บอบช้ำไม่ใช่น้อยในการดำเนินการทางการเมือง ส่วนตัวจึงขอเอาใจช่วย และหวังว่าจะไม่มีการตัดสินยุบพรรคการเมืองไหนอีก แต่ถ้าประเมินตามข้อเท็จจริงก็คงเห็นเหมือนกับหลายฝ่าย ว่าสถานการณ์ของพรรคก้าวไกลอยู่ในช่วงล่อแหลมมาก สำหรับการเผชิญคำวินิจฉัยดังกล่าว แต่เชื่อว่าแกนนำและกรรมการบริหารพรรค คงกำหนดวิธีการรับมือ รวมถึงแนวทางเดินหน้าต่อไป พร้อมย้ำว่าเรื่องยุบพรรคไม่ควรมีอีกแล้ว ควรพิจารณาในชั้นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าการเขียนกฎหมายให้อำนาจยุบพรรค ควรจะยุติเสียที

 

นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่นายทักษิณ เดินทางกลับมายังไม่ได้พูดคุยกัน ส่วนการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้มองว่าเป็นสงครามการแย่งพื้นที่ทางการเมือง แต่ถ้าเป็นตน “รักที่นา ตาที่อยู่” เกือบ 20 ปี ที่แรกที่จะไปก็คือจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนการที่นายทักษิณมีโปรแกรมไปไหว้สักการะครูบาศรีวิชัย ที่พระธาตุดอยสุเทพ กลับกันตนก็คงไปกราบพระบรมธาตุเจดีย์ ดังนั้นคงเร็วเกินไปที่จะตีความทางการเมือง ต้องดูบทบาทหลังจากนี้ว่า เมื่อนายทักษิณสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ พ้นจากเงื่อนไขต่างๆแล้ว จะเป็นอย่างไร ถึงจะดูเป็นมิติทางการเมืองได้ชัด

 

แต่แน่นอนว่า นายทักษิณ เป็นคนทางการเมือง กลับมาคราวนี้ในวัย 75 ปี ก็อาจทำหน้าที่คุณตาคุณปู่ นี่คือความจริงในใจแน่ๆ แต่ถ้าจะให้วางมือจากทางการเมืองเลย คิดว่าธรรมชาติของตัวท่านคงไม่ทำแบบนั้น ส่วนคนจะเห็นด้วยหรือเห็นต่างก็วิพากย์วิจารณ์ได้ แต่สังคมไทยควรดึงเอาศักยภาพของนายทักษิณมาใช้ ซึ่งในเวทีนานาชาติคิดว่านายทักษิณ น่าจะเป็นคนไทยที่มีเครือข่ายสายสัมพันธ์ มีศักยภาพ และต้นทุนทางความเชื่อถือ เชื่อมั่นกับการคบหาคนสำคัญ ทั้งในแวดวงการเมืองธุรกิจ หรือสังคมมาก

 

ซึ่งวันนี้ประเทศไทยต้องการศักยภาพแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้บอกว่านายทักษิณต้องเข้ามามีตำแหน่ง หรือ เข้ามามีบทบาทอะไร แต่การจะปล่อยให้ศักยภาพแบบนี้เงียบหายไปเฉยๆโดยไม่เอามาช่วยเหลือบ้านเมืองมันก็น่าเสียดาย ซึ่งตนไม่ได้สร้างกระแส เพราะถ้าไม่ใช้นายทักษิณ ให้เป็นประโยชน์ก็ขาดทุน

 

ทั้งนี้ จะเชิญนายทักษิณ มาร้านอาหาร “เยี่ยมใต้” หรือไม่ นายณัฐวุฒิ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “ไม่ทราบ ไม่ได้คุย ไม่ได้ติดต่อเลย”

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube