Home
|
ข่าว

“ชัยชนะ” ยัน ปชป.เน้นคนรุ่นใหม่ ซักฟอกรัฐบาล

Featured Image

 

 

 

 

“ชัยชนะ” ยัน ปชป.เน้นคนรุ่นใหม่ ซักฟอกรัฐบาล มุ่งนโยบายที่แถลงไว้แล้วยังไม่ได้ทำ แก้เศรษฐกิจล้มเหลว

 

 

 

 

นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์เตรียมคนอภิปราย โดยเน้นคนรุ่นใหม่ แต่ส่วนตัวกำลังคิดอยู่ว่าจะอภิปรายหรือไม่ ซึ่งก็ต้องดูประเด็นที่วุฒิสมาชิกได้อภิปรายและรัฐบาลตอบข้อสงสัยไปแล้วว่าควรที่จะเอามาพูดอีกหรือไม่ ดังนั้น ตอนนี้กำลังทำข้อมูลอยู่ ซึ่งการอภิปรายตามมาตรา 152 เป็นการวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลเหมือนกับการถามและให้รัฐบาลตอบ แต่หลักการตรวจสอบจริงๆ อยู่ที่การอภิปราย ตามมาตรา 151 หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล

 

สำหรับประเด็นที่จะอภิปรายครั้งนี้ คือ นโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้แล้วยังไม่ได้ทำ เรื่องเศรษฐกิจที่ไม่กระเตื้องขึ้น รัฐบาลมีแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไร และยังมีเรื่องยาเสพติด ถือเป็นปัญหาหลักที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข โดยก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์เรื่องของการแก้กฎกระทรวง ผู้ที่ครอบครองยาเสพติด 5 เม็ดจากผู้เสพเป็นผู้ป่วยให้ลดเหลือ 1 เม็ด เพราะจากข่าวที่เห็นทุกวันนี้ หากทุกคนเสพ 5 เม็ด จะทำให้เกิดเหตุรุนแรงได้ เพราะการเสพเพียง 2 เมตร ก็มีเหตุคุ้มคลั่งทำร้ายประชาชน ต้นมองว่าทุกอย่างต้องแก้ไขที่ต้นเหตุอย่ามองที่ปลายเหตุ

ส่วนประเด็นกระบวนการยุติธรรมจะโยงไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า ต้องดูว่าข้อมูลไหนที่วุฒิสมาชิกถามรัฐมนตรีไปแล้ว หากมาถามอีกก็คือเรื่องเดิม และเห็นว่าวุฒิสมาชิกได้ถามเรื่องนี้ไปแล้ว และรัฐบาลได้อธิบายไปแล้ว ก็ต้องรอดูว่า ส่วนไหนที่วุฒิสมาชิกยังอภิปรายไม่ครบถ้วน ก็จะนำมาต่อยอด หากพูดไปครบถ้วนแล้ว มาพูดอีก ประชาชนจะได้อะไร อย่างไรก็ตาม ไม่ได้บอกว่าจะไม่แตะในเรื่องนี้ แต่ต้องดูข้อมูลก่อน

 

ส่วนการอภิปรายมาตรา 152 ในครั้งนี้ จะส่งผลให้เกิดการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า การปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี แต่การอภิปรายตามมาตรา 152 ซึ่งเป็นการอภิปรายทั่วไป ถามแล้วจะตอบก็ได้ ไม่ตอบก็ได้ และต้องยอมรับว่า ในการเปิดโปงหลักฐาน ต้องไปเปิดโปงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ที่มีการลงมติ ดังนั้น การจะอภิปรายรัฐบาลที่แท้จริงได้ต่อเมื่อรัฐบาลได้ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ไปแล้ว ในระยะเวลา 5-6 เดือน ถึงมีช่องว่างที่จะอภิปราย และสามารถทำให้ปรับ ครม. ได้

 

ขณะเดียวกัน นายชัยชนะ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบกรณีที่นายทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนการพักโทษว่า ตนได้ทำเรื่องถามไปยังกรมราชทัณฑ์ว่า นายทักษิณ พักรักษาตัวในห้องผู้ป่วยพิเศษ ใช้งบประมาณอะไร ล่าสุดกรมราชทัณฑ์ ได้ทำหนังสือชี้แจงเพียงว่าใช้หลักประกันสุขภาพ และพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภา ว่า ไม่ใช่ห้องพิเศษ แต่เป็นห้องที่ดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจาก นายทักษิณ เคย โดนคาร์บอมเมื่อปี 2549 จึงกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกและจะกระทบกับผู้ป่วยคนอื่นจึงได้ย้ายไปพักห้องดังกล่าว

 

ซึ่งจากนี้ทางคณะกรรมการจะต้องติดตามเรื่องนี้ต่อไปโดยอยู่ระหว่างศึกษาข้อกฎหมาย เนื่องจากพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ ผู้ป่วยห้ามพักพิเศษ ยกเว้นป่วยหนักสามารถแยกห้องพักจากคนอื่นได้ ก็ต้องไปดูว่าสามารถทำได้แค่ไหน ซึ่งเรื่องนี้แตกต่างจาก มาตรา 43 ผู้ต้องขังมีสิทธิ์เข้าได้รับ การศึกษาขั้นพื้นฐานโดยกรมราชทัณฑ์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ ส่วนมาตรา 44 การศึกษาที่สูงกว่าขั้นพื้นฐานผู้ต้องขังจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง แต่พอเป็นเรื่องการรักษาพยาบาล กลับเขียนว่าใช้เงินตามสิทธิที่ได้รับจากรัฐบาล โดยไม่มีการบอกว่าถ้าสูงกว่าสิทธิที่รัฐให้จะต้องทำยังไง

 

อย่างไรก็ตาม กรณีที่นายทักษิณเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยเฉพาะการเข้าพรรคเพื่อไทยเพื่อไปพบปะกับสส. ของพรรคนั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่าสามารถทำได้ ถ้าไปเยี่ยม แต่สุดท้ายแล้วสังคมจะเป็นผู้ตัดสินเอง สังคมสามารถสรุปเรื่องอาการป่วยได้ว่าอะไรคืออะไร จะให้ตนวิจารณ์ ก็มองว่าสังคมส่วนใหญ่เข้าใจเหมือนกัน

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube