“ก้าวไกล”ปัด ดึงเกมนับองค์ประชุม ลงมติเห็นด้วยร่างรายงานเปิด Entertainment Complex ชี้ อยากให้ศึกษาปัญหาอย่างรอบด้าน เชื่อ แก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมายไม่ได้ กังวลทุนสีเทาร่วมลงทุน เมิน รัฐบาลขอเวลาคืนซักฟอก ตาม ม.152
พรรคก้าวไกล นำโดย นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง แถลงชี้แจงกรณีเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร นับองค์ประชุม ระหว่างพิจารณารายงานการศึกษาเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment complex เมื่อวานนี้ ว่า อย่าเข้าใจผิดว่าพรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะเราเห็นด้วย แต่ต้องการให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการศึกษาเพื่อให้สอดคล้องเกี่ยวกับการพนันผิดกฎหมาย และถ้ามองในเรื่องของธุรกิจมีข้อกังวลในหลายเรื่องที่ขาดการศึกษา ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้การศึกษาเรื่องนี้ไม่ครบถ้วนคือใช้เวลาในการประชุมค่อนข้างน้อยมาก โดยมีการประชุมเพียงแค่ 11 ครั้ง และผลการศึกษาส่วนใหญ่ก็ไปอยู่ในชั้นของกรรมาธิการ
ดังนั้นเมื่อเป็นลักษณะแบบนี้ต้องยอมรับว่ารายงานฉบับนี้ขาดความสมบูรณ์ ทางพรรคก้าวไกลจึงได้มีการทักท้วงให้มีการกลับไปปรับปรุงรายงานฉบับนี้ให้ดีขึ้น และในวันนี้ประเทศเราเผชิญกับเรื่องของการพนันออนไลน์ และมีบ่อนตามจังหวัดต่างๆ ด้วยเหตุนี้ จึงมองว่าการตั้ง Entertainment complex ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องการพนันออนไลน์และบ่อนตามหัวเมืองต่างๆได้แท้จริง เพราะบ่อนก็ยังคงมีอยู่ เนื่องจากการตั้งสถานบันเทิงครบวงจรมีการเก็บค่าเข้าคนที่ไปได้ต้องมีเงิน ส่วนบ่อนตามหัวเมืองที่เป็นคนทั่วไปหาเช้ากินค่ำก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม ขณะที่การพนันออนไลน์ก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเราไม่มีมาตรการดูแลเรื่องนี้
โดย นายรังสิมันต์ ย้ำด้วยว่ารายงานฉบับนี้ ไม่ตอบโจทย์ปัญหาในปัจจุบันที่ตำรวจยังมีปัญหา และล่าสุดก็มีการจับบ่อนใหญ่ย่านนนทบุรีและพญาไท จึงคิดว่าถ้าหากเราตั้งสติและศึกษากันให้ดีจะมีความจำเป็นอย่างมาก อีกทั้ง ในรายงานแม้จะยังไม่ได้มีการระบุสถานที่จัดตั้งแต่ Entertainment Complex ใน 14 จังหวัดทั่วประเทศ แต่เรามีความกังวลเรื่องความโปร่งใส โดยเฉพาะในพื้นที่อู่ตะเพา เพราะทราบข่าวว่าได้มีการเซ็นต์สัญญากันไปแล้ว จึงอาจนำไปสู่การผูกขาดและมีบางบริษัทที่ได้โครงการนี้ ซึ่งทางรัฐบาลไม่สามารถตอบได้ ไม่นับรวมเรื่องของการบริหารจัดการที่เป็น Pop-up Model ที่ต่ำมาก คล้ายๆกับนำบอร์ด EEC มาบริหาร Entertainment Complex หรือที่เรียกว่าครม.น้อย จึงขอถามว่าครม.น้อยนี้จะมีเวลาบริหารจัดการหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งปลัดกระทรวงต่างๆมาตั้งเป็นคณะกรรมการที่อาจไม่มีเวลาในการบริหารจัดการในโครงการสำคัญของประเทศด้วยซ้ำ ทำให้เราอาจจะไม่ได้คาสิโนแบบสิงคโปร์ แต่ได้แบบปอยเปต สีหนุวิลล์แทน ดังนั้นหากเราบริหารจัดการดีจะถือเป็นโอกาส แต่ถ้าไม่ดีก็จะกลายเป็นวิกฤต จึงเป็นเหตุผลที่พรรคก้าวไกลอยากให้มีการศึกษาอย่างรอบคอบ เพราะเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสภา ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถตอบสังคมที่ติดตามดูอยู่ได้ ทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมาย การฟอกเงิน บัญชีม้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเป็นห่วงและยังไม่ได้นับไปถึงผู้ที่มาร่วมลงทุนคาสิโนที่จะเป็นกลุ่มทุนสีเทา จึงเป็นสิ่งที่เรามีความกังวลมาก พรรคก้าวไกลจึงยืนยันว่าขอไม่แสดงตนและไม่ร่วมโหวตรายงานฉบับนี้ ตามเหตุผลและปัญหาที่ได้กล่าวไปทั้งหมด
ขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวชี้แจงกรณีการขอให้นับองค์ประชุมและลงมติไม่เห็นด้วยกับรายงานฉบับนี้ต่อ ว่าส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่ถือเป็นการทำผิดข้อตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย เพราะที่พูดคุยกันกับพรรคร่วมรัฐบาลไม่เป็นทางการและไม่มีเอกสาร ซึ่งการเปลี่ยนมติของวิปแต่ละฝ่ายถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และหลายครั้งมติของพรรคร่วมรัฐบาลออกมาแบบหนึ่ง แต่เมื่อถึงหน้างานไปคุยกับก็เอาอีกแบบนึงเป็นประจำ จึงคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องแจ้งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงมติด้วยเช่นกัน เพราะเป็นข้อตกลงของพรรคร่วมแต่ละฝั่ง ฉะนั้นยืนยันว่าวานนี้พรรคฝ่ายค้านไม่ได้หักข้อตกลง เพราะได้มีการพูดคุยกันแล้ว เป็นข้อตกลงตามการอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ซึ่งมีเอกสารชัดเจน ว่าตกลงกันอย่างไร
ดังนั้นการเอาเรื่องที่ไม่เป็นทางการมาหักเรื่องที่เป็นทางการคิดว่าไม่สมเหตุสมผล การขอนับองค์ประชุมและลงมติไม่เห็นด้วยกับร่างรายงานเป็นเหตุผลในด้านเนื้อหาตามที่นายรังสิมันต์ ได้พูดไป ซึ่งการที่เราไม่เห็นด้วยกับรายงานฉบับใดฉบับหนึ่งจะนำไปสู่การขอเวลา อภิปรายตามมาตรา 152 จริงๆหรือ ตนเข้าใจว่าเมื่อวานนี้มีอารมณ์ขุ่นมัวและโกรธเคืองกัน แต่ไม่ทราบว่าจะโกรธอะไร เพราะคิดว่าทุกคนมีวุฒิภาวะพอคงไม่เอาเรื่องนี้คิดแก้แค้นกันและใช้เวทีตรวจสอบของฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด รองจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เอามาเป็นประเด็นในเรื่องนี้ที่อาจจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ฝ่ายรัฐบาลขอเวลาอภิปรายครึ่งหนึ่งของญัตติที่ฝ่ายค้านเอาไว้ตรวจสอบรัฐบาลด้วยการนำไปอภิปรายเอง แม้กระทั่งรัฐบาลที่เราบอกว่าสืบทอดอำนาจ คสช.ยังไม่ทำเลย ซึ่งเราคาดหวังว่าประธานสภาผู้แทนราษฎร จะไม่คล้อยตาม เพราะเรามีข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว
พร้อมกล่าวว่าการขอนับองค์ประชุมและลงมติ ถือเป็นอาวุธสำคัญที่ฝ่ายค้านมีอยู่ในฐานะเสียงส่วนน้อย จึงเป็นเรื่องปกติในสภา และเชื่อว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ขอให้มีการนับองค์ประชุมน้อยที่สุดของพรรคฝ่ายค้านในสภาประเทศไทย จึงไม่ทราบว่าโกรธอะไรกันนักหนา หรือสิ่งที่ นายรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตมีมูลจริงๆ ถึงได้โกรธกันขนาดนี้ ย้ำว่าการอภิปรายทั่วไปมาตรา 152 ได้มีการตกลงกันไว้แล้ว ฉะนั้นอย่าทำแบบนี้เลย เพราะสื่อได้ว่าสุดท้ายรัฐบาลพยายามหนีการตรวจสอบยิ่งกว่ารัฐบาลที่แล้วเสียอีก ดังนั้นหากฝ่ายวิปรัฐบาลขอเวลาคืนในการอภิปรายตามมาตรา 152 จริงๆ แปลว่าครม.เห็นด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
