เพื่อไทย เหน็บพรรคใหญ่ฝ่ายค้าน ทวงทุกอย่าง แต่ค้านทุกนโยบาย ขออภิปราย 152 ในกรอบกฎหมาย ขอ ปชช.ไม่ต้องกังวล จบอภิปรายมีนายกคนเดิมชื่อ เศรษฐา ลั่น พท. มีนายกฯเบอร์ 30 ไม่มีนายกฯครึ่งเบอร์เหมือนบางท่าน
นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกพรรคพร้อมด้วยน.ส.ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152
โดยนายดนุพร ระบุว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยได้เน้นย้ำ สส.ให้เข้าร่วมการประชุมสภา ที่จะมีการอภิปรายตามมาตรา 152 ซึ่งเป็นการอภิปรายเพื่อซักถามทั่วไป จึงขอให้ สส.ไปร่วมเป็นองค์ประชุม พร้อมวิงวอนฝ่ายค้านให้อภิปรายในกรอบระเบียบของสภา หลายคนก็รอฟังว่าจะมีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอกมากน้อยแค่ไหน ซึ่งตนเชื่อในความเป็นกชางของประธานสภา ไม่ว่าจะเป็นใครขึ้นมาทำหน้าที่บนบัลลังก์ว่าจะใช้ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด
นายดนุพร กล่าวอีกว่า รัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ทำงานมาเพียง 7 เดือน และบริหารโดยไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจะเห็นว่า 7 เดือนที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีทำงานหนักมาก โดยไม่มีงบประมาณ และเป็นการลงพื้นที่อย่างหนัก ยืนยัน เป็นห่วงปัญหาของประชาชนไม่แพ้ฝ่ายค้าน
แต่พรรคที่ใหญ่ที่สุดของฝ่ายค้าน ไม่เคยบริหารราชการแผ่นดินแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นต้องเข้าใจบริบท เวลาที่จะนำนโยบายที่หาเสียงและนำไปสู่การปฏิบัตินั้น อย่างแรกเราต้องใช้งบประมาณ แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ต้องใช้งบอย่างเดียว ขณะที่บางเรื่องต้องใช้เวลาในการแก้ไขกฎหมาย เช่น พรบ.แอลกอฮอล์ /พรบ.เกณฑ์ทหาร หรือแม้แต่เรื่องสมรสเท่าเทียม ดังนั้นพรรคที่ไม่เคยบริหารราชการแผ่นดินเลย ย่อมไม่เข้าใจ คิดว่าเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วจะง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง บางนโยบายต้องมีกฎหมายรองรับ เช่น เงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ค้อบทำให้รอบคอบเพราะไม่เคยมีนโยบายนี้ในประเทศไทยมาก่อน หากย้อนไปในอดีตก็มีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคซึ่งเป็นนโยบายใหม่ในขณะนั้น สมัยเป็นพรรคไทยรักไทย เราก็ต้องไปเตรียมกฎระเบียบมารองรับ รวมถึงกฎกระทรวง เพื่อให้สิ่งเหล่านี้ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อท่านติฃเรื่องค่าแรง ค่าไฟ เมื่อนายกฯเศรษฐาเข้ามาเราก็ลดค่าไฟ
ค่าน้ำมัน ค่าแรงที่หลายคนบอกว่าเพิ่มบางจังหวัดก็เป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่ตนพูดมาปัญหาจริงๆอยู่ที่โครงสร้าง ดังนั้นรัฐบาลได้ลดค่าครองชีพให้ประชาชน เราทราบดีว่าเป็นการชั่วคราว และตนเชื่อว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกำลังปรับโครงสร้างพลังงาน เพื่อช่วยประชาชน แต่การจะเปลี่ยนโครงสร้างก็มีผลกระทบมากมาย ต้องประชุมทุกฝ่ายทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ
นายดุพรกล่าวอีกว่า ฝ่ายค้านต้องทำความเข้าใจใหม่ รัฐบาลยังไม่ได้ใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียว ราคายางพาราสูงสุดในรอบเจ็ดปี ราคาข้าวสูงสุดในรอบ 16 ปี นายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศ 14 ประเทศ คาดว่าจะนำรายได้เข้าประเทศ ประมาณ 500,000 ล้านบาท รถ ไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่สำเร็จแล้ว 12 จังหวัด เจ็ดเดือนรัฐบาลเศรษฐามีผลงานเป็นที่ประจักษ์โดยไม่ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี
“จึงอยากไปยังฝ่ายค้าน ว่าท่านทวงทุกอย่างแต่ค้านทุกนโยบายของรัฐบาล รอสักนิด เรารับทำงานให้ประชาชน เราเข้าใจความเดือดร้อน เหมือนค้านทุกท่านนี่เป็นเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยไม่ทำตามคำแนะนำฝ่ายค้าน ว่ารอ 10 เดือน ถ้ารอทุกอย่างที่เกิดตอนนี้จะไม่เกิด อีก 3 เดือนจะครบ 10 เดือน พรรคเพื่อไทยเตรียมแถลงผลงาน ว่าทำไมเราจึงเห็นว่าไม่ควรรอ 10 เดือน เราจะทำงานอย่างหนักต่อไป นโยบายของรัฐบาล รวมถึฃนโยบายที่หาเสียงไว้ เรามีเวลา 4 ปีที่จะทำให้นโยบายเหล่านั้นเป็นจริง จะช้าจะเร็วก็มี บริบทแตกต่างกันไป
นายดนุพร ยังย้ำว่า การอภิปรายในวันที่ 3-4 เม.ย.นี้เป็นการอภิปรายตามมาตรา 152 เมื่ออภิปรายจบ นายกฯคนที่ 30 ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม เป็นนายกฯชื่อเศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทยมีนายกฯเบอร์ 30 เราไม่มีนายกครึ่งเบอร์เหมือนบางท่าน ดังนั้นประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงมีเวลาอีก 3 ปีกว่า ในการทำนโยบายให้เป็นจริงได้
ด้านนายจิรวัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากจบการอภิปรายทั่วไปพรรคเพื่อไทยจะจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ในวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.67 เพื่อสื่อสารในประเด็น “อดีต ปัจจุบัน อนาคต” ของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ณ ขณะนั้น เป็นพรรคการเมืองที่เป็น “ผู้นำในการปฏิรูปโครงสร้างประเทศ” เช่น การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบหลักประกันสุขภาพ , การสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่าน TCDC ,
การสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบกายรายย่อย ผ่าน SME Bank เป็นต้น จนมาถึงปัจจุบันที่พรรคเพื่อไทย ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่จะบอกเล่าถึงการปรับตัวของพรรคเพื่อไทย มีการรับองค์ความรู้ใหม่ๆ จากภายนอกเข้ามาหลากหลายสาขา เพื่อพัฒนาทั้งองค์กร บุคลากร และ สส.ของพรรค เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตอบโจทย์กับความต้องการของประชาชนทุกคนมากขึ้น มั่นใจว่าภายในปีนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้งแน่นอน และในอนาคต รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะสื่อสารในประเด็นของโอกาสของประเทศไทยในเวทีโลก ทำให้ประเทศไทยกลับมาอยู่ในแผนที่โลกอย่างภาคภูมิใจอีกครั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews