“จุรินทร์”จัดหนักรัฐบาล ไม่ใช้งบสักบาทเป็นการแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกประชาชน อัดใช้เงินไปขนาดนี้แต่ยังสอบตก อย่าคิดจะได้คืบเอาศอก นำคุกทิพย์โมเดล มาใช้ซ้ำ 2 อีก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นเปิดอภิปรายคนแรกของฝ่ายค้านว่า รัฐบาลชุดนี้บริหารราชการแผ่นดินมา 7 เดือนกว่า เท่ากับ 1 ใน 8 ของวาระ 4 ปี จึงสมควรแก่เวลาที่จะส่งสัญญาณเตือน ในสิ่งที่เห็นว่ารัฐบาลกำลังเดินผิดทาง และพร้อมสนับสนุนรัฐบาลทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
รัฐบาลพยายาม สร้างกระแสว่า จะอภิปรายไปทำไม เพราะบริหารมาไม่นาน แต่การบริหารงานของรัฐบาลตั้งแต่ 1 ต.ค.66-31 มี.ค. 67 เป็นเวลา 6 เดือน ได้ใช้งบปี 67 ไปแล้ว 1.83 ล้านล้านบาท คิดเป็น 43.79% ของวงเงินงบประมาณปี 67 (3.48 ล้านล้านล้านบาท) คำถามคือรัฐบาลใช้เงินไปขนาดนี้แต่ยังสอบตก และที่บอกว่าไม่ใช้งบสักบาทเป็นการแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกประชาชน เพราะรัฐบาลชุดนี้ มัวแต่ใช้การตลาดนำการบริหาร เอาแต่สร้างภาพ นายกอีเวนท์ 6 เดือนบินไป-มา มากกว่า 14 ประเทศ กับหนึ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นนายก 180 วัน อยู่เมืองนอก 52 วัน
เพื่อไปทำการตลก นายกรัฐมนตรีพยายามมแสดงบทบาทเซลล์แมนดีเป็นเรื่องที่ดี ไม่มีอะไรไปคัดค้าน แต่คำถาม คือ ในฐานะเซลล์แมนประเทศ Post sale หรือปิดการขายได้หรือยัง ไปขายฝันกับดอกไม้และสายลม พอถึงเมืองไทยก็เอาฝันมาฝาก แถลงข่าวใหญ่โตไม่รู้ว่าเป็นการคาดฝันหรือมันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่
ทั้งนี้ คนไทยอยากเห็นนายกของเขาบินเหมือนเหยี่ยวมากกว่าที่แมลงวัน บินทั้งวัน แต่ไม่ได้อะไร นอกจากสร้างภาพ ไม่รู้จักเหนื่อย แต่เหยี่ยวขึ้นบินทีไร ก็จะไม่พลาดเป้า
ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ได้เปิดภาพนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นั่งอยู่ ในรถยนต์ประจำตำแหน่ง ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่เดินทางเข้าไปเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่บ้านจันทร์ส่องหล้า พร้อมระบุว่า นายกรัฐมนตรียังก้าวไม่พ้น นั่งรถประจำตำแหน่ง ไป “สโลซบถึงบ้านพัก“ และเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีไปเยี่ยมคารวะได้ โดยที่นายจุรินทร์ ยังไม่ได้เอ่ยชื่อ หรือพาดพิงถึงบุคคลภายนอกแต่อย่างใด
แต่ก็มี สส. จากพรรคเพื่อไทยลุกขึ้นประท้วง กล่าวหาว่า นายจุรินทร์ อภิปรายพาดพิงถึงบุคคลภายนอก และไม่เคารพข้อบังคับการประชุมอย่างชัดเจน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่านายจุรินทร์ กำลังพูดถึงระเบียบ ราชทัณฑ์ ปี 2560 โดยประธานการประชุมได้วินิจฉัยว่า การอภิปรายของนายจุรินทร์ยังอยู่ในประเด็น และไม่ได้พาดพิงถึงใคร
นายจุรินทร์ อภิปรายต่อว่า ปัญหาของรัฐบาลปัญหา กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ก็คือมีนายกรัฐมนตรีหลายคน ถือเป็นปัญหาใหญ่ทางการเมือง สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นและด้อยค่านายกรัฐมนตรี ที่มาตามรัฐธรรมนูญ ทำให้คนเข้าใจผิด ว่า มีนายกฯใหญ่และนายกฯเล็ก ทำให้เกิดอำนาจซ้อนอำนาจ เป็นรัฐบาลหุ่น จึงทำให้นายกรัฐมนตรีหงุดหงิดทุกครั้งที่ถูกถามเรื่องนี้ เพราะถือเป็นการดิสเครดิต นายกรัฐมนตรีโดยตรง จนกระทบกับการบริหารราชการแผ่นดิน อีกทั้งยังมีรัฐมนตรีที่ไร้ประสิทธิภาพ มีทั้งรัฐมนตรีที่โลกลืม ผิดฝาผิดตัว ต่างตอบแทน ทำการเฉพาะกิจ และรัฐมนตรีที่โลกเซ็ง เพราะโลกยังไม่ลืมแต่เห็นแล้วโลกก็เซ็ง
ยกตัวอย่างเช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จ้องแต่จะแยกเขี้ยวใส่ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ไม่ทำงานในหน้าที่ เช่นรายได้ 4 เดือน ต่ำกว่าเป้า ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรง /แถมกองทุนวินาศภัยก็ติดลบ จึงขอฝากไปยังนายกรัฐมนตรี ว่าการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไป ช่วยดูแลรัฐมนตรีที่โลกเซ็งด้วย
แต่สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำได้เร็วที่สุด สำเร็จเป็นรูปธรรมจับต้องได้มากที่สุด และเป็นคำตอบได้ว่ารัฐบาลนี้ “เพื่อใคร” นั่นคือการสร้างนักโทษพันธุ์ใหม่ ที่แม้แต่เทวดายังต้องยอมให้ใช้ชื่อ นับตั้งแต่คุกทิพย์ ปลอกคอทิพย์ เลี้ยงหลานทิพย์ สำนึกทิพย์ ไปจนถึงได้คืบเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา ซึ่งทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้หาก นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจ
ในฐานะคนไทยเข้าใจเรื่องบุญคุณต้องทดแทน แต่ต้องไปตอบแทนกันเองส่วนตัว ไม่ใช่เอาบ้านเมืองไปตอบแทน คนหนึ่งได้อำนาจ อีกคนได้อภิสิทธิ์จากการใช้อำนาจ อาจจะยุติธรรมสำหรับคน 2 คน แต่ไม่ยุติธรรมกับประเทศและหลักนิติธรรม ที่สั่งสมกันมานาน แม้นายกรัฐมนตรีจะยืนยันว่าทำไปตามหลักกระบวนการยุติธรรมก็ตามดังนั้น หาก นายกรัฐมนตรีจะอยู่ต่อไปและทำความชั่ว ก็เชื่อว่าเพียงแค่ปีเดียวก็ไม่มีใครอยากให้อยู่
ขอถามนายกรัฐมนตรีมีนโยบายปล่อยให้มีการนำคุกทิพย์โมเดล มาใช้ซ้ำ 2 อีกหรือไม่ ระเบียบใหม่ที่กระทรวงยุติธรรมกำลังจะนำเสนอออกมา เรื่องการกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ถูกคุมขังนอกเรือนจำ ที่มีการประชุมคณะกรรมการราชทัณฑ์ไปแล้ว จะรวมคดีทุจริต และคดีปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ด้วยหรือไม่ เพราะหากคนที่มีความผิดตามมาตรา 157 กลับไปติดคุกที่บ้านได้ นั่นเท่ากับว่ารัฐบาลส่งเสริมการทุจริตมุมกลับ และรัฐบาลมีนโยบายที่จะนิรโทษกรรมคดีทุจริตและคดีปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 หรือไม่
พร้อมส่งสัญญาณเตือนนายกรัฐมนตรีและพวกพ้องอย่าคิด ได้คืบเอาศอก เพราะในอดีตเคยมีคนพังเพราะไม่รู้จักพอมาแล้ว และที่เตือนก็เพราะมีคนไปยื่นร้ององค์กรต่างๆให้ตรวจสอบ กรณีนักโทษเทวดาแล้วถึง 24 คำร้อง ที่เป็นระเบิดเวลาระเบิดใส่ตัวเองได้ในอนาคต
ในช่วงท้ายนายจุรินทร์ยังขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบันดาลให้ทุกคนดวงตาเห็นธรรมโดยทั่วกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews