นายกฯ ลุกขึ้นแจง หลังจุรินทร์ สวนถูกเปรียบเป็นแมลง บอก ฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ที่จ้องคอยเล่นแต่การเมือง โต้ เป็นรัฐมนตรีเซ็ง แต่เป็นรัฐมนตรีแก้จนให้ประชาชน เย้ย อย่าเป็นฝ่ายค้านทำให้โลกงง วันหนึ่งก็ค้าน อีกวันมีข่าวขอเข้าร่วมรัฐบาล
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงบ่าย โดยระบุว่า ขอบคุณที่ตั้งแต่เช้าถึงบ่ายการอภิปรายหลายประเด็น ซึ่งตนมารับฟังตั้งแต่ช่วงเช้าไม่ได้ไปไหน โดยย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วอยู่หลังบัลลังก์ ซึ่งทำงานกันอยู่และฟังไปด้วย ตรงไหนที่ตนเป็นคำแนะนำหรือข้อคิดเห็นของท่านที่เป็นประโยชน์ตนก็จด และก็อยากมาให้ความกระจ่างออกมาตอบ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรื่องการดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติ และที่มีการเดินทางไปยังต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาส เพิ่มการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งตนมั่นใจว่า ผลจะตามมา เราปฏิเสธว่า ไม่มีหรอกครับ เปรียบคนเป็นแมลงวัน และฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ที่จ้องคอยเล่นแต่การเมืองทั้งที่รัฐบาลพยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆที่เป็นประโยชน์กับประชาชน แต่ส่วนตัวก็ไม่ว่าอะไร
ส่วนเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่า เราไม่มี หากมีก็ขอให้นำข้อมูลและหลักฐานมา โดยยินดีที่จะโต้แย้งหรือให้ความกระจ่างได้เพราะเรียนว่ารัฐบาลก็พร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชนต่อไป ซึ่งเรื่องของการลงทุนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนให้ประธานสภาผู้แทนการค้าไทย และ Boi. ชี้แจง และอธิบายผลสำเร็จอย่างชัด ติดตามงานต่อไปก็จะมีทั้งฑูตและคณะทำงานแต่ละประเทศที่ตนเดินทางไปเยือน ดำเนินการตามงานให้
เพื่อมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เรื่องการดึงดูดการลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ใช่ให้นักธุรกิจเขาเข้ามาอย่างเดียว หรือให้เงินเขาเข้ามาอย่างเดียว แต่หลายอย่างที่เราเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญคือ อัพทักษะการทำงานของแรงงาน รวมถึงบัณฑิตจบใหม่ และองค์กรที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับอุตสาหกรรมที่มีผลกำไรสูง อาทิ อุตสาหกรรมไฮเทค ก็จะต้องมีการใส่เข้าไปในข้อตกลงการลงทุน เพื่อให้ประชาชนของเราได้รับการเทรน ที่เหมาะสมทำให้ก้าวไปสู่โลกที่มีรายได้สูงขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงอีกว่า เรื่องที่บอกว่ายังไม่มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดจริงๆนั้น ถ้าทำงานจริงๆก็จะรู้ เพราะหาคนจะลงทุนมูลค่า 500,000 ล้านบาทหรือ ล้านล้าน ตนเชื่อว่าระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา และงานที่รัฐบาลก่อนทำมารัฐบาลนี้ก็มาสานต่อ รวมถึงรัฐบาลนี้ก็มีการติดต่อนักลงทุนใหม่ๆ ฉะนั้นหากจะมีการลงทุนมูลค่า 5 แสนล้านบาทก็จะต้องใช้เวลาสักนิดนึง
ซึ่งเราก็มั่นใจว่าอย่างไรสัญญาณที่เห็นมาเป็นบวก และอย่างไรก็ตามที่เรามีตัวเลขที่ชัดเจน ในไตรมาสที่ 4 ตั้งแต่ตนมารับตำแหน่ง ก็ได้เดินทางไปในประเทศที่มีเจตจำนงมาลงทุนในไทย มีเม็ดเงินเพิ่มขึ้น 2.5 เท่าหากเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งนี่เป็นตัวเลขที่ชัดเจนที่สุด สามารถพิสูจน์ได้ส่วนตัวเลขการลงทุน 583,000 ล้านบาท ที่ฝ่ายค้านสงสัยนั้น ก็เป็นเลขที่มีแผนเข้ามาแล้ว พร้อมยืนยันว่า เป็นตัวเลขจริง และยังมีอีกหลายบริษัทที่กำลังพูดคุยในตัวเลขไม่ใช่เป็นตัวเลขจับต้องไม่ได้ ฉะนั้นขอให้ท่านอดใจ เชื่อว่าอีก 2 ปีข้างหน้า เราจะเห็นเงินลงทุนเข้ามาในไทยอย่างมหาศาล โดยตนขอใช้คำว่า สึนามิแห่งการลงทุน ฉะนั้นขอให้ท่านมั่นใจเพราะตนยังมั่นใจ
ส่วนการที่บอกว่าตนไปขายการลงทุนให้กับนักลงทุนต่างประเทศ และกลับบอกว่าเศรษฐกิจวิกฤต ตนว่าเรื่องที่เราไปโฆษณาประเทศ กับเรื่องเศรษฐกิจ คนละเรื่องกัน โดยเรื่องที่ว่าวิกฤตและไม่วิกฤตเป็นเรื่องที่โต้ตอบและเถียงกันไป แต่ถึงอย่างไรเรื่องหนึ่งที่เราไม่ต้องโต้เถียงกันเลยก็คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งตนมั่นใจว่าเราทุกคนในสภาฯ มีความมั่นใจว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยเกิดขึ้นแล้ว ฉะนั้นตนเชื่อว่าเรามาถูกทาง
ซึ่งท่านอาจจะไม่คุ้นเคยในการทำธุรกิจ ออกมาเชิญชวนใครเข้ามาลงทุน เพราะถ้าเราไม่ออกไปเขาจะทราบได้อย่างไรว่าเรามีความพร้อมในทุกมิติ หรือมีสิ่งดีที่ซ่อนเร้นอยู่ อาทิ ประชากรที่มีคุณภาพ พลังงานสะอาด ที่มีศักยภาพสูงมาก ความสามารถในการเป็นศูนย์กลางการบิน และเรื่องอาหาร การท่องเที่ยว แน่นอนว่าหากจะมีการย้ายฐานการผลิตเข้ามายังประเทศไทย เรื่องของโรงพยาบาลและโรงเรียนระดับโลกของไทยก็มีอยู่จำนวนมาก
จึงต้องทำให้เขาสบายใจ ทั้งนี้สำคัญในสิ่งอื่นใดจุดยืนในการต่างประเทศของเรา มีความเป็นกลาง ทำให้หลายประเทศอย่างจีนญี่ปุ่น สหรัฐ อินเดีย ไต้หวัน มีความสบายใจในการเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งตนมั่นใจว่า ถ้าหากไม่ใช่ตนขอให้เชื่อในศักยภาพของประเทศ ตามที่ตนได้เอ่ยมาในเบื้องต้น
นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า สภาพในปัจจุบันและศักยภาพที่ไทยมี ยังมีช่องว่างเหลืออยู่อีกมาก ฉะนั้นการที่เราออกไปพูดคุย และแนะนำให้เขาเข้ามาลงทุนตนจึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ส่วนการที่ฝ่ายค้านออกมาระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้องเป็นตำแหน่งของตนนั้น เป็นรัฐมนตรีว่าการที่เซ็ง ไม่จริงหรอก เพราะการขับเคลื่อนนโยบายของตนมั่นใจว่า เป็นรัฐมนตรีคลัง ที่แก้จนให้กับประชาชน แต่ถึงอย่างไรตนขอฝากไว้สักนิดว่า ท่านอย่าเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงงก็แล้วกัน วันหนึ่งก็จะเป็นฝ่ายค้าน อีกวันหนึ่งก็มีข่าวว่าจะขอเข้าร่วมรัฐบาล กลัวประชาชนจะงงมากกว่า
ส่วนเรื่องการจ้างงาน ตัวเลขไตรมาส 4 ของปี 2566 อยู่ที่ 330,000 คน ลดลงจากปีก่อน 29% ที่มีผู้ว่างงานกว่า 462,000 คน โดยทำให้ตัวเลขว่างงานเหลืออยู่เพียง 0.8% ของกำลังแรงงาน สวนสถานการณ์บัณฑิตว่างงาน ในไตรมาส 4 ปี 2566 ว่างงาน 4.4% ลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 6.1% ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงตลาดแรงงานบัณฑิตจบใหม่มีสัญญาณดีขึ้น หากเปรียบเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ที่ตนชี้แจงนั้นไม่ได้บอกว่าเราทำหน้าที่เสร็จแล้ว แต่ตนเชื่อว่าเรามาในทิศทางที่ดีและจะพยายามทำต่อไป มั่นใจว่าแรงงานไทยก็จะดีขึ้น
ขณะที่เรื่องยางพารา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และให้ข้อมูลไปแล้วอย่างครบถ้วน ซึ่งตนขอเสริมเล็กน้อยว่า ที่ท่านบอกว่ารัฐบาลก่อน ขนาดปราบยางเถื่อน ราคายางพาราก็ยังไม่ขึ้น ซึ่งตนก็ยังไม่มั่นใจว่าท่านไปปราบที่ไหน แต่ตนขอที่แจ้งว่าการปราบของตน ไม่ได้คุยแค่ศุลกากร ไม่ได้คุยแต่กระทรวงเกษตรฯ หรือฝ่ายความมั่นคง แต่คุยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งทำงานกันอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบอย่างใกล้ชิดทัน ฉะนั้นเรามั่นใจว่า การปรายเรื่องอย่างเถื่อน มีผลชัดเจน
ส่วนที่ราคายางปรับขึ้นนั้นแน่นอนว่า เราสามารถควบคุมที่อยู่ 30% ของทั่วโลก ประเทศที่เป็นการผู้นำในการส่งออกยางและใช้จ่าย ฉะนั้นเรามีการประกาศว่าจะปรับยางคืนอย่างชัดเจน หากผู้ซื้อมีความมั่นใจในรัฐบาล แน่นอนปริมาณความต้องการซื้อเพิ่ม ฉะนั้นการที่ตนบอกว่าราคายางขึ้นไม่ใช่เรื่องของอุบัติเหตุแต่เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการกับทุกฝ่าย อันนี้ตนขอขอบคุณผบ.ทบ, รักษาราชการแทนผบ.ตร, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมศุลกากรด้วย พร้อมยืนยันว่า จะทำต่อไป ยืนยันครับ ตัวจริงเสียงจริง รัฐบาลเพื่อประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews