พาณิชย์-เกษตร เครือข่ายพันธมิตร เดินหน้าลดราคาปุ๋ย
พาณิชย์-เกษตร เครือข่ายพันธมิตร เดินหน้าลดราคาปุ๋ย เพื่อเกษตรกรต่อเนื่องเฟส2 อีก 3เดือน 5.1ล้านกระสอบ
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายใน ได้ดำเนินการตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรด้านต้นทุนปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ย ซึ่งมีความสำคัญต่อปริมาณและคุณภาพผลผลิตตลอดจนรายได้ของเกษตรกร
กรมฯ จึงร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร) และผู้ผลิต/ผู้นำเข้าปุ๋ย 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร ขยายเวลาและเพิ่มปริมาณปุ๋ยลดราคาให้แก่เกษตรกร ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการเฟสที่หนึ่ง จำนวน 3.1 ล้านกระสอบ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึง มีนาคม 2567 และเนื่องจากในเดือนเมษายน เป็นต้นไปจะเข้าสู่ช่วงที่เกษตรกรใช้ปุ๋ยกันมากขึ้น
โดยเฉพาะการปลูกข้าวนาปีในพื้นที่ภาคกลางที่จะเริ่มปลูก ในเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลูกมากในช่วงเดือนมีนาคม – มิถุนายน มันสำปะหลังที่ยังคงมีการเพาะปลูกอยู่ในเดือนนี้ ตลอดจนพืชอื่นๆ เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ผลไม้ ที่มีการใช้ปุ๋ยตลอดทั้งปี จึงได้เนินการต่อเนื่องในเฟสที่สอง
ซึ่งเป็นส่วนต่อขยาย เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2567 มีปริมาณปุ๋ยเข้าร่วมโครงการ 5.1 ล้านกระสอบ 69 สูตร ครอบคลุมการปลูกพืชทุกชนิดทั้งนาข้าว พืชไร่ พืชสวน และไม้ผล ส่วนลดสูงสุดถึงกระสอบละ 50 บาท เช่น ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 ราคาโครงการกระสอบละ 755 – 810 บาท ลดสูงสุด 35 บาทต่อกระสอบ สูตร 15-15-15 ราคาโครงการกระสอบละ 930 – 1,000 บาท ลดสูงสุด 50 บาทต่อกระสอบ สูตร 16-20-0 ราคโครงการกระสอบละ 805 – 840 บาท ลดสูงสุด 50 บาทต่อกระสอบ เป็นต้น
การดำเนินโครงการดังกล่าว คาดว่าจะสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรได้กว่า 280 ล้านบาท เมื่อรวมกับเฟสแรกก็จะช่วยลดต้นทุนเกษตรกรได้ประมาณ 436 ล้านบาท เกษตรกรที่สนใจสามารถสั่งซื้อผ่านสถาบันเกษตรกรที่ตนเป็นสมาชิก เช่น สหกรณ์การเกษตร ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน วิสาหกิจชุมชน และแปลงใหญ่
จากนั้นสถาบันเกษตรกรจะเป็นผู้รวบรวมยอดการสั่งซื้อแจ้งไปยังสำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ในแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ดี เกษตรกรที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสถาบันเกษตรกรอยู่ในขณะนี้ก็สามารถรวมกลุ่มกันซื้อ หรือไปซื้อปุ๋ยจากสถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.dit.go.th ซึ่งผลการดำเนินการเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 มีสถาบันเกษตรกรสั่งซื้อปุ๋ยในโครงการแล้วจำนวน 20 แห่ง รวมปริมาณปุ๋ย 235,710 กระสอบ
นายวัฒนศักย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ราคาปุ๋ยในตลาดโลก ณ ขณะนี้ แม้ว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยังไม่คลี่คลายลงและมีความขัดแย้งเกิดขึ้นในบางประเทศแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาปุ๋ยในตลาดโลกมากนัก ราคาปุ๋ยจึงยังคงทรงตัวหรือปรับขึ้น-ลงในช่วงแคบๆ
ปัจจุบันนี้ราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีในประเทศได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ที่เป็นช่วงที่ราคาปุ๋ยปรับสูงขึ้นสูงที่สุด ประมาณ 40% – 50% และปริมาณสต็อกปุ๋ย ณ สิ้นเดือน มี.ค. 67 อยู่ที่ 1.22 ล้านตัน ขอให้พี่น้องเกษตรกรมั่นใจได้ว่ามีปุ๋ยเพียงพอสำหรับการเพาะปลูก ไม่มีปัญหาการขาดแคลนปุ๋ยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ หากพบว่ามีการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้า สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือทางแอปพลิเคชันไลน์ @MR.DIT
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews