นายกฯเปิดประชุมESCAP เน้นย้ำบรรลุเป้าหมายSDGs ผลักดันใช้นวัตกรรมดิจิทัล เพื่อการพัฒนา พร้อมจัดการความเสี่ยงนวัตกรรมดิจิทัล ใช้ดิจิทัลแบบ ปลอดภัย มั่นคง เท่าเทียม
ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดการประชุมประจำปีของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก สมัยที่ 80 (The 80th Session of the United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific: ESCAP)
โดยนายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติในการเป็นประธานเปิดการประชุมประจำปีของ ESCAP สมัยที่ 80 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “การใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในเอเชีย-แปซิฟิก”โดยประเทศไทยมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ในการเป็นศูนย์ปฏิบัติงานประจำภูมิภาคของบุคลากรและตัวแทนของ UN มากกว่า 5 พันคน สะท้อนบทบาทและความมุ่งมั่นของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ
สำหรับหัวข้อการประชุมในครั้งนี้เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจุบัน โดยการประชุม SDG Summit และการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ณ นิวยอร์ก ในปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีประทับใจกับความร่วมมือกันระหว่างสหประชาชาติกับประเทศสมาชิก ในการดำเนินมาตรการเชิงรุก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี 2030 พร้อมเชื่อว่า หากทุกประเทศมีเจตนารมณ์และลงมือปฏิบัติร่วมกันอย่างจริงจังจะทำให้บรรลุเป้าหมาย เพื่ออนาคตที่เจริญรุ่งเรืองของทุกคน
ซึ่งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เป็นภูมิภาคที่มีชีวิตชีวาและมีพลวัต อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในปัจจุบันจะไม่สามารถทำให้บรรลุเป้าหมาย SDGs ได้ จนกว่าจะถึงปี 2062 จึงจำเป็นต้องแสวงหาวิธีใหม่ ๆเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเร่งด่วน โดยนายกรัฐมนตรีมองเห็นถึงความสำคัญของการนำนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพดีขึ้น ในราคาถูกลง พร้อมเสนอแนวทาง 2 ประการ สำหรับการดำเนินการทางนวัตกรรมดิจิทัล คือ การส่งเสริมศักยภาพให้กับคนและชุมชน ผ่านการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล โดยยึดคนเป็นศูนย์กลาง ผ่านการดำเนินการตามวิสัยทัศน์ Ignite Thailand
มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัล ควบคู่กับการพัฒนาใน 8 ด้าน นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัล ซึ่งครอบคุลมไปถึงกลุ่มเปราะบาง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้คนและชุมชน พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืน
สำหรับประเทศเกษตรกรรมหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลถือเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหาร จึงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมทางการเกษตร สิ่งนี้จะพัฒนาไปสู่ระบบอาหารที่ยั่งยืน การทำฟาร์มเกษตรอัจฉริยะที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
รวมไปถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการความเสี่ยงจากนวัตกรรมดิจิทัล แม้การใช้นวัตกรรมดิจิทัลจะมีประโยชน์อย่างมาก แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน นายกรัฐมนตรีขอให้ร่วมกันหามาตรการจัดการปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล รวมไปถึงความร่วมมือเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีการใช้นวัตกรรมดิจิทัลที่ปลอดภัย มั่นคง และเท่าเทียม
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำถึงบทบาทของ ESCAP ต่อการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมมองว่า ศักยภาพและโอกาสของความร่วมมือจะยังเติบโตได้อีกมาก ซึ่งไทยพร้อมที่จะสนับสนุน และส่งเสริมการดำเนินการร่วมกันของ ESCAP ซึ่งจะส่งผลประโยชน์อย่างมหาศาลต่อภูมิภาคนี้ รวมถึงเสนอให้ประเทศสมาชิกแลกเปลี่ยนความรู้ และแนวปฏิบัติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางด้านดิจิทัล และนำไปสู่การพัฒนาอย่างอย่างยั่งยืนที่รวดเร็วมากขึ้น
ทั้งนี้ การประชุมในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีในการส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคผ่านนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDGs และหวังว่าจะนำแนวความคิดจากการประชุมครั้งนี้เปลี่ยนไปสู่แนวนโยบายเพื่อปฏิบัติร่วมกันในระดับชาติและภูมิภาคต่อไป พร้อมเชื่อมั่นว่า ผลลัพธ์ของการประชุมฯ จะสามารถนำไปต่อยอดในการประชุม High-Level Political Forum การประชุม Summit of the Future และ Global Digital Compact ในปีนี้ ซึ่งไทยพร้อมเสริมสร้างอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล และสนับสนุนความร่วมมือกับ ESCAP เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews