“สนั่น” ดัน “พจน์ อร่ามวัฒนานนท์” เป็นประธานหอการค้าคนต่อไป ทำงานแบบไร้รอยต่อ เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ผ่านมา นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยที่เหลือวาระการดำรงตำแหน่งอีก 1 ปี ได้เสนอชื่อ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ เป็นรองประธานคนที่ 1 ซึ่งหมายความว่าจะเป็นผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นประธานกรรมการหอการค้าคนถัดไป
โดยนายสนั่น กล่าวว่า หอการค้ามีประเพณีที่จะให้แคนดิเดทได้มีการเวลาเตรียมตัวประมาณ 1 ปี เพื่อให้การทำงานของหอการค้ามีความต่อเนื่อง โดยหอการค้าต่างประเทศ ที่เป็นสมาชิกสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้แสดงความเห็นว่าเป็นแนวทางที่ดีเพราะจะได้ไม่มีอะไรเซอร์ไพรซ์
นอกจากนี้ การทำงานของหอการค้าไทย ในช่วง 91 ปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่าองค์กรแห่งนี้มีวัฒนธรรมและสร้างรูปแบบการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นจากรุ่นสู่รุ่นอย่างไร้รอยต่อ
สำหรับการทำงานในวาระที่เหลือ 1 ปี นับจากนี้ ได้มองความท้าทายที่หลากหลาย โดยจะมีส่วนร่วมในการผลักดันเศรษฐกิจให้โตไม่ต่ำกว่า 3% แม้เป็นเรื่องที่ท้าทายและหลายโจทย์ยังต้องช่วยกันแก้ไข โดยหอการค้าไทยมีแผนที่จะขับเคลื่อน Flag ship Project ร่วมกับรัฐบาล เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตได้ถึง 3% ซึ่งเป็นภารกิจอีก 1 ปีที่เหลือของคณะกรรมการปัจจุบัน ที่จะขับเคลื่อนให้สำเร็จ 5 เรื่อง ประกอบด้วย
(1)การยกระดับ 10 จังหวัดสู่เมืองหลัก ได้แก่ แพร่ ลําปาง ราชบุรี นครศรีธรรมราช ตรัง นครพนม ศรีสะเกษ นครสวรรค์ จันทบุรี และกาญจนบุรี โดยมีเป้าหมาย
สร้างการเติบโตจากภายในประเทศ ผ่านการกระจายความเจริญให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น
(2)ยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจำเป็นต้องอาศัยศักยภาพของเอสเอ็มอี ที่มีมากสุดของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเอสเอ็มอีบางส่วนเพิ่งเริ่มฟื้นตัว แต่ปัญหาหลักของเอสเอ็มอีไทย คือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนหมุนเวียนที่ยังยากลำบาก
(3)การให้ข้อแสนอแนะต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ให้รวดเร็วและมากที่สุดภายใต้ระยะเวลา 5 เดือนจะช่วยให้เม็ดเงินกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ เช่น การดำเนินการของ Digital Wallet ที่จะเลื่อนไปเป็นไตรมาสที่ 4 มองว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าไป ซึ่งหากเป็นไปได้อยากจะให้มีเร่งจัดสรรงบประมาณปี 2567 โดยจัดสรรให้เฉพาะกลุ่มเปราะบางที่เดือดร้อนก่อนแล้วค่อยให้กลุ่มที่เดือดร้อนน้อยที่เหลือในระยะต่อไปก็จะช่วยเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้มากกว่าการรอไตรมาส 4
(4)การผลักดันบทบาทไทยสู่เวทีระดับนานาชาติ หอการค้าไทยเห็นด้วยกับรัฐบาลไทยที่สมัครสมาชิก OECD อย่างเป็นทางการ ซึ่งประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการเข้าเป็นสมาชิก OECD คือ การยกระดับมาตรฐานประเทศไทยให้เป็นสากลมากยิ่งขึ้นในหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ การค้า และความโปร่งใส ตลอดจนยกระดับในด้านกฎหมาย
(5)การใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้านนายพจน์ กล่าวว่า การค้าและการลงทุนของไทยยังมีทิศทางที่สดใส แต่ควรมีการอัพเกรดการลงทุนของผู้ประกอบการไทยที่ลงทุนไปแล้ว 40-50 ปี เพราะองค์ความรู้ในปัจจุบันเปลี่ยนไป ซึ่งทำให้การลงทุนที่สร้างมูลค่าสูงอยู่ในมือต่างประเทศ รวมทั้งกติกาโลกที่เปลี่ยนแปลงไปจึงต้องทำให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนตามให้ทัน
นอกจากนี้การแก้ไขกฎหมายที่มีการพิจารณาด้วยมุมมองทางการเมืองอาจทำให้ขัดต่อกติกาโลก โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ประมง ที่อยู่ในการพิจารณาวาระ 2 ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้รับสัญญาจากสหภาพยุโรป ว่าจะทำให้ไทยถูกพิจารณาใบเหลือหรือแดง จากการทำประมงที่ผิดกฎหมายและไร้การควบคุม
“ภาคเอกชนได้เสนอรัฐบาลและหารือกับกระทรวงเกษตรฯ เพื่อหาทางรอมชอม เพราะการเก็บค่าธรรมเนียมนำเข้าส่งออกที่ระบุในร่างกฎหมายอาจทำให้ไทยโดยมาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษี”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews