วอร์รูมเกาะติดเมียนมา พบแนวโน้มสถานการณ์ดีขึ้น 48 ชม.ไม่มีเสียงยิงปะทะ แต่มี ผู้หนีภัยความไม่สงบ เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ย้ำไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับเมียนมา
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา เมื่อวานนี้ รับทราบ รายงานสถาการณ์ จากฝ่ายความมั่นคงว่า สถานการณ์ยังไม่แน่นอน มีการขยายพื้นที่สู้รบ ตามแนวชายแดนไทย ที่ติดกับเมืองเมียวดี เพราะยังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่กลุ่มสู้รบต้องการครอบครอง โดยในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา แนวโน้มสถานการณ์ดีขึ้น ไม่มีเสียงยิงปะทะ เกิดขึ้นแล้ว
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า มีแนวโน้มที่จะมีผู้หนีภัยความไม่สงบ เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหน้าที่ประสานงานกับต่างประเทศ จากส่วนกลาง พร้อมทั้งสั่งการให้ สมช. เป็นหน่วยงานหลักในการประเมินสถานการณ์ อย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลไทย ยืนยัน ว่า การสู้รบครั้งนี้ไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับเมียนมา ดังนั้น ไทยจะเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติ ตามหลักการสากล เช่น หากเป็นทหารขอหนีภัยเข้ามา ก็จะต้องปลดอาวุธ แต่งกายชุดพลเรือน หากต้องการเดินทางกลับ จะต้องได้รับคำยืนยันว่า กลับไปแล้วปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมา ก็ส่งพลเรือนเมียนมา กลับไปแล้วเป็นจำนวนมาก
ส่วนผลกระทบกับไทย ยังไม่รุนแรง โดยเฉพาะ การค้าชายแดน ที่ประเมินว่า เป็นผลกระทบเพียงชั่วคราวเท่านั้น และยอมรับว่า กระทบเพียง 20% คาดว่า เร็วๆ นี้สถานการณ์การค้าชายแดนจะสามารถกลับมาเปิดได้ตามปกติ
ทั้งนี้ หลังจากลงพื้นที่ ของ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตนี และ รัฐมนตรีว่าหารกระทรวงมหาดไทย และ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อติดตามสถานการณ์ และเยี่ยมให้กำลังเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผู้หนีภัยสู้รบ เมื่อวานนี้ ได้รับรายงานจากหน่วยงานในพื้นที่ว่า
ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ไม่มีการสู้รบเกิดขึ้นบริเวณ สะพานมิตรภาพ ไทย-เมียนมา แห่งที่2 แล้ว ส่วนผู้หนีภัย รอบแรก 3,000 กว่าคน กลับไปแล้ว เหลือตกค้างราว 650 คน พร้อมยืนยันว่าไทย ดูแลผู้หนีภัยตามหลักมนุษยธรรม
และเช้าวันนี้สถานการณ์ ดีขึ้นอย่างมาก แต่ก็ติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีความพร้อมรับสถานการณ์ ทุกรูปแบบ และจะดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ให้ปลอดภัยที่สุด พร้อมย้ำว่า ติดตามด้านการข่าว ตลอดเวลา ทราบว่า มีความพยายาม ที่จะเคลื่อนไหว เพื่อยึดคืน พื้นที่ แต่สถานการณ์ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงยังให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้
ส่วนการที่ไทยจะเป็นตัวกลางในการเจรจา ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจาก ทั้ง 2 ฝ่าย และได้รับรายงานว่า มีความพยายามจะเจรจากันเองเป็นการภายในอยู่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
