ปลัดคลัง เมินผู้ว่าการแบงค์ชาติ เตือนทบทวนหลักเกณฑ์แจกเงิน10,000 ชี้เป็นเรื่องเก่า เผย คกก.- ครม. ลุยเดินหน้าตามแผนเดิม ไม่มีสะดุด
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการเข้าพบนายกรัฐมนตรี โดยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีให้ทบทวน พร้อมตั้งข้อสังเกตในโครงการ เติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่า ทางผู้ว่า การธนาคารแห่งประเทศไทย สามารถให้ความเห็นมาได้
ทั้งเห็นด้วยและมีข้อทักท้วง ซึ่งเราก็รับฟัง และการประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ มีการพิจารณาเรื่องของหลักการ และขั้นตอนการดำเนินการหลังจากนี้ไป แต่ละ มีระเบียบและกฎหมายที่ต้องดำเนินการตามนั้น พร้อมระบุว่า ความเห็นของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ได้ส่งผลให้โครงการดังกล่าวสะดุดลง และขณะนี้ยังมีเวลาในการพิจารณา ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องเริ่มดำเนินการได้แล้ว เนื่องจากได้ผ่านการเห็นชอบในหลักการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนความเห็นของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่ออกมาระบุว่า ลดขอให้ลดกลุ่มเป้าหมายเหลือเพียงกลุ่มเปราะบางที่ มีรายได้น้อยประมาณ 15 ล้านคน จะนำข้อเสนอดังกล่าวมาพิจารณาด้วยหรือไม่ ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุว่า ทางผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เคยให้ความเห็นเช่นนี้มาตั้งแต่ต้น
จนผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบาย โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่ากลุ่มใดเป็นผู้ที่เหมาะ ซึ่งได้ผ่านขั้นตอนนั้นไปทั้งหมดแล้ว ซึ่งสิ่งที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นมาก็เป็นข้อเสนอแนะเดิมที่เคยพูดในที่ประชุมมาโดยตลอดไม่มีอะไรเป็นประเด็นใหม่ ซึ่งในที่ประชุมก็ได้มีการชี้แจงต่อข้อกังวลธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามว่าจะมีการชี้แจงต่อธนาคารแห่งประเทศไทยอีกครั้งหรือไม่ นายลวรณ ยืนยันคำเดิมว่า ได้มีการชี้แจงต่อธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และผู้ว่าการฯ จะไม่ได้มาเข้าร่วมการประชุมก็ตามอะไรคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เนื่องจากเราพิจารณาในรูปแบบของคณะกรรมการ ซึ่งทางผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้วย และคณะกรรมการท่านอื่นๆ อีก 20 กว่าคน ก็ไม่ได้มีความเห็นเช่นนี้ พร้อมยืนยันว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะเดินหน้าต่อตามแผนเดิม ตามมติ ครม.
ส่วนจะมีการส่งคณะกรรมการกฤษฎีการตีความ เกี่ยวข้องกับข้อกังวลของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือไม่ ปลัดกระทรวงการคลังยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการว่าต้องทำด้วยความรอบคอบ ในประเด็นที่เราเห็นว่าไม่มีความชัดเจนก็ให้มีการปรึกษากฤษฎีกา ในเรื่องข้อกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้มีการส่ง เรื่องดังกล่าวไปยังกฤษฎีกาแต่อย่างใด เพราะการใช้งบประมาณ ธกส. เป็นไปตามมาตรา? 28 ของปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในเดือนตุลาคม ถือว่ายังคงมีเวลาอยู่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews