Home
|
ข่าว

“จุรินทร์” ยืดหยุ่นดี แก้ข้อบังคับโหวตหน.ชี้ดิจิทัลยังวนที่เดิม

Featured Image
“จุรินทร์” มองยืดหยุ่นดี แก้ข้อบังคับพรรคโหวตหัวหน้า จาก 70/30 เป็น 40-40-20 ปัดแสดงความเห็นปรับ ครม. เชื่อคนทั้งประเทศจับตาอยู่ ชี้ ดิจิทัลวอลเลต ยังอยู่ที่เดิม

 

 

 

 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมใหญ่ สามัญประจำปี 2567 ว่า การประชุมวันนี้เป็นไปตามกฎหมาย และมีวาระเรื่องการปรับเปลี่ยนข้อบังคับพรรคส่วนกรณีที่จะมีการแก้ไข ข้อบังคับพรรคเรื่องการโหวตหัวหน้าพรรค จากร้อยละ 70:30 มาเป็นสัดส่วนร้อยละ 40:40:20 มองว่า

 

 

มีความยืดหยุ่นใกล้เคียงกับสถานการณ์ที่เหมาะสม ส่วนท้ายที่สุดจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุม และมองว่าเป็นการเปิดกว้างขึ้น สำหรับกรณีการแก้เงื่อนไข การสมัครเป็นกรรมการบริหารพรรค ที่เดิมจะกำหนดไว้5ปี สำหรับการเป็นสมาชิกต่อเนื่อง โดยเปลี่ยนมาเป็น2ปี เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่

 

 

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังสงวนท่าทีที่จะแสดงความคิดเห็นถึงตัวบุคคลในการปรับคณะรัฐมนตรี เนื่องจากยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ลงมา ซึ่งหากมีการปรับจริง ตนมองว่า ครั้งนี้ ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ใช้ระยะเวลานานขนาดนี้ และตนก็เชื่อว่าคนที่ติดตามการเมืองมานานก็น่าจะรู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร ขณะที่ส่วนตัวเห็นใจนายกรัฐมนตรี เพราะว่าในบางรัฐบาลอำนาจไม่ได้อยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่ง ดังนั้น จึงอาจจะต้องใช้ระยะเวลา ในการบริหารจัดการให้จบ แต่ในฐานะที่ตนเป็นฝ่ายค้าน ก็ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล

 

 

ทั้งนี้ การปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย สุดท้ายต้องไปผ่านคนบางคน เพื่อนำรายชื่อไปให้ดู นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ต้องมองว่าฝ่ายค้านจะมองยังไงในเรื่องนี้ เพราะคนทั้งประเทศจับตาดูอยู่ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ซึ่งก็ไม่ได้เกินความคาดหมาย เพราะเมื่อรัฐบาลเกิดมาอย่างนี้ ก็ต้องเป็นไปอย่างนี้ประจำ มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย

 

 

นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีนโยบายเงินดิจิทัลวอเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาล โดยมองว่าสถานการณ์ ณ ตอนนี้ก็กลับไปในจุดเดิม คือ ตอนเริ่มต้น ตอนที่จะประกาศว่า พระราชบัญญัติกู้เงิน 500,000 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น และครั้งนี้ก็ยังเห็นว่าคลุมเครือ แม้จะมีมติ ครม.ออกมา ที่เห็นชอบในหลักการและไม่ได้มีอะไรใหม่ ซึ่งรายละเอียดที่ต้องมีการพิจารณา นั่นคือหัวใจสำคัญ แต่ถึงขนาดนี้กระทรวงการคลัง ก็ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ขณะเดียวกัน เห็นว่าผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีความรู้ ด้านการเงินการคลังของประเทศ

 

 

จำนวนไม่น้อย มาแสดงความเห็นถึงความหมิ่นเหม่ต่อข้อกฎหมาย หากว่ารัฐบาลต้องการให้เกิดความชัดเจน ก็สามารถทำได้ เช่น การส่งกฤษฎีกา เพื่อวินิจฉัย ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบเหตุผลว่า เหตุใดต้องยื้อเวลา ในการส่งกฤษฎีกา โดยเปรียบว่าเหมือนเดินอยู่บนเส้นด้าย เพราะความชัดเจนในข้อกฎหมายยังคงถกเถียงกันอยู่ ซึ่งเป็นคนที่เชี่ยวชาญในด้านการเงินการคลังทั้งนั้น

 

 

ประชาชนก็รอด้วยความหวัง ที่สุดท้ายแล้วจะจริงหรือไม่ ไม่ได้แปลว่า ครม. เห็นชอบในหลักการและเป็นไปตามนี้ โดยชี้ว่าเป็นหน้าที่ที่รัฐบาลจะต้องทำ เมื่อหาเสียงแล้ว ได้คะแนนเสียงจากประชาชน ก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้มา แต่ก็ต้องทำให้ถูกกฎหมาย และคุ้มค่ากับประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่คุ้มค่าแค่พรรคการเมือง

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube