“ส.ส.คริษฐ์-ก้าวไกล” ซัดภาครัฐมัดมือชก เร่งขนย้ายกากแคดเมียมกลับ จ.ตาก โรงพักคอยยังไม่พร้อม หลายจุดเสี่ยงเกิดการรั่วไหล ยังไม่มีแผนรองรับหากเกิดอุบัติเหตุ จี้ทบทวนแผนให้รอบคอบ
นายคริษฐ์ ปานเนียม สส.ตาก เขต 1 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตาก เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง และตัวแทนประชาชนในพื้นที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงพักคอยกากแคดเมียมที่ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอเมืองฯ จังหวัดตาก ซึ่งตั้งแต่วันนี้ (29 เมษายน) เป็นต้นไป ภาครัฐจะเริ่มทยอยขนย้ายกากแคดเมียม
ที่พบในจังหวัดต่าง ๆ ทั้งสมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพฯ มาพักไว้ที่จุดนี้ ระหว่างรอการซ่อมบ่อฝังกลบที่ยังไม่แล้วเสร็จ
นายคริษฐ์ กล่าวว่า เดิมทีภาครัฐวางกำหนดการขนย้ายกากแคดเมียมกลับมายังจังหวัดตากในวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม แต่อยู่ดี ๆ ก็รีบรวดรัดมาเริ่มขนย้ายในวันนี้ (29 เมษายน) โดยแจ้งประชาชนช่วงเย็นวันเสาร์ (27 เมษายน) หรือแค่ 2 วันล่วงหน้า นี่คือกระบวนการทำงานของรัฐราชการไทยแบบลวก ๆ ไม่รอบคอบ และไม่ใส่ใจประชาชนหรือไม่ โดยหลังจากได้ลงพื้นที่สำรวจโรงพักคอย ตนพบจุดบกพร่องและมีข้อกังวลใน 5 ประเด็น คือ
1) เดิมทีภาครัฐกล่าวว่าจะเปลี่ยนจากการปูพื้นรองกากแคดเมียมด้วยแผ่นดินเหนียวเทียม (GCL) มาเป็นการเทพื้นคอนกรีต แต่วันนี้กลับมีมติว่าจะปูด้วยแผ่นดินเหนียวเทียมเช่นเดิม และที่สำคัญกว่านั้น การวางแผ่นดินเหนียวเทียม จะต้องติดตั้งบนดินที่บดอัดแล้ว ไม่มีกรวดหรือหินขนาดใหญ่กว่า 3 เซนติเมตร แต่สิ่งที่พบคือไม่มีการบดอัดดินแต่อย่างใด เป็นเพียงการใช้ดินลูกรังมาเทเกลี่ยแล้วปูแผ่นดินเหนียวเทียมทับ
ทั้งนี้ ตนลองเปิดแผ่นดินเหนียวเทียมเองกับมือ เปิดปุ๊บเจอปั๊บ หินก้อนเท่ากำปั้น แล้วแบบนี้จะไว้ใจกันได้อย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างเร่งรีบไปหมดโดยไม่มีการเตรียมความพร้อมแบบ 100% แน่นอนว่าเมื่อเราทักท้วง เขาก็ขอแก้ไขและบอกว่าจะรีบดำเนินการ โดยพรุ่งนี้จะรีบจัดรถบดอัดเข้ามาดำเนินการให้
2) ด้านมาตรฐานของแผ่นดินเหนียวเทียม ตนได้สอบถามภาครัฐและเจ้าของโรงงานไปแล้วว่าแผ่นดินเหนียวเทียมมีความหนาเท่าใด มีคุณสมบัติทางวิศวกรรมที่ถูกต้องและสามารถป้องกันการรั่วไหลของกากแคดเมียมได้จริงหรือไม่ แต่กลับยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ทราบเพียงว่าเทียบเท่ากับดินเหนียวสูง 60 เซนติเมตร ซึ่งนี่คือสาเหตุที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องให้ทำพื้นคอนกรีต เพราะไม่รู้ว่าจะต้องจัดเก็บกากแคดเมียมไว้ที่โรงพักคอยแห่งนี้นานแค่ไหน และแผ่นดินเหนียวเทียมจะรองรับได้นานเพียงใด
3) เดิมมีการเสนอให้ภาครัฐขนย้ายกากแคดเมียมเข้ามายังที่โรงพักคอยนี้โดยตรง ไม่ต้องย้ายถ่ายเทหลายขั้นตอน แต่วันนี้ได้รับคำตอบว่าจะมีการจัดพักไว้บนลานที่ห่างจากจุดโรงพักคอย 200-300 เมตรแล้วจะทำการยกด้วยรถแบ็กโฮใส่รถบรรทุกเคลื่อนย้ายต่อมายังอาคาร คำถามคือ ระหว่างการขนถ่ายมีมาตรการป้องกันการปนเปื้อนอย่างไร ซึ่งตนได้รับคำตอบเพียงว่า “ปลอดภัยแน่นอน” โดยไม่มีการอธิบายเพิ่มเติม
4) การเตรียมความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น หากถุงฉีกขาดระหว่างขนย้าย เกิดอุบัติเหตุระหว่างการขนส่ง เกิดฝุ่นผง รวมถึงหากเกิดฝนตกทั้งระหว่างการขนย้ายและภายในโรงพักคอยที่ดูเหมือนหลังคาจะมีรูรั่วอยู่หลายจุด จะทำอย่างไร ซึ่งในส่วนนี้ตนยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ
5) ควรมีการตรวจสอบคุณสมบัติของกากแคดเมียมในการปรับเสถียร (Stabilization) ว่ายังคงสภาพเหมือนเดิมหรือไม่ โดยควรจะตรวจสอบทั้งก่อนการขนย้ายและก่อนการนำฝังลงบ่อ ในส่วนนี้ตนถามภาครัฐว่าได้วางแผนไว้หรือไม่ แต่กลับยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนใด ๆ ตอบเพียงว่าน่าจะมีการตรวจสอบก่อนปิดบ่อ
นายคริษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเข้าใจดีว่าภาครัฐต้องการเร่งรัดให้กระบวนการขนย้ายกากแคดเมียมสำเร็จไปโดยเร็ว แต่ก็ไม่ควรกระทำแบบปัดภาระให้พ้นตัว ขาดความรอบคอบและรัดกุม เพราะอาจจะนำมาซึ่งความเสียหายที่ยากเกินควบคุม และสุดท้ายผลกระทบก็จะตกอยู่กับประชาชน ดังนั้น ภาครัฐควรกลับมาทบทวนแผนการขนย้ายให้มีความรัดกุม ปรับสภาพโรงพักคอยและบ่อฝังกลบให้สมบูรณ์และเปิดให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย
ดังนั้น สิ่งที่รับปากกับพี่น้องประชาชนไว้ท่านลืมไปหมดแล้วหรือ ว่าทุกขั้นตอนจะมีประชาชนรับทราบและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ วันนี้พวกเขาถูกผลักออกจากสมการอีกครั้งอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกเลย วางแผนให้รัดกุมแล้วฟังประชาชนบ้าง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews