“นภินทร” ควง “สุชาติ” ส่งมอบงานพาณิชย์ มั่นใจ 3 พรรคทำงานเป็นหนึ่งเดียว ดูแลประชาชน
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ ได้ร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนากรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ครบรอบ 82 ปี จากนั้นได้มีการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ระบุถึงการแบ่งงานในส่วนของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ทั้งสองคน โดยนายนพิณธรกล่าวว่าได้มีการหารือร่วมกับนายภูมิธรรมเวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แล้วโดยหน่วยงานที่ตนยังคงรับผิดชอบคือกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากรมทรัพย์สินทางปัญญาและสถาบัน GIT ในส่วนของนายสุชาติ จะรับผิดชอบกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า และสถาบัน ITD
โดยยืนยันได้ว่า กระทรวงพาณิชย์ที่มีรัฐมนตรีจาก 3 พรรคการเมือง ทั้งเพื่อไทย ภูมิใจไทย และรวมไทยสร้างชาติ เป็นกระทรวงเดียวที่แม้จะมาจากต่างพรรคการเมือง แต่การทำงานจะเป็นหนึ่งเดียวกันแลพจะร่วมกันทำงาน โดยเฉพาะตนกับนายสุชาติรู้จักคุ้นเคยกันมาเป็นอย่างดี สามารถทำงานประสานกันได้ ทำอย่างไรให้กระทรวงพาณิชย์เดินไปข้างหน้า และทำงานให้กับบ้านเมืองได้ โดยเราจะพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้จะมาจากต่างพรรคก็เป็นหนึ่งเดียวในการทำงานได้
และสำหรับงานในส่วนของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จากเดิมที่ตนเคยดูแลและมอบให้นายสุชาติเป็นผู้ดูแลต่อนั้น เชื่อว่าจะเดินหน้าไปได้ด้วยดี เชื่อว่านายสุชาติเองก็ผ่านงานมา หลายอย่าง เป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน รู้งานต่างประเทศได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะประเทศไหนต้องมีแรงงานอย่างไรเข้าไป ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเนื้องานก็น้องๆของกระทรวงแรงงาน เชื่อว่านายสุชาติจะสามารถนำกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี ในการสร้างผลงานให้กับกระทรวงพาณิชย์
ด้านนายสุชาติ กล่าวว่า ขอบคุณทั้ง2คน ทั้งนายภูมิธรรม และนายนภินทร ที่ให้โอกาสได้ทำงานในกระทรวงพาณิชย์ เรื่องหน่วยงานที่แบ่ง เหมือนพี่น้องกัน ไม่ใช่เรื่องยากเพราะตนถือเป็นน้องเล็ก เป็นน้องใหม่ของกระทรวงต้องเรียนรู้งาน พร้อมจะทำงานสนองนโยบายรัฐบาลสนองนโยบายของท่านนายกฯและท่านรองนายกภูมิธรรม โดยได้พูดคุยกันแล้วว่าทุกกรมทำงานร่วมกันหมดเป็นหนึ่งเดียวกันไม่มองเรื่องพรรคการเมืองแต่จะมองเรื่องการดูแลปากท้องพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ดูแลให้ผู้ประกอบการไทยออกไปในต่างประเทศได้ เชื่อว่าเศรษฐกิจของชาติจะดีได้ กระทรวงพาณิชย์จะต้องเป็นหลัก
และในส่วนของค่าแรง 400 บาท จากนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ไม่หนักใจอะไรเพราะจะต้องดูแลในเรื่องของปากท้องประชาชนปากน้องของพี่ทั้งประชาชน ตอนอยู่กระทรวงแรงงานก็ดูในเรื่องของความมั่นคงและความเป็นอยู่ของพี่น้องแรงงาน เรื่องของกระทรวงพาณิชย์เป็นเรื่องของภาพรวมประเทศ เรื่องของเศรษฐกิจนำเข้าส่งออกเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันค่าครองชีพของแต่ละคนของแต่ละวัน ส่วนนี้เป็นหลักของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้นโยบายไว้แล้วว่าจะต้องทำให้ทุกอย่างมีความสมดุลประชาชนร่วมถึงคู่ค้าอยู่ได้
โดยค่าแรง 400 บาทถือเป็นนโยบายของรัฐบาลก็จำเป็นที่จะต้องปรับเข้าหากันเชื่อว่ามีวิธีการดูแล ซึ่งทั้งนายกฯและรองนายกภูมิธรรมดูแลในเรื่องของค่าครองชีพประชาชนอยู่แล้ว หากกลัวค่าครองชีพสูงขึ้น เราก็มีหน่วยงานดูแลอยู่แล้ว และในส่วนของภาคเอกชนเชื่อว่าหากค่าแรงขึ้นทำให้เราสามารถแข่งขันกับทั่วโลกได้ ค่าครองชีพเราก็จะต้องมีการดูแล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews