นายกรัฐมนตรี เดือดอีก สื่อถามไล่ม็อบทะลุฟ้าพ้นทำเนียบฯ เพราะเตรียมถ่ายรูปหมู่ ครม.ใหม่ ยันทำตามกฏหมาย รับพิจารณาดราม่าแต่งชุดไทยไถเซิร์ฟสเก็ตกลางเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง การประเมินสถานการณ์การชุมนุม ในช่วงนี้โดยถามว่ากฎหมายว่าอย่างไรเพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่ากฎหมายทุกฉบับเพื่อปวงชนชาวไทยและปวงชาวไทยคือคนทั้งประเทศ ได้รับสิทธิเสรีภาพ ทุกอย่างตามรัฐธรรมนูญกำหนดและกฎหมายลูกก็เขียนไว้ว่าอะไรที่สามารถทำได้หรือไม่ได้ มีผลกระทบต่อบุคคลอื่นหรือไม่ ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือไม่ ทั้งเรื่องการจราจรและการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขอให้พิจารณาตรงนี้ด้วย
ส่วนที่สังคมตั้งคำถามเรื่องการใช้ความเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ชุมนุม นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้ได้มีการดำเนินคดีแล้ว ขอให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้พิจารณาส่วนการสลายม็อบทะลุฟ้าเมื่อวานนี้ สาเหตุเพราะนายกรัฐมนตรีต้องการจะถ่ายรูปรวมคณะรัฐมนตรีหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ในวันอังคารที่ 30 มีนาคมใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีถามกลับอย่างมีอารมณ์ ว่า คิดอย่างนั้นได้อย่างไรตนไม่เข้าใจวิธีการคิดแบบนี้ แต่คิดแบบนี้ไม่ได้ กลุ่มผู้ชุมนุมอยากทำอะไรก็ทำไปที่ผ่านมาทนอดทนมาตั้งหลายสัปดาห์แล้วแต่วันนี้มีปัญหามีผลกระทบต่อการจราจร มีโรงเรียนร้องเรียนเข้ามา และใน พ.ร.บ.การชุมนุม ก็ระบุกฎหมายชัดเจนว่าจะต้องห่างจากสถานที่ราชการเท่าไหร่ และต้องดูกฎหมายอื่นประกอบด้วย หากตนเองไม่ทำคนอื่นก็เดือดร้อน พร้อมยืนยันว่าประชาชนคนไทยทุกคนก็ต้องได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกันซึ่งเมื่อวานนี้เป็นเพียงการขอคืนพื้นที่และได้มีการเตือนไปหลายครั้งแล้วจึงขอให้เข้าใจด้วยว่าเป็นคนละเรื่องกันกับการถ่ายรูปหมู่ ครม.
นายกฯ ปัดตั้งพรรคการเมืองจำนวนมาก ไม่เกี่ยวเตรียมยุบสภาฯ ถามคนหนุนม็อบ 4 เม.ย. อยากให้บ้านเมืองเป็นแบบเดิมใช่หรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่จำนวนมาก สะท้อนว่าจะมีการยุบสภาฯ หรือไม่ ว่า ยังไม่มีการยุบสภาฯ ซึ่งการตั้งพรรคการเมืองเป็นเรื่องของทุกคนที่มีสิทธิ์จะทำอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประกาศนัดชุมนุมในวันที่ 4 เม.ย. นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “คุณสนับสนุนเขาหรือไม่อยากให้บ้านเมืองเป็นแบบเดิมอีกหรือไม่ ถ้าอยากให้บ้านเมืองเกิดอะไรขึ้นแบบเดิมก็ช่วยเขาขยายไปให้เขาแล้วกัน”
นายกฯรับไปพิจารณา “มาดามเดียร์” จัดกิจกรรม ใส่ชุดไทยไถเซิร์ฟสเก็ตกลางเมือง ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน-พรบ.ควบคุมโรคเหมือนม็อบทะลุฟ้า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การจัดกิจกรรม “ใส่ชุดไทย ไถเซิร์ฟสเก็ต”ของนางสาววทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกับการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า ว่า มีการบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคหรือไม่ หรือเป็นเพราะเป็น ส.ส. จึงได้รับอภิสิทธิ์นายกรัฐมนตรีระบุเพียงสั้นๆว่า “จะรับไปพิจารณาให้”
นายกฯชี้ปัญหาเรือสินค้าติดคลองสุเอซ กระทบไทยไม่มาก ยังไม่มีปัญหาเรื่องจัดส่งพลังงาน สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลผู้ประกอบการส่งออก นำเข้าสินค้า ยันไม่นิ่งนอนใจทุกปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีเรือขนส่งสินค้า “Ever Given” ติดตื้นในคลองสุเอสและขวางเส้นทางการเดินเรือจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างไร ว่า เป็นเรื่องที่เราต้องรู้ปัญหาเกิดขึ้นในภูมิภาค ซึ่งเรื่องของคลองสุเอซ ถึงแม้ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในขณะนี้และสร้างความเสียหายจำนวนมาก แต่ไทยได้นำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาตั้งแต่แรกแล้ว โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทั่วไปอาจได้รับผลกระทบบ้าง การส่งมอบล่าช้า ค่าขนส่งเพิ่มสูงขึ้น ต้องอ้อมไปเส้นทางอื่นซึ่งได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด หามาตรการดูแลผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าสินค้า ถ้าสถานการณ์คลี่คลายในระยะเวลาอันสั้นก็ไม่น่าจะกระทบมากนัก
ส่วนเรื่องปัญหาพลังงานยังไม่มีผลกระทบในขณะนี้ โดย ปตท. มีคาโก้น้ำมันดิบในลิเบียซึ่งได้แก้ไขขายให้ในยุโรปไปแล้ว ส่วนการซื้อขาย LNG ใช้การซื้อขายแบบที่ผู้ขายต้องจัดหามาให้ครบตามสัญญาซึ่งผู้ขายต้องจัดหามาให้ครบ
ส่วนเรื่องของการค้าขายและการส่งออกสินค้าไปยุโรป นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อาจจะเสียเวลาแต่ก็สามารถอ้อมได้ หากติดค้างในคลองสุเอซอาจต้องรอประมาณ 10-15 วัน เนื่องจากต้องลำเลียงตู้คอนเทนเนอร์ออกจากเรือที่อับปาง ซึ่งยังไม่มีผลกระทบกับเรามากนักในเรื่องเหล่านี้ รัฐบาลก็ติดตามแก้ไขมาทุกเรื่อง ที่เกิดขึ้นในภูมิภาค ทั้งในอาเซียนรัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจทุกเรื่อง ทุกอย่างตนทราบดี ได้สั่งการทุกหน่วยงานเตรียมการแก้ปัญหาไว้ หลายอย่างคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าก่อนดีกว่า เพื่อจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาตนทำเชิงรุก หมดทุกเรื่อง
นายกฯยันหากชาวเมียนมา อพยพเข้ามาจำเป็นต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน ชี้แจงส่งตัวแทนร่วมงานวันกองทัพเมียนมา เป็นช่องทางติดตามพัฒนาการการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงนโยบายของไทยในการดูแลผู้อพยบชาวเมียนมา ที่มีการอพยบเข้ามาและก่อนหน้านี้ไทยระบุว่า ถ้าแกนนำเข้ามาในไทยจะจับส่งคืนว่า ไทยทราบถึงปัญหาในเมียนมา มีการพิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่ แต่ขอให้เป็นเรื่องภายในของไทยก่อนเพราะเราก็ไม่อยากให้อพยพเข้ามาในพื้นที่ของเรา แต่เราก็ต้องดูแลในเรื่องสิทธิมนุษย์ชน ขอให้ระมัดระวัง
ส่วนการส่งตัวแทนร่วมงานวันกองทัพเมียนมา ขณะที่กองทัพนานาชาติ 12 ชาติมหาอำนาจ ประนามกองทัพเมียนมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การส่งตัวแทนเข้าร่วมงานเป็นช่องทางการทหารที่จำเป็น ที่เราต้องติดตามสถานการณ์ ก็ต้องหากลไกลช่องทางต่างๆ ในการติดตามพัฒนาการทางการเมืองของเมียนมา หรือ การใช้ความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น และไทยเองก็มีดินแดนติดกับเมียนมา ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งหมด เพราะถ้ามีการสู้รบก็มีการอพยพ ซึ่งไทยก็ต้องเตรียมการแก้ปัญหา แต่จะทำตรงไหนอย่างไร เป็นเรื่องที่ไทยจะพิจารณา เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ส่วนผู้อพยพ จะมากน้อยเพียงใด ค่อยว่ากันอีกทีอย่าเพิ่งพูดไปล่วงหน้า ถึงการจัดตั้งที่พักพิง ตั้งศูนย์อพยพ เป็นเรื่องฝ่ายความมั่นคงจะจัดเตรียมไว้
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังย้ำนโยบายไทยกับเมียนมา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและประชาชน ว่าวันนี้ยังมีการค้าขายตามปกติโดยทั้งคนไทยและเมียนมา ต่างได้รับประโยชน์จากตรงนี้ เพราะประชาชนต้องอยู่ต้องกิน และมีความต้องการสินค้า เป็นสิ่งที่จะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการของอาเซียนและประชาคมอื่นๆ ซึ่งก็ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด
นายกฯสั่งตรวจสอบ ส.ส.พปชร. ก่อเหตุทำร้ายอาจารย์ ลั่น ไม่ว่าใครทำผิดกฎหมายทำร้ายคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี ถึงกรณี ส.ส. ฉะเชิงเทรา ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก่อเหตุทำร้ายอาจารย์ ได้สั่งให้จัดการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะพฤติกรรม ส.ส. พปชร. ก็คือภาพลักษณ์ของรัฐบาล ว่า เรื่องนี้ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แล้ว ซึ่งเรื่องการดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการสอบสวนตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎ โดย พปชร. ก็ต้องตรวจสอบภายในพรรคตัวเอง ซึ่งยืนยันว่าไม่ว่าใครทำผิดกฎหมายทำร้ายคนไม่ได้อยู่แล้ว
นายกฯยันหากชาวเมียนมา อพยพเข้ามาจำเป็นต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน ชี้แจงส่งตัวแทนร่วมงานวันกองทัพเมียนมา เป็นช่องทางติดตามพัฒนาการการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงนโยบายของไทยในการดูแลผู้อพยพชาวเมียนมา รวมถึงกรณี หากมีแกนนำของเมียนมาเข้ามาในพื้นที่ไทยแล้วจับกุม เพื่อส่งคืนให้ทางการเมียนมาด้วย ว่า เรื่องนี้ไทยทราบถึงปัญหาในเมียนมา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่ โดยขอให้เป็นเรื่องภายในของเราไปก่อน เพราะไม่อยากให้มีการอพยพเข้ามาในพื้นที่ของเรา แต่ก็ต้องดูแลในเรื่องของสิทธิมนุษยชน ด้วย จึงขอให้ระมัดระวังด้วย
ส่วนกรณีการที่ไทยส่งตัวแทนเข้าร่วมวันกองทัพเมียนมา ในขณะกองทัพนานาชาติ 12 ชาติมหาอำนาจ ประณามกองทัพเมียนมา นั้น เป็นช่องทางทางการทหารที่เราจำเป็นต้องติดตาม และต้องหากลไกต่างๆที่สามารถติดตามในเรื่องพัฒนาการทางการเมืองในเมียนมาและความรุนแรงต่างๆที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ เราเป็นประเทศที่มีดินแดนติดกันก็ต้องมีผลกระทบ เมื่อมีการสู้รบก็ต้องมีการอพยพ ดังนั้น เราต้องเตรียมแก้ปัญหาตรงนี้ โดยเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในชั้นต้นของเราก่อน และหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ต้องว่ากันอีกครั้ง ส่วนการคาดการณ์ตัวเลขของผู้อพยพและการเตรียมการรองรับนั้น ก็ต้องเตรียมพื้นที่ไว้ ส่วนจะอยู่ตรงไหนหรือจะมากน้อยเกียงใดก็ค่อยว่ากันอีกที ขออย่าเพิ่งพูดไปถึงการจัดสถานที่พักพิงหรือศูนย์อพยพ ยังไม่พูดตรงนั้น เพราะวันนี้เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงที่ต้องจัดเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเมืองในเมียนมาที่เริ่มทวีความรุนแรง และถูกเชื่อมโยง ว่าไทยสนับสนุนทหารเมียนมา ว่า ทราบดีและติดตามทุกวัน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานมาโดยตลอด ฝ่ายความมั่นคงก็รายงานขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ไทยสนับสนุนทหารเมียนมาตรงไหน ไม่เข้าใจ เพราะคงไม่มีใครที่จะไปสนับสนุนให้มีการใช้ความรุนแรงกับประชาชน
และในฐานะที่ไทยเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดเมียนมา ขณะนี้ยังคงย้ำในจุดยืนเดิม คือวินๆทั้งเศรษฐกิจและประชาชน วันนี้ยังมีการค้าขายกันอยู่ตามปกติ ซึ่งต้องดูคนที่อยู่ในวงจรเหล่านี้ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
