“เสรี” พอใจผลงานสว. 5 ปี ระดับหนึ่ง ยันแม้ถูกเรียก สว.คสช. แต่ที่มารัฐธรรมนูญกำหนด ฝากชุดใหม่ ต้องยอมรับที่มาตัวเอง ตระหนักในการทำหน้าที่ ซื่อสัตย์สุจริตรักษาผลประโยชน์ให้บ้านเมือง
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการทำหน้าที่ในวาระดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาช่วง 5 ปีที่ผ่านมาว่า พอใจในผลงานระดับหนึ่ง แม้ในบางเรื่องสมาชิกวุฒิสภาจะเห็นไม่ตรงกัน แต่ก็สามารถทำงานร่วมกันได้กับสมาชิกผู้มีความรู้ประสบการณ์ความสามารถ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากข้าราชการระดับสูง และส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้แสดงความเห็น
ทั้งนี้ ไม่ขอเปรียบเทียบการทำงานของวุฒิสภาชุดปัจจุบันและวุฒิสภาชุดใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่ แต่ฝากว่าหากวุฒิสภาชุดใหม่ที่เข้ามาทำหน้าที่ต้องยอมรับว่า มีที่มาจากการเลือกกันเอง และต้องตระหนักในการทำหน้าที่ แม้ว่าสมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบันมีข้อกล่าวหาว่ามีที่มาจาก คสช. และวุฒิสภาชุดใหม่มาจากระบบที่ยอมรับ
แต่สิ่งสำคัญจะต้องทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต และรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมืองให้ประชาชนอย่างจริงจัง มีความเป็นตัวของตัวเองอย่าถูกครอบงำจากผลประโยชน์หรือถูกครอบงำจากกลุ่มคนไม่ว่าฝ่ายใดจนทำให้เกิดความไม่เหมาะสมไม่ถูกต้องไม่เป็นธรรม
ส่วนการถูกเรียกวุฒิสภาหรือ สว. คสช. เข้ามาร่วมเลือกพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2562 นั้น นายเสรี ย้ำว่า ได้เข้ามาตามระบบ และมาตามคำถามพ่วงประชามติของประชาชน และมีการกำหนดอำนาจหน้าที่ตามที่รัฐกำหนดไว้ หากต้องการที่จะเข้ามาทำหน้าที่ก็อยากเข้ามา หรือหากเข้ามาจะต้องรู้ว่าภารกิจหน้าที่จะต้องทำตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่กำหนดให้วุฒิสภาร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีได้ และทำหน้าที่ในการออกกฏหมายปฏิรูปร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดอำนาจหน้าที่ไว้อย่างนี้ อย่ารังเกียจตัวเอง อย่ารังเกียจว่ากระบวนการที่ได้มาเพราะ คสช. ตั้งมา มาใช้บริการเราเค้าคงมองว่าเรามีความรู้ ความสามารถ และเป็นประโยชน์แก่การทำงานได้ เราก็เข้ามา ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจกัน ไม่ใช่ข้อรังเกียจแต่วุฒิสภาชุดปัจจุบันอาจทำหน้าที่ได้ดีกว่าชุดอื่นก็ได้ ก็ยัง ไม่รู้ เมื่อทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ก็ทำหน้าที่ไปมันเป็นความภาคภูมิใจที่เรามาทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนของประเทศ
นายเสรี ยังระบุว่า ไม่ได้รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ร่วมร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดว่า การแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นอย่างไร เนื่องจากกระบวนการยังอีกยาวไกล และมีกระบวนการที่ยุ่งยากไม่ได้ทำได้ง่าย การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ครั้งนี้ จะต้องทำประชามติถึง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นไปได้หากการทำประชามติครั้งที่ 2
ประชาชนอาจต้องการที่จะแก้ และการแก้ไขจำนวนจะทำได้หรือไม่อยู่ที่ความเห็นพ้อง ป้องกันหากยังแบ่งฝ่ายให้เกียรติกันพูดจาเสียดสีให้ร้ายก็ไม่สามารถที่จะหาความร่วมมือได้มีแต่ความขัดแย้ง หรือหากยังหมกมุ่นกับการแก้หมดหนึ่งหมวดสองหรือเกี่ยวกับความมั่นคงก็จะมีแต่ความเห็นต่างไม่สามารถทำให้การแก้รัฐธรรมนูญทำได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ยังมองว่า กรณีการรณรงค์เชิญชวนให้คนมาสมัครสวหากดำเนินการโดยสุจริตสามารถทำได้ แต่อย่าหวังว่าการรณรงค์จะทำให้คนรู้จักและได้รับคะแนนในการเลือก นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงชีวิตหลังพ้นจากวาระของวุฒิสภาว่ายังมีตลาดเสรีที่ทำธุรกิจอยู่ ส่วนจะกลับมาในเส้นทางการเมืองอีกหรือไม่หลังจากเว้นวรรค 2 ปีเปิดเผยว่า ไม่มีอะไรจำกัดสิทธิเสรีภาพของตัวเอง หากมีโอกาสทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ให้บ้านเมืองก็พร้อมที่จะทำอย่าจำกัดตัวเองว่าจบแล้วต้องจบเลยไม่เช่นนั้นจะแก่เฉา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
