อนุทิน แถลง ปราบผู้มีอิทธิพลพร้อมจับโรงแรมเถื่อนในภูเก็ต 21 แห่ง
อนุทิน แถลง ปราบผู้มีอิทธิพลพร้อมจับโรงแรมเถื่อนในภูเก็ต 21 แห่ง พบ มีนอมินีให้นายทุนต่างชาติลงทุน ยืนยัน ไม่ปิดโอกาสใคร แต่ต้องทำตามกฎหมาย หวั่นซ้ำรอย ทัวร์ศูนย์เหรียญ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ได้มอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบการจัดระเบียบสังคมร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยชุดที่ปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ คือ ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและรักษาความสงบ หรือ DOPA Force รวมถึงชุดปกครองจังหวัดภูเก็ต ชุดปกครองอำเภอกระทู้ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจป่าตอง เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ทรัพยากรจังหวัดภูเก็ต
ซึ่งการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่นการประกอบธุรกิจโรงแรมที่ไม่ได้รับใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นในวันนี้ เราพบว่า มีโรงแรมที่ประกอบธุรกิจ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ทั้งสิ้น 21 แห่ง และยังพบอีกว่าในหลายแห่งเป็นลักษณะของนอมินี ที่มีนายทุนเป็นชาวต่างชาติ และมีพนักงานคอยรับหน้าแทน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เมื่อได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เราได้ติดตามดำเนินคดีแล้วหลายคน
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแย่งอาชีพคนไทยในธุรกิจหลายประเภท ซึ่งตนเองได้รับรายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บัญชาการจังหวัดภูเก็ต ได้เริ่มดำเนินคดีกลุ่มบุคคลเหล่านั้นอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ต้องการที่จะปิดโอกาสใคร แต่ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายที่ถูกกำหนดไว้ หากเราไม่ทำงานอย่างเต็มที่ อาจจะเกิดกรณีแบบทัวร์ศูนย์เหรียญ คือต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจ แต่ประเทศไทยกลับไม่ได้อะไรเลย
นอกจากนี้ยังมีการเลี่ยงภาษี และใช้บัญชีปลอม เราจะดำเนินการไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น โดยจะเริ่มนำร่องในภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก และหลังจากนั้นจะขยายผลต่อไปจังหวัดอื่นๆ เพื่อที่จะให้เราดำเนินการได้ดำเนินคดี หรือปราบปรามผู้ที่กระทำผิดกฎหมายในระดับประเทศต่อไป
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า วันนี้มีหลายอย่างที่ตำรวจภูธรภาค 8 พบว่ามีชาวต่างชาติทำธุรกิจที่เข้าข่ายการฟอกเงิน มีการเปิดหน้าร้านเป็นที่แลกเงิน แต่ในความเป็นจริงมีการแอบขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งไม่ได้รับอนุญาต หน่วยงานราชการของประเทศไทยจึงได้ระดม ในการดำเนินการจับกุมบุคคลที่มีความชัดเจน และดำเนินการทางคดีทั้งคนไทย และต่างประเทศ เราเป็นจุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกต้องการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพมาก แต่เราต้องทำให้เขาเมื่อมาถึงแล้วรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ที่มาแล้วไม่รู้สึกต้องระวังหน้าระวังหลัง สามารถใช้วันพักผ่อนของเขาได้อย่างเต็มที่ มาใช้เงินใช้ทองในประเทศไทย ดังนั้นเราจึงต้องช่วยกันปราบปราม และเราจะดำเนินการอย่างเต็มที่ให้บุคคลที่กระทำความผิดกฏหมายไม่สามารถดำเนินการได้ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews