“ภูมิธรรม”ชี้ ผู้บริโภคอังกฤษ-ยุโรป ตื่นตัวโลกร้อน แนะผู้ผลิตสินค้าเกษตร-แป้งมันไทย พัฒนาสินค้าให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เน้นความยั่งยืน เพิ่มโอกาสส่งออก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายนโยบายให้ทีมพาณิชย์ ซึ่งมีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ทำการสำรวจโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนายประคัลร์ กอดำรง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ถึงความกังวลเรื่องภาวะโลกร้อน และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร และโอกาสในการส่งออกสินค้าประเภทแป้งของไทย หากสามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตให้สอดคล้องและตรงตามความต้องการของผู้บริโภคก็จะสามารถเพิ่มโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรไทยได้มากขึ้น
ซึ่งทูตพาณิชย์ รายงานว่า ปัจจุบันผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับประเด็นสิ่งแวดล้อมและความโปร่งใสในการจัดหาส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ต่างๆมากขึ้น ส่งผลให้เจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต้องคำนึงถึงความยั่งยืนในการผลิตสินค้าทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทั้งการผลิตสินค้าเกษตร การแปรรูป การขนส่ง
จัดเก็บ บรรจุภัณฑ์ รวมไปจนถึงส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ผู้บริโภคมีความต้องการบริโภคสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ อาหารจากธรรมชาติ รวมถึงมีความสนใจต่อประเด็นเรื่องพื้นที่เพาะปลูกสินค้าเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน มีการสำรวจของบริษัท Neilson พบว่า 76% ของผู้บริโภคต้องการให้ผู้ผลิตริเริ่มโครงการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสมาคม RSPCA Assured สำรวจ พบว่า 2 ใน 3 ของผู้บริโภคต้องการทราบที่มาของอาหารสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ นอกจากอังกฤษผู้บริโภคในยุโรปก็ให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน
จากการศึกษาของบริษัทผู้ผลิตเครื่องเทศรายใหญ่ Tate & Lyle’s พบว่า 74% ของผู้บริโภคเห็นว่าความโปร่งใสและตรวจสอบย้อนกลับสำคัญต่อการตัดสินใจบริโภคสินค้า ประเด็นเรื่องความตื่นตัวของปัญหาโลกร้อนผู้บริโภคกำลังส่งผลต่ออุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอาหารได้มีการปรับตัวต่อเรื่องนี้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยร่วมมือกับผู้ผลิตสินค้าในห่วงโซ่อุปทาน ใช้ส่วนประกอบที่เป็นธรรมชาติ เช่น ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่งและไม่มีสารเคมี รวมถึงผู้ผลิตที่มี Carbon Footprint ต่ำ
ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภค ทั้งนี้ ส่วนประกอบสำคัญสำหรับอาหาร เช่น แป้ง เป็นส่วนประกอบสำคัญในกระบวนการผลิต และสินค้าที่จะช่วยในเรื่องการคงตัว และรสสัมผัสของสินค้า เป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่จะส่งผลต่อ Carbon Footprint ของอาหารได้
“ในปี 2566 ที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรมีการนำเข้าแป้งมันสำปะหลังจากไทยมากถึง 6.82 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาดถึงร้อยละ 68.98 ของตลาดในสหราชอาณาจักร จากการสำรวจความเห็นของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรพบว่าให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืน ความเป็นสีเขียวของทั้งห่วงโซ่การผลิตสินค้ามากขึ้น ผู้ผลิตและผู้ประกอบการของไทย
โดยเฉพาะสินค้าแป้งมันสำปะหลัง อาจต้องปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของผู้บริโภค และผู้ผลิตสินค้าเพื่อส่งออกของไทยอาจต้องปรับปรุงกระบวนการผลิต และการใช้ตรารับรองที่สื่อถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งตนได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ให้คำแนะนำและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแป้งของไทยปรับตัว และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้แล้ว เพื่อสร้างโอกาสในการส่งออกและนำรายได้เข้าประเทศต่อไป”นายภูมิธรรมกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews