“รังสิมันต์”สส.ก้าวไกล จ่อชงกรณี “บุ้ง ทะลุวัง” หารือ ใน กมธ.นิรโทษกรรม วันนี้ หวังได้คำตอบชัดนิรโทษกรรมรวมคดี ม.112 พร้อมมองกลไลรัฐ ช่วยชะลอคดี
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม คนที่สอง สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในการประชุม กมธ. วันนี้ (16 พ.ค. 67) ตนจะเสนอให้ กมธ.พิจารณาในกรณีที่เกี่ยวเนื่องกับ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องขังคดี มาตรา 112 ซึ่งเสียชีวิตระหว่างคุมขัง ในประเด็นการนิรโทษกรรมม เพื่อไม่ให้ผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง ซึ่งมีคดีผิดมาตรา 112 ต้องเสียชีวิตอีก อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่านอกจากตนแล้วจะมีกมธ.คนอื่น เช่น น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ที่ร่วมเสนอประเด็นและพูดคุย เพราะขณะนี้มีสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ดังนั้นกมธ.ควรพูดคุยเพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ ยอมรับว่า การพิจารณาของ กมธ. ยังไม่ชัดเจนว่าผลการพิจารณานั้นจะรวมคดีผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาส่วนของพรรคก้าวไกลเสนอว่า ไม่ควรตั้งต้นที่ประเภทของคดี แต่ควรพิจารณาจากแรงจูงใจทางการเมืองที่เป็นต้นเหตุสำคัญ แต่หาก กมธ.ตั้งต้นที่ประเภทคดีแล้ว ควรพิจารณาให้ครบคดี ไม่ควรมีคดีใดที่ตกหล่นจากการได้รับการนิรโทษกรรม เพราะในบางกรณีพบว่าการแจ้งข้อหานั้นกระบวนการกล่าวโทษมีปัญหาและใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งทางการเมือง
นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ในการนิรโทษกรรมนั้น ตนมองไปไกลกว่า กมธ. เนื่องจากบุคคลที่เป็นกมธ.นิรโทษกรรม หลายคนเป็นผู้อาวุโสที่มีบทบาทต่อรัฐบาล ดังนั้นควรพิจารณาในคดีต่างๆ ที่ไม่ได้ประกันตัวให้ได้รับการประกันตัวเพื่อได้ใช้สิทธิต่อสู้คดี และไม่ให้เกิดกรณีของ น.ส.เนติพร ซ้ำรอยอีก นอกจากนั้น คือ มาตรการที่ทำได้โดยรัฐบาลผ่านกลไกของการชะลอคดีที่มีเงื่อนไขที่ตรงกับการนิรโทษกรรม ทั้งนี้ ควรได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรม
สำหรับในประเด็นการชะลอคดีนั้น อาจทำได้หลายทาง แต่ในช่องทางของ กมธ. จำเป็นต้องให้เกิดข้อสรุป ซึ่ง กมธ. ต้องหารืออีกครั้ง ถึงปัญหาดังกล่าว โดยยอมรับว่า ยังมองไม่เห็นทิศทางว่าควรจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อเรามีกรณีของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ คือ กรณีของบุ้ง ควรคุยกันให้เกิดความชัดเจน
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของน.ส.เนติพร ให้บทเรียนอะไรบ้าง นายรังสิมันต์ กล่าวโดยความเห็นส่วนตัวว่า เป็นมิติทางสังคม เพราะไม่ควรมีใครเสียชีวิตจากความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นและกลายเป็นประเด็น คือ สิทธิการประกันตัว ที่ไม่ควรมีเงื่อนไขถอนประกันจากการกระทำผิดซ้ำ เพราะคดีความที่เกิดขึ้นยังไม่ถูกพิพากษาว่าผิด ดังนั้น กลไกของการต่อสู้คดีประชาชนควรมีสิทธิ ที่เป็นสิทธิพื้นฐาน ในการถูกประกันตัวเพื่อได้รับคำปรึกษาการต่อสู้อย่างกว้างขวางนอกเรือนจำ ซึ่งกรณีดังกล่าวสามารถทำได้ผ่านการปรับปรุงกติกาของกระบวนการยุติธรรม ศาล และอัยการ รวมถึงหากต้องการสร้างมาตรฐานที่ชัดเจนสามารถทำได้ผ่านกระบวนการนิติบัญัติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews