แป้งมันไทยฝ่าวิกฤต ส่งออกพุ่งไตรมาสแรก ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้ติดตามสถานการณ์การค้าสินค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 (มกราคม – มีนาคม) พบว่า มีมูลค่าการส่งออกรวม 33,167.38 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 16.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเกิดจากปริมาณการส่งออกมันเส้นลดลงเป็นหลัก ขณะที่ การส่งออกแป้งมันสำปะหลังดิบ มีมูลค่ารวม 18,116.19 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 49.12 แป้งมันสำปะหลังแปรรูป มีมูลค่ารวม 8,578.13 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.99
โดยภาพรวมการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ของโลก ในช่วงต้นปี ไทยยังคงครองส่วนแบ่งตลาดโลกเป็นอันดับ 1 โดยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 18.70 ของมูลค่าการส่งออกของทั้งโลก รองจากไทย ได้แก่ เวียดนาม ลาว สหรัฐอเมริกา และ จีน โดยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 10.19, 9.37, 5.28 และ 4.10 ตามลำดับ
ตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทั้งหมดไปตลาดจีนถึงร้อยละ 48.00 ของมูลค่าการส่งออกจากไทยไปโลก และไทยเป็นแหล่งนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอันดับหนึ่งของจีน (ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 48.87 ของมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทั้งหมดของจีน)
“แป้งมันสำปะหลังใช้เป็นวัตถุดิบในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม ยา กระดาษ สิ่งทอ กาว หรือเอทานอล นอกจากนี้ แป้งมันสำปะหลังยังเป็นแป้งที่ปราศจากกลูเตนตามธรรมชาติ จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสุขภาพ ซึ่งวันนี้กลายเป็นประเด็นหลักที่ผู้คนให้ความสนใจ จุดเด่นนี้จึงช่วยเพิ่มคุณค่าและมูลค่าทางการตลาดให้กับแป้งมันสำปะหลัง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหาร ขณะเดียวกัน มันสำปะหลังเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ทนความแห้งแล้ง ทำให้มันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญในด้านการรักษาความมั่นคงทางอาหาร สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่หลายประเทศทั่วโลกตระหนักถึงวิกฤติความมั่นคงทางอาหารมากขึ้น ดังนั้น หากรัฐบาลเร่งสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ที่ทนโรคและให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
พร้อมกับส่งเสริมการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังที่หลากหลายด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ก็จะสามารถช่วยยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูก มันสำปะหลังในประเทศไทยที่มีจำนวนกว่าเจ็ดแสนครัวเรือนได้แน่นอน” นายพูนพงษ์กล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews