นายกฯ เยือนฝรั่งเศสเวลาน้อยแต่คุ้ม ชี้ “มาครง” พร้อมหนุนสานต่อสัญญา การค้า-ท่องเที่ยว- EV-พลังงานสะอาด ช่วยอัพเกรดกองทัพไทยภายใน 10 ปี ยกฝรั่งเศสเป็นแม่แบบพลังงานสะอาดใช้ในไทย ปลื้มสตรีหมายเลข 1 สวมชุดแดงทักทาย แย้มแลกเบอร์โทรพร้อมตั้งกรุ๊ป Whatapp ร่วม ฮุน มาเน็ต ไว้หารือ
ที่ท่าอากาศยานปารีส-ออร์ลี กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพบปะหารือและเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ว่า จากการพบปะกันเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา มีการนำภาคธุรกิจมาพบปะสานสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง วันนี้ก็มาตามสัญญาที่บอกว่าจะมาเป็นประธานการพูดคุยและอัปเดตกันว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งการค้าระหว่างประเทศ รวมถึง FTA ซึ่งอาจจะมีความซับซ้อนในหลายด้าน ทางผู้แทนการค้าไทยจึงขอให้ดำเนินการทีละส่วนโดยเฉพาะรถอีวีที่จะส่งเข้ามา ท่านก็เห็นด้วย
ส่วนการทำวีซ่าฟรีเช็งเก้นก็ได้มีการพูดคุยกัน และยืนยันให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้พ้นการเลือกตั้งสภายุโรปในเดือนมิ.ย.นี้ก็จะดำเนินการต่อไป จึงขอเป็นเดือนส.ค.ที่จะมีการพิจารณาต่อ แต่ยืนยันว่า สนับสนุนรวมไปถึงการท่องเที่ยวก็มีการพูดคุยกันว่าอาจจะต้องมีการเพิ่มเที่ยวบิน แต่วันนี้ยังไม่ free-covid
นายเศรษฐา กล่าวว่า นอกจากนี้ในเรื่องของพลังงานสะอาดทางฝรั่งเศส มีพลังงานสะอาดเยอะมาก เราก็อยากให้ฝรั่งเศสเป็นแม่แบบที่จะพัฒนาพลังงานสะอาดของเราคงจะได้มีการพูดคุยกัน และในการประชุม Forum ครั้งต่อไปในเดือนก.ย.ที่ประเทศไทย เขาจะนำผู้เชี่ยวชาญด้าน Energy มาร่วม ซึ่งปัจจุบันนี้ สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย ราคาถูกและสะอาดที่สุด ส่วน MOU ในวันนี้เกี่ยวกับข้อแลกเปลี่ยนของกระทรวงกลาโหม ซึ่งทางฝรั่งเศสมีอะไรที่จะสนับสนุนเราในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถถัง โดรน ไซเบอร์ และการป้องกันทั้งหลายที่อยากจะทำร่วมกับเรา ซึ่งวันนี้พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ก็มาร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกลางวันด้วย
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า และช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ก่อนที่จะพบกับประธานาธิบดีมาครง ได้มีโอกาสไปเปิดงาน Thailand – France Business Forum มีการพูดคุยหลายด้าน ทั้งเรื่องการผลิตเชื้อเพลิงพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน (SAF) ที่ใช้ในเครื่องบิน ซึ่งถือเป็นเรื่องสําคัญที่เราจะทํากัน มีการพูดคุยกันหลายวงที่จะมีการยกระดับความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศ เนื่องจากในครั้งนี้มีนักธุรกิจใหญ่เข้ามาจำนวนมาก ถือว่าได้ประโยชน์อย่างมากสําหรับการมาเพียงครึ่งวัน
นอกจากนี้ในช่วงการรับประทานอาหาร กลางวันกับประธานาธิบดีมาครง ร่วมกับประธาน ปตท. ประธานผู้แทนการค้าไทย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็เข้าร่วมด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีบทบาทสําคัญในการที่จะพูดคุยเรื่องพลังงานสะอาด
นายเศรษฐา กล่าวว่า หลังจากนั้นได้มีการพูดคุยกันสองต่อสอง ระหว่างผมกับประธานาธิบดีมาครง ที่ห้องรับแขกของท่าน มีการพูดคุยในเชิงลึกถึงความสัมพันธ์ที่จะสามารถทําอะไรกันต่อไปได้ ซึ่งเป้าหมายที่จะทําต่อไปคือในเดือนกันยายนก็จะมีนักธุรกิจจากประเทศฝรั่งเศสไปที่ประเทศไทย ซึ่งแปลกใจเล็กน้อยที่ประธานาธิบดีมาครงได้เชิญภรรยาของท่าน ซึ่งวันเดียวกันนี้สวมชุดสีแดง สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศส ซึ่งท่านเข้ามาพูดคุยทักทายกันเล็กน้อย จากนั้นก็เดินออกไป ตนและประธานาธิบดีฝรั่งเศสก็คุยกันต่อ ก็เป็นการพูดคุยกันอย่างดีในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
วันเดียวกันนี้ท่านได้ขอเบอร์มือถือไปและได้ทดลองทักทายกันผ่าน Whatapp มีอะไรก็สามารถพูดคุยกันอย่างชัดเจน และท่านบอกว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งตนก็ระบุว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทั้ง 3 คน น่าจะได้มีการตั้งกลุ่มขึ้นมา และมีการพูดคุยกัน เป็นเรื่องที่ดี 3-4 ชั่วโมงได้ประโยชน์อย่างมาก และวันนี้ก็เดินทางต่อไปที่เมืองมิลานประเทศอิตาลี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews