นายกฯ บริษัทยักษ์ใหญ่มือโปรอิตาลี เสนอตัวสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึง ด้วยระบบไฟฟ้าพลังงานสะอาด ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม รับโครงการน่าสนใจแต่ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายชี้ เป็นเรื่องดีและน่าสนใจ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการพบและหารือกับผู้บริหาร บริษัท Leitner (แล็กเนอร์) ว่า ต้องพูดแบบตรงไปตรงมา ว่าทางบริษัทฯ ติดต่อเข้ามาเสนอขายกระเช้าลอยฟ้าซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะเป็นบริษัท ที่อยู่มานาน และให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เพราะกระเช้าลอยฟ้าดังกล่าวใช้ไฟฟ้าพลังงานสะอาดอย่างครบวงจร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยที่น่าสนใจอีกอย่างหากนับรวมเวลาในการขออนุญาตทางสิ่งแวดล้อม จะใช้เวลาสร้างกระเช้าลอยฟ้าเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น และสิ่งสำคัญคือการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อสร้างกระเช้าลอยฟ้า จำเป็นต้องสร้างผ่านภูเขาและป่าสงวน และพื้นที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ
หากมองตรงไปตรงมาตอนนี้ ไทยกำลังให้ความสนใจการสร้างกระเช้าฯขึ้นอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ทางบริษัทฯจึงมาเสนอศึกษาว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ โดยขั้นตอนต่อไป จะจ้างที่ปรึกษาโครงการ มาศึกษาความเป็นได้ และ การลงทุนจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดี จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้ บริษัท Leitner มีแนวคิดจะทำธุรกิจในประเทศไทยมานานแล้ว เพราะประเทศไทยมีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ก็ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และจังหวัดเลย ถือเป็นเมืองรองที่รัฐบาลต้องการยกระดับ จึงมีแนวคิดอยากจะทำเรื่องนี้ขึ้นมา ดังนั้น เมื่อมีบริษัทข้ามชาติ อยากมาลงทุนก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลการศึกษา และต้องพิจารณาผลการศึกษาอีกครั้งว่าออกมาเป็นอย่างไร
ส่วนเรื่องกระเช้าขึ้นอุทยานแห่งชาติภูกระดึง บริษัทดังกล่าวให้ความสนใจมาแล้วก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่ นายเศรษฐา ยอมรับว่า บริษัทนี้ให้ความสนใจอยู่แล้ว และได้รับการประสานมาจาก สส. ในพื้นที่ด้วยว่าอยากดำเนินโครงการนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่า โครงการนี้ มีแนวคิดมานานมากแล้ว เชื่อว่าจะมีผู้สนใจอยากจะเข้ามาลงทุน จนกระทั่ง ตนเองเดินทางมาอิตาลีพอดี ซึ่งบริษัทนี้ตั้งอยู่แถวประเทศออสเตรีย ขับรถมาประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อหารือเรื่องนี้ ยอมรับว่า น่าสนใจและ เชื่อว่าเรื่องนี้สามารถดำเนินการได้เร็ว
ส่วนนอกจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึงแล้ว บริษัทดังกล่าวสนใจ ลงทุนในพื้นที่ไหนอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องมาพิจารณาร่วมกัน และต้องดำเนินการไปทีละขั้นตอน เชื่อว่ายังมีอีกหลายจังหวัด ที่ต้องการการส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews