“พิธา” ฝาก 5 ข้อเรียกร้อง ถอนฟืนออกจากกองไฟการเมืองไทย ปัด ก้าวไกลฉกฉวยโอกาส หลัง “บุ้ง” เสียชีวิต แจง ยึดหลักนิติรัฐนิติธรรม ย้ำ คุยมาตลอดไม่ให้อดอาหาร ขอเอาชีวิตตัวเองก่อน แต่ไม่สามารถก้าวก่ายความเด็ดเดี่ยว ห่วง “ตะวัน-เยาวชน” บอก นึกถึงภาพรวม บอกการต่อสู้ยังยาวไกล
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ทนายของนางสาวนิติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ระบุว่าสาเหตุของการเสียชีวิตเนื่องจากมีการใส่ท่อช่วยหายใจผิด ว่า อยากให้รอฟังความชัดเจนจากแพทย์ผู้ให้การรักษา ซึ่งพล.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมบอกว่าวันจันทร์นี้ (20 พ.ค.) จะให้ข้อมูลกับครอบครัวในเรื่องนี้ ขอให้สังคมตั้งสติและรอฟังข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร ที่ถูกนำไปโยงกับคดีมาตรา 112 นั้นนายพิธา กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องแยกกัน เพราะการ แก้ไขมาตรา 112 กับการปฏิรูปสถาบันก็เป็น สิ่งที่นางสาวนิติพรเรียกร้อง แต่การที่ต้องอดอาหารเวลานาน เป็นการเรียกร้องสิทธิการประกันตัว เพราะการถูกฝากขังยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงได้ตัดสินใจอดอาหารประท้วง
ส่วนที่ น.ส.นิติพร เคยได้รับสิทธิ์การประกันตัวแล้วแต่กระทำผิดซ้ำ ในคดีทำร้ายเจ้าหน้าที่ศาล จึงถูกถอดสิทธิ์การประกันตัวนั้น นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนได้เพราะน.ส.นิติพรเสียชีวิตไปแล้ว แต่ถ้าจะให้เดาเชื่อว่าน.ส.นิติพรไม่ได้ต่อสู้เพื่อตนเองเพียงคนเดียว แต่ต่อสู้เพื่อเพื่อนและเสรีชนที่มีความคิดแบบเดียวกัน ว่า ทุกคนเสมอภาคตามกฏหมาย และการขังคน 2-3 เดือน โดยที่เขาไม่มีความผิดเป็นเรื่องที่ เขาติดใจและเรียกร้อง ไม่ใช่เพื่อตัวเองคนเดียวแต่เพื่อคนไทยทุกคน
ส่วนเหตุผลที่สส.พรรคก้าวไกลไม่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงที่น.ส.นิติพร ออกมาเรียกร้องแต่กลับมาแสดงความเห็นในช่วงที่น.ส.นิติพรเสียชีวิตไปแล้ว ถือเป็นการฉกฉวยหรือไม่ นายพิธา ระบุว่ไม่ใช่การฉกฉวยแน่นอน เพราะการเคลื่อนไหวของเยาวชนมีอิสระเป็นของตัวเองไม่ได้ยึดโยงพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
แต่พรรคก้าวไกล เชื่อในหลักนิติรัฐนิติธรรม เชื่อในสิทธิ์การประกันตัว และสิทธิการเข้าถึงทนาย แต่ไม่ได้หมายความว่าพรรคก้าวไกลกับกลุ่มเยาวชนเห็นไปในทิศทางเดียวกันทุกเรื่อง พร้อมกล่าวว่า หากฝั่งตรงข้ามถูกฝากขังเราก็จะออกมาพูดเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ไม่ใช่การฉกฉวยผลประโยชน์ทางการเมืองแต่อย่างใด ไม่เรื่องนั้นอยู่ในหัว เป็นการให้เกียรติครอบครัวผู้เสียชีวิตมากกว่า
นายพิธา ยังกล่าวว่า มีข้อเรียกร้อง 5 ข้อ คือ ความโปร่งใสชัดเจนจากทางราชทัณฑ์ ระบบยุติธรรมที่แต่เริ่มตั้งแต่ตำรวจและอัยการ ซึ่งหากสองหน่วยงานนี้ได้รับนโยบายจากรัฐบาล ไม่เอาผิดผู้เห็นต่างทางการเมือง และมองผู้ที่มีความเห็นต่างกับผู้มีอำนาจเป็นเรื่องปกติ อาจจะชะลอและรับฟังความเห็นจากรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้มองว่า สามเสาหลักของประเทศทั้งศาล ฝ่ายนิติบัญญัติและบริหาร น่าจะพูดคุยกันเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้
เรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ต้องรีบผลักดันให้ออกมาเร็ว ไม่ควรแยกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออก และไม่ควรผลักอนาคตของชาติออกไป จนไม่มีพื้นที่เหลือให้พูดคุยกัน ของตัวเองและเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงแบบนี้ ตนหวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเชื่อว่าหากต้นทางถึงปลายทางเห็นตรงกันเราจะหยิบฟืนออกจากกองไฟทางการเมืองได้
ส่วนพรรคก้าวไกลจะเข้าไปพูดคุยกับบุคคลที่ยังอดอาหารหรือไม่หลังสูญเสียน.ส.นิติพรไปแล้วหนึ่งคน นายพิธา ระบุว่า เราพยายามพูดคุยมาโดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ว่าไม่อยากให้เอาชีวิตไปเสี่ยงเสี่ยงแต่เราไม่สามารถก้าวก่าย ความมุ่งมั่นและความเด็ดเดี่ยว และจิตใจของเขาได้ เพราะตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวแต่หากมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยม ให้เอาชีวิตตัวเองก็จะบอกว่าให้เอาชีวิตตัวเองมาก่อนการต่อสู้ เพราะยังอีกยาวนาน แต่เค้าจะฟังหรือไม่ถือเป็นสิทธิ์ของเขา เพราะบางครั้งการเลือกทำแบบนี้อาจจะเพื่อให้สังคมได้รับรู้ข้อเรียกร้อง
ส่วนอีกคนที่น่าเป็นห่วงคือน.ส.ทานตะวัน นั้น จำเป็นจะต้องพูดคุยหรือไม่ นายพิชากล่าวว่าเท่าที่ทราบขณะนี้ถูกย้ายตัวมาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์แล้ว ซึ่งอยากให้ทานตะวัน คิดถึงภาพรวมซึ่งตนทราบดีว่าตอนนี้เสียใจกับการสูญเสีย แต่ชีวิตของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ทานตะวันไว้ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews