ศาล รธน.พิจารณาคำร้อง 40 สว.ขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170
วันนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมประจำสัปดาห์ โดยคาดว่าจะนำคำร้อง 40 สว.ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้ถูกร้องที่ 1 และนายพิชิต ชื่นบาน ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่ เนื่องจากเห็นว่านายเศรษฐาใช้อำนาจแต่งตั้งนายพิชิต เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ กรณีเคยรับโทษจำคุกมาก่อน เข้าพิจารณา
เรื่องนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ขณะปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.67 โดยมั่นใจว่าการแต่งตั้งนายพิชิต ทำถูกต้องตามกฎหมาย และยอมรับว่ากังวลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล แต่ไม่ทำให้เสียสมาธิ ไม่อยากจะพูดอะไรเพราะจะเป็นการกดดันศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะได้รับข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย
จากนั้นนายพิชิต ได้แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 21 พ.ค.67 หรือสองวันก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารราคำร้อง โดยใจความในหนังสือลาออกระบุเชื่อมั่นโดยสุจริตว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย แต่เรื่องนี้มีการพาดพิงไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน จึงขอไม่ยึดติดกับตำแหน่ง
ดังนั้นแนวทางคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นไปได้ใน 3 แนวทาง ประกอบด้วย 1.ไม่รับคำร้อง เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ 2.รับคำร้อง และสั่งให้นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย และ 3.รับคำร้อง แต่ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งกรณีนี้นายพิชิต ลาออกระหว่างไต่สวน จึงอาจงดวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อครั้งที่นายพิชิต เป็นทนายความให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยถูกศาลฎีกาตัดสินให้มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลและถูกจำคุก 6 เดือน เมื่อปี 2551 ในคดีถุงขนม 2 ล้านบาท เหตุเพราะนำถุงเงินสด 2 ล้านบาทไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในช่วงที่พิจารณาคดีที่ดินรัชดาภิเษก ที่นายทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ตกเป็นจำเลย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews