“ชวลิต” ไทยสร้างไทย ชี้ปัญหาความมั่นคงทางการเมืองที่ขาดเสถียรภาพ ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นยาก แนะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แก้ ม. 256 เปิดทางทำประชามติเหลือเพียงครั้งเดียว
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวในโอกาสลงพื้นที่ภาคใต้ ในโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชนในหัวข้อ “ปัญหา และโอกาสทางเศรษฐกิจของภาคใต้”ว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยเสียหายมากมายทางด้านเศรษฐกิจหลังการรัฐประหาร เพราะการสร้างรัฐธรรมนูญเพื่อการสืบทอดอำนาจ ทำให้นักลงทุนจากต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นต่อระบบการเมือง การปกครองของประเทศไทย จึงมาลงทุนน้อยลง นอกจากมาลงทุนน้อยลงแล้ว ยังมีการย้ายฐานการผลิตหลายส่วนไปยังประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่น ยกตัวอย่างประธานสภาหอการค้าญี่ปุ่นในอดีต เคยบอกว่า ถ้าประเทศไทยไร้เสถียรภาพทางการเมือง นักลงทุนจะมาลงทุนน้อยลง และย้ายฐานการลงทุนในที่สุด ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ในเชิงประจักษ์
นายชวลิต ชี้ให้เห็นด้วยว่ากรณีที่ รัฐบาลไปขอให้นักลงทุนต่างชาติมาลงทุน แต่เขาไม่มาเพราะบ้านเมืองเราขาดเสถียรภาพทางการเมือง และต้นตอหนึ่งของปัญหาคือรัฐธรรมนูญที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพลล์ที่ ชี้ว่า 4 ปีจะแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทัน เราก็จะใช้รัฐธรรมนูญฉบับเก่า ปี 60 ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป
โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะแก้ไขได้ทัน ดังนั้น ในจึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนทางด้านการเมือง พรรคไทยสร้างไทยได้เสนอให้เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญสร้างความเชื่อมั่น ด้านการเมืองให้กับประเทศไทยให้เร็วที่สุด ด้วยการเจาะลงไปที่มาตรา 256 ซึ่งจะมาพร้อมกับการทำประชามติเหลือเพียงครั้งเดียว และเป็นไปโดยถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องทำประชามติถึงสามครั้ง ซึ่งจะสิ้นเปลืองงบประมาณกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท
ในส่วนของการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ เราเสียงบประมาณมาหลักหลายแสนล้าน ทั้งที่ทุ่มงบลงไปแก้ไขปัญหา แต่พี่น้องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนยังรายได้ต่ำมาก เพราะรัฐบาลไม่สามารถเข้าถึงปัญหาที่แท้จริงได้ นั่นคือ เมื่อนโยบายไม่ถูกต้อง การแก้ไขปัญหาก็ไม่ตรงจุด โดยนายชวลิต ฯ เสนอแนะให้นำนโยบายการเมืองนำการทหาร ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 66/2523 มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ขณะเดียวกันนายชวลิต ยังระบุด้วยว่านโยบายด้านเศรษฐกิจ รัฐมุ่งแต่โครงการขนาดใหญ่ซึ่งเป็นประโยชน์กับกลุ่มทุนเป็นหลัก โดยมองข้ามการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจที่มีผลต่อคนท้องถิ่นโดยตรง เช่น การเกษตรภาคใต้ โดยเฉพาะด้านประมง ที่พี่น้องชาวประมงยังประสบปัญหาหนักมากจากปัญหา IUU ที่ผ่านมา เมื่อพื้นที่ภาคใต้ขนาบด้วยทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน อาชีพประมงที่เคยเป็นรายได้หลักควรได้รับการฟื้นฟู ชาวใต้หนีทะเลไม่ได้ อย่างไรก็ต้องอยู่กับทะเล ต้องเร่งติดตามช่วยเหลือชาวประมงทั้งทางกฎหมายและนโยบายต่างประเทศ โดยรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews