ครม.เห็นชอบงบ 68 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท พร้อมผ่านร่างพรบ.ประชามติ เตรียมชงสภาผู้แทนราษฎร สั่งดีอี-สตช. ปราบเว็บพนันออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มพร้อมรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้มีการขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์โครงการเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา จำนวน 10 โครงการของรัฐบาลที่ได้มีการแถลงไป รวมทั้งประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน และเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด โดยตนจะลงไปตรวจสอบพื้นที่โครงการด้วยตนเองในวันที่ 4 ก.ค.นี้ตนและคณะรัฐมนตรีจะเดินทางไปปลูกต้นไม้เพื่อเฉลิมพระเกียรติที่โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนกำแพงเพชร 6 แนวขนานคลองเปรมประชากร
นอกจากนี้ขณะนี้มีการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับพนันออนไลน์จำนวนมาก แต่ยังพบการเล่นการพนันในโซเชียลและแพลตฟอร์มต่างๆ จึงขอสั่งการให้รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินคดีและจับกุมเกี่ยวกับพนันออนไลน์
พร้อมสั่งให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานงานในการปิดเว็บพนันออนไลน์และรายงานผลกลับมาอย่างรวดเร็ว รวมถึงให้กระทรวงการคลัง, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.), ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยตรวจสอบการเปิดบัญชีของคนต่างด้าวและอายัดบัญชีธนาคารที่ทำผิดกฎหมาย
ครม.ได้เห็นชอบการตรวจลงตราเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตามที่กระทรวงต่างประเทศเสนอ เช่น การให้สิทธิ์ยกเว้นการตรวจลงตราและ สามารถพำนักในประเทศไทยไม่เกิน 60 วันและเพิ่มการตรวจลงตราประเภทใหม่ destination Thailand visa ปรับปรุงสิทธิสำหรับนักเรียนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเรียนระดับปริญญาตรีขึ้นไป พร้อมขยายเวลาพำนักหลังการศึกษาอีก 1 ปี และปรับปรุงเงื่อนไขการตรวจลงตราประเภทอยู่ชั่วคราวพำนักระยะยาวสำหรับกลุ่มผู้มีอายุมากที่ประสงค์จะใช้ชีวิตบั้นปลายในประเทศไทย
นอกจากนี้ครม.ได้เห็นชอบข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาทตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติตามที่คณะกรรมการที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานได้เสนอ และได้ส่งต่อให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรหรือวิปรัฐบาลเพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ทั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบการขับเคลื่อน แก้ไขปัญหาเด็กในประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนหลุดนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ หรือ Thailand Zero Dropout เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews