ทหารไทย ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จากเหตุสู้รบในเมียนมา 7 ราย ส่งถึงมือแพทย์ 3 รพ. ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน
พลโทอภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ในวันนี้ ทางกองทัพภาคที่3 โดย ทหารไทย จากกรมทหารพรานที่ 36 ได้ให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วย ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ สู้รบในเมียนมา จำนวน 7 ราย เพื่อให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยธรรม
ซึ่งเดินทางข้ามมาเพื่อขอเข้ารักษาพยาบาล ในสถานพยาบาลของฝั่งไทย โดยมี ทหารพรานที่ 36 ฐานแม่สามแลบ คอยอำนวยความสะดวก โดยมีรถพยาบาลของ โรงพยาบาลสบเมย จำนวน 6 คัน มารอรับ และส่งต่อการรักษาที่โรงพยาบาลสบเมย โรงพยาบาลแม่สะเรียง และโรงพยาบาล ศรีสังวาลย์
โดยมีรายชื่อ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการสู้รบในเมียนมา จำนวน 7 รายดังนี้
1.นายซอโด้เนโซ อายุ 15 ปี
2.นายซอครอง อายุ 37 ปี
3.นายซอลาเตร อายุ 48ปี
4.น.ส.นอเอสะตะ อายุ 18 ปี
5.น.ส.นอมือเกรอ อายุ 25 ปี
6.นางนอแบทู อายุ 60 ปี
7.นางเชอคึมู อายุ 31 ปี
กต. ไม่สบายใจกรณีชาวเมียนมา บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ขอผู้เกี่ยวข้องหยุดใช้ความรุนแรง ยันไทยจับมืออาเซียนร่วมสร้างสันติภาพในเมียนมา
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศเมียนมา ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เราไม่สบายใจอย่างมาก ต่อรายงานการเสียชีวิต และบาดเจ็บของประชาชนชาวเมียนมาที่เพิ่มขึ้น
จึงอยากขอให้ทางการเมียนมาใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างมากในการดำเนินการใดๆ รวมถึงการคลี่คลายสถานการณ์ ยุติการใช้ความรุนแรง และปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามร่วมกันหาทางออกโดยสันติวิธี เพื่อประเทศเมียนมาและประชาชนเมียนมา ด้วยการพูดคุยผ่านช่องทางที่สร้างสรรค์ใดๆก็ได้ที่สะดวกโดยเร็ว
นายธานี กล่าวอีกว่า ประเทศไทยกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศสมาชิกอาเซียนที่รวมถึงเมียนมา เพื่อให้ได้มาซึ่งสันติภาพที่ยั่งยืนสำหรับประชาชนชาวเมียนมา และเพื่อให้เมียนมากลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ การที่เมียนมามีสันติภาพ เสถียรภาพ ความเป็นปึกแผ่น และความเจริญรุ่งเรืองนั้น จะเป็นประโยชน์ไม่ใช่เฉพาะสำหรับเมียนมา แต่สำหรับอาเซียน ภูมิภาค และนอกภูมิภาคด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news