“ครูมานิตย์”ปัดเพื่อไทยขาดมือกม.-112″ทักษิณ”ให้รอดู18มิย.
“ครูมานิตย์”รับมีส.ส.เห็นต่างนายกฯตั้ง”วิษณุ” ปัดเพื่อไทยขาดมือกฏหมาย ลั่นไม่จำเป็นต้องใช้ปาฏิหาริย์ บอกคดี 112″ทักษิณ” ให้รอดู 18 มิ.ย. ไม่ขอให้ความเห็น
นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวคนภายในพรรคเพื่อไทยออกมาต่อต้านการแต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โดยยอมรับว่า มี สส.รุ่นหลังมาถามตนถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งตนได้ตอบไปว่า วันนี้เราไม่รู้ว่านายวิษณุคิดอย่างไร แต่หากจะให้ตนฟันธง นายวิษณุ มีสมญานามเนติบริกรอยู่แล้วตรงไหนที่อาสารับใช้ได้และเป็นประโยชน์ก็ไปหมด และอะไรที่รัฐบาลคิดว่าเป็นประโยชน์ท่านก็มาทำให้
ส่วนมองได้หรือไม่ว่าในพรรคเพื่อไทยไม่มีคนเก่งกฎหมาย จึงต้องดึงนายวิษณุ มาช่วยงานนายครูมานิตย์ ระบุว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น คนเก่งเราก็มี ทั้งนายชูศักดิ์ ศิรินิล แต่เรื่องความแหลมคม ต้องยอมรับว่า นายวิษณุทำให้เกิดปาฏิหาริย์ทางกฎหมายบ่อย? และบางทีเมืองไทยเราความแหลมคมทางด้านกฎหมายไม่งั้น คงไม่มีทนายที่เก่งหรือไม่เก่งเพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดา
ส่วนรัฐบาลจำเป็นต้องใช้ปาฏิหาริย์ด้านกฎหมายหรือไม่ นายครูมานิตย์ระบุว่า ก็ไม่จำเป็น แต่บางทีข้อมูลทางด้านข้อกฎหมาย ก็ต้องยอมรับอย่างที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า คนที่ไม่เข้าใจด้านกฎหมายคุยกับคนที่ไม่เข้าใจด้านกฎหมาย ก็จะคุยกันยากแต่ต้องยอมรับว่า นายวิษณุ ผ่านมาหลายรัฐบาล และมีประสบการณ์ทางการเมือง ซึ่งอาจจะเป็นคำจำกัดความใหม่สำหรับตน คือ “กฎหมายทางการเมือง” ซึ่งนายวิษณุมีประสบการณ์มากกว่า แม้กระทั่งว่าตำแหน่งที่นายวิษณุไปรับ ก็ยังไม่มีผลผูกพันทางด้านการเมืองไม่ต้องรายงานทรัพย์สิน ซึ่งจากการรับฟังเหตุผลของนายวิษณุ เราก็โอเค
ทั้งนี้ คิดว่ามีดีลพิเศษอะไรหรือไม่นายวิษณุ จึงรับตำแหน่งมาช่วยงานรัฐบาล นายครูมานิตญ์ ระบุว่า นายเศรษฐา เป็นคนมีเสน่ห์มากกว่า หากไปดูโปรไฟล์ตั้งแต่ในอดีต เป็นตระกูลที่มีคอนเนคชั่นในกลุ่มคนชั้นสูง และระดับต่างๆ ในประเทศมากมาย และต้องยอมรับว่า นายวิษณุ สนิทกับนายเศรษฐามายาวนาน จึงไปเชิญมาช่วยทำงานจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ได้พูดคุยกับนายวิษณุว่า พร้อมที่จะช่วยงานหากอะไรที่เป็นประโยชน์ ซึ่งตนก็เห็นว่าท่านตั้งใจมาทำงาน
ส่วนความเป็นมือหนึ่งทางด้านกฎหมายของนายวิษณุ นอกจากจะให้มาช่วยดูงานเรื่องกฎหมายคดีของนายเศรษฐาแล้ว มองไปถึงคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายครูมานิตย์ ระบุว่า ตรงไหนที่ท่านช่วยได้ ท่านช่วย ท่านอาสามาถึงขนาดนี้แล้ว อาสามาช่วยบ้านช่วยเมือง ช่วยแก้ปัญหาในบ้านเมืองขณะนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า สังคมส่วนหนึ่งในบ้านเมืองแบ่งฝากแบ่งฝ่าย ไม่ปรองดองเท่าที่ควรก็ถือเป็นธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย เมืองไทยเราก็ยังมีแบบนี้ ที่เขาบอกว่าสีนั้น หมดสีนี้หมด ตนว่าในข้อเท็จจริงยังไม่ใช่ หากดูผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งก็ยังมีการวิพากย์สนทนาทางการเมืองอยู่ทุกวัน
ส่วนคดีในมาตรา 112 ซึ่งถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะกลับไปเป็นชนวนความขัดแย้งทางการเมืองหรือไม่ นายครูมานิตย์ ระบุว่า ขอให้ไปติดตามในวันที่ 18 มิถุนายน ว่า ทิศทางจะเป็นไปอย่างไร ซึ่งตนก็ไม่สามารถพูดได้ ตนไม่ใช่นักกฎหมาย ซึ่งตนคิดว่าคงไม่ใช่ชนวนที่จะทำให้เกิดความหลากหลายทางสีเสื้อและมาลงถนน วันนี้คงเกิดเพียงการต่อสู้ในเชิงวิชาการ หรือผ่านโซเชียลมีเดีย มากกว่า
ขณะเดียวกัน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เข้าพรรคครบ 1 เดือนแล้ว หลังถูกปรับ ครม. และวันนี้ ก็ตรงกับวันคล้ายวันเกิดนั้น ครูมานิตย์ เปิดเผยด้วยว่า ตนก็ยังไม่เจอกันแต่ส่งไลน์ถามกัน ก็บอกว่าสบายดี คนเป็นหมอ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสมัย ใหม่ๆ อาจมีความรู้สึกหงุดหงิดบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา เชื่อว่า หมอเข้าใจการเมืองมากกว่าตน การที่ไม่เข้าพรรค ยังไม่ถึงขั้นหลบไปเลียแผลใจ ทั้งนี้ ต้องทำใจ เพราะของมันมีน้อย สมบัติทางการเมืองเป็นสมบัติผลัดกันชม และหมอก็มีอนาคตทางการเมืองอีกมาก ดังนั้น ความน้อยใจคงหมดไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายครูมานิตย์ ยืนยันว่า ไม่มี สส.ของพรรคก้าวไกล เตรียมย้ายมาพรรคเพื่อไทยเนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้พิจารณายุบพรรค เนื่องจากเป็นภาพที่คนเขาพูดไปมากกว่า ซึ่งพรรคก้าวไกลคงได้บทเรียนมาจากครั้งที่แล้ว พร้อมกับระบุว่า ตนไม่เห็นด้วย หากจะโดนยุบพรรคจริงๆ เพราะตอนที่พรรคไทยรักไทยโดนยุบ พวกตนก็เจ็บปวด พรรคพลังประชาชนโดนยุบ ก็เจ็บปวด แต่หากเกิดในเชิงกฎหมาย ผู้ปฏิบัติการด้านกฎหมายเขาตัดสินว่า ยุบจริงๆ ตนก็ไม่เห็นด้วยว่า พรรคเพื่อไทยเราจะรับ สส. จากพรรคก้าวไกล แต่ส่วนตัวไม่ได้รังเกียจผู้แทนจากพรรคก้าวไกล แต่ตน ไม่เห็นด้วย กับประเด็นที่ว่าเมื่อเขายุบพรรคแล้ว เรารับเขามา ซึ่งจริงๆ ตนคิดว่าเขามีพรรคอยู่แล้ว ซึ่งจะเห็นได้จากนายประดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดอยู่
ทั้งนี้ เหตุใดจึงค้านได้รับ สส.จากพรรคก้าวไกล นายครูมานิตย์ ระบุว่า เขามีที่ไปอยู่แล้ว และตนไม่ได้รังเกียจ แต่ไม่อยากไปสร้างประเด็นว่าพรรคเพื่อไทย ยินดีต้อนรับ สส.พรรคก้าวไกล ที่โดนยุบ เพราะถือว่าไม่มีมารยาททางการเมือง เราก็บริหารไปก่อนตามจำนวนที่มีอยู่ ซึ่งหากพูดกันแบบแฟร์ๆ ทางการเมือง เขาคงไปอยู่พรรคที่นายประดิพัทธ์ สังกัดอยู่หรือพรรคที่ตั้งชื่อใหม่ เปลี่ยนชื่อพรรค ทำให้สังคมรู้ว่ามาจากพรรคก้าวไกล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews