ศอ.บต. ร่วม กต.จัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้าใจสานสัมพันธ์ คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม ยันแก้ปัญหาในระดับพื้นที่พัฒนาทักษะอาชีพ ประกอบการพูดคุยสันติสุข หาทางออกโดยสันติวิธี
วันที่ 2 ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ จัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้าใจและสานสัมพันธ์ คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม (OIC) ประจำปี 2567 ที่จังหวัดยะลา นายธวัต ศิริกุล รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยพ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. นำคณะทูตทั้ง 12 ประเทศ เข้าฟังบรรยายสรุปภาพรวมเชิงนโยบายและการดำเนินงานของหน่วยงาน ทั้งในมิติความมั่นคง และมิติการพัฒนา โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นประธาน
เลขาธิการ ศอ.บต. ยืนยันว่า การแก้ปัญหาในระดับพื้นที่และการพัฒนาทักษะอาชีพ ความต้องการ เพื่อประกอบการพูดคุยสันติสุข และแสวงหาทางออกโดยสันติวิธี รวมทั้งเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้เห็นต่าง ร่วมนำสันติสุขเข้าสู่พื้นที่โดยเร็ว ดังนั้น การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมา ประเทศโลกมุสลิมหลายประเทศได้ร่วมมือกัน โดยประเทศไทยก็มุ่งหวังให้เกิดความร่วมมือในมิติต่างๆ อย่างใกล้ชิดและเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
จากนั้น พลโทศานติ ศกุนตราค แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวในนามกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ว่า รู้สึกยินดีที่ให้การต้อนรับ กอ.รมน. มีภารกิจหลักในด้านการรักษาความมั่นคงรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บนพื้นดินแห่งนี้ ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงในหลายมิติ
โดยเฉพาะมีกลุ่มผู้เห็นต่างบางกลุ่มได้ฉวยโอกาสในการนำความแตกต่างเรื่องศาสนามาเป็นเงื่อนไขและนำหลักศาสนามาบิดเบือน เพื่อปลุกเร้าในการต่อสู้ด้วยวิธีที่รุนแรง ซึ่งแท้จริงแล้ว ไม่ได้เกิดความขัดแย้งทางศาสนาเลย ดังนั้น ข้อเท็จจริงที่ต้องการสื่อไปยังนานาชาติ คือ ทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพในการดำรงชีวิตประจำวันภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย
ซึ่งรวมถึงการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และเผยแพร่ศาสนาได้ตามปกติ ไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ ที่จะนำไปกล่าวอ้างได้ ทั้งนี้ การปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่สอดคล้องกับหลักกฎหมายสากล
ด้านนายบอง ยิก จุย อุปทูต สอท.มาเลเซีย กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ไทยมาเลเซียในทุกระดับรวมถึงในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อยากให้เป็นพื้นที่ฟรีโซน เป็นกลาง และมาเลเซียยังเป็นส่วนช่วยในการจัดการพูดคุยอำนวยความสะดวกด้านสันติภาพคาดว่า จะประสบความสำเร็จในปี 2570 ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียได้สนับสนุนในการพูดคุยให้เกิดความสันติด้วยเหตุผลหลายประการ เพราะเป็นบ้านใกล้เรือนเคียง และทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ในเรื่องของการวางระเบิด ก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ไทยกับมาเลเซียยังมีภารกิจทำร่วมกันจนสำเร็จ ทั้งด้านความมั่นคง ด้านการท่องเที่ยว และการร่วมมือตามแนวชายแดน ความมั่นคงทางอาหาร อาหารฮาล้าล และจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจต่างๆ ให้เดินหน้าต่อไป ซึ่งอยากจะขอบคุณรัฐมนตรีมหาดไทย ที่ได้มีส่วนช่วยสนับสนุน ซึ่งทั้งหมดยืนยันว่า ไทยกับมาเลเซียได้ทำงานร่วมกันอย่างดีเรื่อยมาและตลอดไป
ขณะเดียวกัน ช่วงบ่าย คณะทูตจะเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมโกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อนำเสนอพื้นที่หรือชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงสังคมพหุวัฒนธรรมที่เด่นชัดในพื้นที่ จชต. จากนั้น เดินทางไปยังด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก และบริเวณจุดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ โก-ลก แห่งที่ 2 จ.นราธิวาส เพื่อนำเสนอโครงการพัฒนาความร่วมมือเพื่อยกระดับการค้าชายแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย ผ่านโครงการยกระดับการพัฒนา จชต. ของไทยกับรัฐติดภายแดนไทยของมาเลเซียสู่การเป็นเมืองคู่แฝด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews