“ภูมิธรรม-จักรพงษ์” ลงพื้นโคราชติดตามความพร้อมมาตรการรับมือฤดูฝนปี 67 แก้ไขพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยล่วงหน้า ลดผลกระทบและให้การช่วยเหลือประชาชนทันท่วงที
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามความก้าวหน้า 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 และโครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาที่โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า (จากแหล่งน้ำลำตะคองมายังโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า) ณ โรงกรองน้ำมะขามเฒ่า ต.บ้านใหม่ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา และหน่วยงานต่างๆ ได้เร่งขับเคลื่อนมาตรการตามภารกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง จ.นครราชสีมา เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างเคร่งครัด ประกอบกับจากข้อมูลที่ สทนช. ได้คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมไว้ล่วงหน้า พบว่า หลายพื้นที่ใน จ.นครราชสีมา อาจต้องประสบปัญหาทั้งปริมาณฝนตกชุกและสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง จึงได้กำชับให้ สทนช. จ.นครราชสีมา และหน่วยงานในพื้นที่ บูรณาการทำงานร่วมกันและประสานงานอย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เปราะบาง เช่น บริเวณพื้นที่ท้ายน้ำที่มักเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก พื้นที่บ้านเรือนริมตลิ่ง และพื้นที่รอบคั้นกันน้ำ ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุทุกหน่วยงานจะต้องเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที หรือลดผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุด และหากต้องมีการชดเชยฟื้นฟูเยียวยาจากความเสียหายที่เกิดขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งเยียวยาประชาชนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในทุกมิติ โดยการลงพื้นที่ตรวจราชการในวันนี้ นอกจากจะติดตามความก้าวหน้ามาตรการรับมือฤดูฝนแล้ว ก็ได้มารับฟังปัญหาและความต้องการด้านน้ำของชาวโคราช เพื่อนำไปกำหนดแนวทางแก้ไขอย่างเป็นระบบ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสร้างความมั่นคงของน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งจะเร่งรัดอนุมัติงบประมาณในการปรับปรุงระบบประปาในพื้นที่เทศบาลนครนครราชสีมาที่ชำรุด รวมถึงพิจารณาแผนการปรับปรุงระบบประปาในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศด้วย เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า ทุกครัวเรือนจะมีน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคใช้อย่างเท่าเทียม สร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับประเทศอย่างยั่งยืน
อยากเห็นการแก้ไขปัญหาให้พร้อมมากกว่าอยากเห็นน้ำท่วม เชื่อว่าโครงการที่รัฐบาลพิจารณาให้มาจะมีส่วนช่วยทำให้ปัญหาของประชาชนในพื้นที่ลดลงได้ และสำหรับในระยะยาวจะต้องมีการบริหารจัดการพื้นที่รับน้ำอย่างยั่งยืน
ด้าน เลขาธิการ สทนช. กล่าวถึงการบูรณาการแผนงาน/โครงการด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำว่า ปี 67-70 ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีโครงการสำคัญจำนวน 4 โครงการ วงเงินรวม 10,519 ล้านบาท ได้แก่ โครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาที่โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า, อาคารบังคับน้ำ บ้านขามตามุข, โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ.สาขาปักธงชัย-โชคชัย และเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนลำตะคอง เมื่อแล้วเสร็จ จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 58.43 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) พื้นที่ได้รับประโยชน์ 215,478 ไร่ พื้นที่ได้รับการป้องกัน 218,527 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 333,100 ครัวเรือน
โดยโครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาที่โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า (จากแหล่งน้ำลำตะคองมายังโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า) ที่คณะรองนายกรัฐมนตรีเดินทางมาตรวจราชการในวันนี้ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 งบประมาณ 3 ปี (ปี 68–70) จำนวน 1,995 ล้านบาท เมื่อแล้วเสร็จจะมีปริมาณน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาเพิ่มจากเดิมวันละ 45,000 ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์รวม 76.70 ตารางกิโลเมตร ครัวเรือนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 350,000 ครัวเรือน ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำเพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำในอีก 20 ปีข้างหน้า และลดอัตราการสูญเสียน้ำอย่างยั่งยืน รวมทั้งยังช่วยลดค่ากระแสไฟฟ้าในการผลิตน้ำประปาปีละไม่น้อยกว่า 10.61 ล้านบาท ด้วย
นอกจากนี้ สทนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประเมินพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ จ.นครราชสีมา ในช่วงเดือนกันยายน–ตุลาคมปีนี้ เช่น ต.ในเมือง ต.ปรุใหญ่ ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง, ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย, ต.เสมา อ.สูงเนิน, ต.หลุมข้าว อ.โนนสูง และบริเวณริมแม่น้ำมูล รวมทั้งพื้นที่ปลายน้ำของลำเชียงไกร ลำพระเพลิง ลำจักราช และลำปลายมาศ พื้นที่เปราะปาง เช่น บริเวณโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ชุมชนเมืองในเขตเทศบาลนคร ชุมชนหลังวัดสามัคคี ถนนมิตรภาพโคราช-ขอนแก่น และถนนสายโนนสูง-ขามสะแกกรังสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
