Home
|
ข่าว

ประธานปปช.เปิดรับฟังความเห็นสรรหาคนใหม่-จ่อเสนอแก้รธน.

Featured Image

 

 

 

“ประธาน ป.ป.ช.” เปิดรับฟังความเห็นสรรหาคนใหม่ มองต้องมีคณะกรรมการครบ 9 คนวินิจฉัยเสียงข้างมาก สร้างความน่าเชื่อถือ เที่ยงธรรมสุจริต รับที่ผ่านมามีปัญหา จ่อเสนอแก้ รธน.

 

 

สำนักงานงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดกิจกรรม “โครงการเสวนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการสรรหาและคุณสมบัติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560”   โดยพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. นาย นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. พร้อมด้วยผู้ร่วมเสวนา

 

โดยนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวรายงานว่า ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2540 กำหนดให้มีองค์กรอิสระขึ้น ตามรัฐธรรมนูญเป็นครั้งแรก กำหนดให้คณะกรรม ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจในการไต่สวนและวินิจฉัย เจ้าหน้าที่ของรัฐว่าร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ หรือ ความผิดต่อหน้าที่ในทางยุติธรรม ซึ่งการทำหน้าที่ของคณะกรรมการป.ป.ช. จะต้องมีความเป็นอิสระ เพื่อเป็นประกันในหลักการปฎิบัติหน้าที่ ในการให้ความเห็นหรือพิจารณาคดี

ดังนั้น ตามรัฐธรรมนูญจึงกำหนดให้มีวิธีกระบวนการสรรหาบุคคลผู้ที่จะทำหน้าที่เป็นกรรมการป.ป.ช. โดยผ่านกระบวนการสรรหา ผ่านคณะกรรมการสรรหา เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

 

ต่อมา รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ. 2560 ฉบับปัจจุบัน แม้จะมีการกำหนดวิธีการสรรหาไว้เช่นเดิม แต่พบว่า กระบวนการสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งจะเป็นหลักประกันได้ว่า ผู้ที่เข้ามาจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ มีความซื่อสัตย์สุจริต แต่ยังประสบปัญหาข้อขัดข้องในการเสนอรายชื่อบุคคล ผู้มีคุณสมบัติในบางกรณี เช่น บุคคลที่ได้รับการคัดเลือก จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และความเชี่ยวชาญซึ่งอาจเสนอได้จากกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายจากสาขาอาชีพ เช่น บุคคลที่มาจากองค์กรวินิจฉัย หรือฝ่ายบริหารจากส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือจากบุคคลผู้ประกอบวิชาชีพที่มีกฎหมายรองรับ หรือกลุ่มผู้มีความรู้ความชำนาญทางด้านการบริหาร การเงิน การคลัง

 

การบัญชีหรือการบริหารกิจการวิสาหกิจ ก็ยังคงมีข้อขัดข้อง ในประเด็นคุณสมบัติเกี่ยวกับการนับระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งต่างๆ และการกำหนดให้กรรมการสรรหามีคุณสมบัติ ระดับเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กร ที่จะต้องมีการสรรหาด้วย ส่งผลให้องค์กรอิสระประสบปัญหาเกี่ยวกับการคัดเลือกผู้แทน มาเป็นกรรมการสรรหา รวมทั้งปฎิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการสรรหา ในการให้ความเห็นชอบบุคคล ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่บุคคลดังกล่าวกลับไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา ทำให้กระบวนการสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องใช้เวลาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดส่งผลให้ขาดความต่อเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ จึงเป็นที่มาให้จัดงานวันนี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อพิจารณาพิจารณาขั้นตอนให้เหมาะสม และ ยกระดับมาตรฐานของบุคคลผู้ทำหน้าที่ให้ถูกต้องตามเจตนารมย์ของกฎหมาย

 

ด้านพล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีความสำคัญต่อผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าทำการทุจริต หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งราชการ รวมไปถึง กระทำความผิดในการละเมิดจริยธรรม ซึ่งการออกอะไรระยะเวลาการใช้กฎหมายฉบับนี้ ตามรัฐธรรมนูญปี 60 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ปี 2561 ที่ใช้มาเป็นระยะเวลา 6 ปี ยอมรับว่า มีปัญหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ควรจะมี 9 คน โดยดำรงตำแหน่ง 9 ปี แต่ต้องมี 5 คนขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนด เพราะถ้าหากต่ำกว่า 5 คนจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

โดยกระบวนการทำงานของ ป.ป.ช. ที่วิธีประกอบด้วย 2 ส่วน โดยมีเลขาธิการ ป.ป.ช.เป็นหัวหน้า และมีพนักงานเจ้าหน้าที่ 3,000 คนทั่วประเทศ ทำงานได้เพียงระดับขั้นต่ำ เพราะการดำเนินงาน ทั้งหมดจะต้องผ่านมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยตอนนี้มี 7 คน และขาดอีก 2 คน ถึงจะครบ ซึ่งมีกระบวนการสรรหา ที่มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ตั้งแต่คุณสมบัติ ขั้นตอนการสรรหาถือเป็นโอกาสอันดีที่มีผู้ทรงคุณวุฒิร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้

 

ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ตนเองปฎิบัติหน้าที่ 8 ปี 9 เดือน คิดว่า ระบบการออกแบบให้มีคณะกรรมการ ป.ป.ช. 9 คน นั้นดีแล้ว เวลาวินิจฉัยอะไรก็จะได้รับเสียงข้างมาก ซึ่งหากคณะกรรมการมีครบ 9 คน เสียงข้างมาก คือ 5 แต่ถ้ากรรมการมีแค่ห้าคน หากวินิจฉัยด้วยคะแนน 3 ต่อ 2 เชื่อถือในการวินิจฉัยที่มีผลเกี่ยวกับสิทธิก็อาจจะเป็นปัญหาพอสมควร ดังนั้น ความคาดหวังที่จะมีคณะกรรมการ ป.ป.ช. 9 คน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ

 

อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ปช. จะนำข้อมูลที่ได้จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้เสนอผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นก็จะมีการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 2561 ตามมาแต่เป้าประสงค์คือเราต้องการที่จะได้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นผู้แทนที่มีคุณวุฒิ มีความรู้ความสามารถ มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นประจักษ์ มีองค์ความรู้ ทำให้กระบวนการทำงานของคณะกรรมการป.ป.ช. มีความเที่ยงธรรมสุจริต และให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหาอย่างแท้จริง จึงมั่นใจว่า ผู้ที่ดำเนินการอภิปรายจะทำให้ได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube