Home
|
ข่าว

มท.ขับเคลื่อน 8 มาตรการปราบยาเสพติดใน3เดือน

Featured Image

 

 

มท.ขับเคลื่อน 8 มาตรการ ตามแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเชิงรุก ในระยะเร่งด่วน 3 เดือน (ก.ค. – ก.ย. 67) เน้นบูรณาการทุกภาคส่วน ด้าน ปลัด มท. วอนประชาชนแจ้งเบาะแส

 

 

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีมติให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ใช้แนวทางในการขับเคลื่อนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเชิงรุก ควบคู่กับนโยบายการจัดระเบียบสังคมอย่างต่อเนื่อง

 

ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคีเครือข่าย ภาครัฐ อาทิ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ป.ป.ส. หน่วยงานด้านสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อสารมวลชน เข้าร่วมปฏิบัติการ Re X-ray สถานบริการและสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกับสถานบริการ พร้อมทั้งรับแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดและการสกัดจับเครือข่ายผู้ค้ารายใหญ่ และรายย่อยที่ลักลอบขนย้ายยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายโดยไม่มีการยกเว้น

 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเน้นย้ำว่า เพื่อให้การดำเนินการเชิงรุกเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี และข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตนได้สั่งการให้กรมการปกครองปรับปรุงแนวทางให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด (ศอ.ปส.จ.) และนายอำเภอในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอ (ศป.ปส.อ.) ดำเนินการบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในระยะเร่งด่วน 3 เดือน (เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2567) ตามมาตรการ 8 ข้อ ได้แก่ 1. มาตรการค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และผู้ค้ายาเสพติด (Re X-ray) ด้วยการทบทวนบัญชีรายชื่อผู้กระทำความผิดของอำเภอที่จัดทำไว้แล้ว พร้อมค้นหาผู้ป่วยจิตเวชฯ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด

 

และผู้ค้ายาเสพติดเพิ่มเติม ควบคู่การประสานขอข้อมูลผู้ต้องขังคดียาเสพติดทุกประเภทในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา จากเรือนจำและสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลและประวัติผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดย “ข้อมูลผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด” ใช้สำหรับติดตามให้ความช่วยเหลือ และในส่วน “ข้อมูลผู้ค้ายาเสพติด” ใช้สำหรับบัญชีเฝ้าระวังและควบคุมพฤติกรรม ทั้งนี้ ให้รายงานข้อมูลภายในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ 2. มาตรการประชาสัมพันธ์และสร้างการมีส่วนร่วม ด้วยการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายทำการประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ถึงนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ให้เข้าถึงประชาชนทุกเพศ ทุกวัย และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ รณรงค์ต่อต้านยาเสพติด และเผยแพร่องค์ความรู้โทษภัยต่าง ๆ และช่องทางการแจ้งเบาะแสที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายทุกช่องทาง ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ สถานที่อื่น ๆ และให้มีการจัดแถลงข่าว/ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลการปฏิบัติงานให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง

 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า มาตราการที่ 3 คือ การเสริมกำลังป้องกัน ด้วยการขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้าน ตามแนวทางโครงการ “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความรัก ความสามัคคีของประชาชนในหมู่บ้าน อันนำไปสู่การช่วยเหลือ ดูแลซึ่งกันและกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมทั้งส่งเสริมให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนทั้งในและนอกสถานศึกษา ให้มีความรู้เท่าทันกับปัญหายาเสพติด เสริมสร้างทักษะการบริหารจัดการชีวิต คุณธรรม จริยธรรม รวมถึงหน้าที่พลเมือง และสนับสนุนกิจกรรมในโรงงาน/สถานประกอบการ เพื่อส่งเสริมให้ลูกจ้างมีคุณภาพชีวิตที่ดี

 

รวมถึงสร้างความร่วมมือและเครือข่ายการป้องกันยาเสพติดในกลุ่มแรงงาน สถานประกอบการ และนายจ้างของกิจการทุกประเภท รวมไปถึง “การปฏิบัติการกวาดบ้านตัวเอง” โดยสุ่มตรวจคัดกรองสารเสพติดในปัสสาวะ ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้นำหมู่บ้าน/ชุมชน พระสงฆ์/นักบวช ฯลฯ 4. มาตรการปราบปราม ด้วยการบูรณาการหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน จัดประชุมโต๊ะข่าวทุกสัปดาห์ เพื่อสืบสวนหาข่าว ปิดล้อมตรวจค้นผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในระดับพื้นที่ตามบัญชี Re X-ray

 

ทุกสัปดาห์ และเร่งสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ขยายผลการจับกุมผู้ค้ารายย่อยไปสู่การจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ รวมถึงการยึด/อายัดทรัพย์สิน เพื่อตัดวงจรยาเสพติด พร้อมตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดบริเวณพื้นที่บ้านพักอาศัยของผู้ค้ายาเสพติดตามบัญชี Re X-ray อย่างต่อเนื่อง เพื่อกดดันและจำกัดเสรีภาพผู้ค้ายาเสพติด

 

5. มาตรการบำบัดรักษา ด้วยการค้นหา และคัดกรอง/จำแนกผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และส่งต่อเข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาลตามสภาพอาการ/ความรุนแรงของการเสพยาเสพติด หากเป็นผู้ติดยาเสพติดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรงให้รีบส่งตัวไปสถานพยาบาลเป็นลำดับแรกก่อน และร่วมมือกับหน่วยงานราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน วัด/องค์กรทางศาสนา และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จัดตั้งสถานที่ทำการฟื้นฟู/พักคอย สำหรับผู้ป่วยยาเสพติดที่รอเข้ารับการบำบัดฯ หรือ ผ่านการบำบัดฯ แล้ว แต่ครอบครัว/ชุมชนยังไม่มีความพร้อมในการดูแลช่วยเหลือ เพื่อพักคอยในระยะเวลาหนึ่ง โดยสถานที่ดังกล่าว จะต้องรองรับผู้ติดยาเสพติดได้ตลอดเวลา

 

6. มาตรการฟื้นฟูสภาพทางสังคม โดยให้ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมทุกระดับ ติดตาม เยี่ยมเยียนให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง และดูแลช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดให้มีอาชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งจัดทำข้อมูล ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดของแต่ละหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อมอบหมายผู้นำหมู่บ้าน/ชุมชน หัวหน้าคุ้มบ้าน/หย่อมบ้าน/ป๊อกบ้าน จัดทำระบบกลไกการติดตามผู้ติดยาเสพติดให้เข้ารับการบำบัดรักษาตามกำหนดนัดแพทย์และรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง 7. การติดตามและประเมินผล โดยกรมการปกครองกำหนดการติดตาม และประเมินผลตามตัวชี้วัดที่กำหนดทุกมาตรการ/แนวทาง เพื่อติดตามความก้าวหน้า ปัญหา และอุปสรรค

 

และ 8. การยกย่องเชิดชูเกียรติ โดยกรมการปกครอง พิจารณาผลการปฏิบัติงานในระดับจังหวัด ตามขนาดเขตการปกครองของจังหวัด (ขนาด S M L) และให้จังหวัดพิจารณาคัดเลือกผู้ปฏิบัติงานดีเด่น และจัดพิธีมอบรางวัลในระดับอำเภอ ตำบล หมู่บาน/คุ้มบ้าน/หย่อมบ้าน/ป๊อกบ้าน ต่อไป เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกระดับ

 

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด จัดทำแผนปฏิบัติการรองรับแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดในระยะเร่งด่วน 3 เดือน และจัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงาน และหาวิธีการในการป้องกันและแก้ไขให้สอดคล้องกับแต่ละพื้นที่มากขึ้น รวมทั้งต้องรวบรวมข้อมูลจาก ศป.ปส.อ. เกี่ยวกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และให้ดำเนินการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตามมาตรการค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และผู้ค้ายาเสพติด (Re X-ray) และทำการเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจารณา เพื่อใช้เป็นข้อมูลเป้าหมายในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดร่วมกัน และรายงานจำนวนผู้กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้กรมการปกครองทราบ ภายในวันที่ 20 กรกฎาคม 2567

 

สำหรับในด้านการบริหารจัดการ ให้บูรณาการด้านงบประมาณจากหน่วยงานในพื้นที่ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามแผนงานบูรณาการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด หรือ งบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ และกรณีขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดำเนินการตามหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง เพื่อการบริหารจัดการในระดับพื้นที่เกิดการบูรณาการร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

 

จึงเป็นภาระหน้าที่ของคนไทยทุกคน ที่ต้องช่วยกันป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่อง ดูแลบุตรหลาน และคนใกล้ชิด ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และหากมีเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ขอให้ได้ช่วยกันโทรศัพท์แจ้งสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 เพื่อทำให้สังคมไทยเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยจากยาเสพติด

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube