Home
|
ข่าว

“สมชัย” เชื่อไม่เกิน 1 สัปดาห์กกต.ประกาศรับรองสว.ใหม่

Featured Image
“สมชัย” เชื่อ ไม่เกิน 1 สัปดาห์ กกต. ประกาศรับรอง สว.ใหม่ พร้อมมอง “ชาญ” ชนะเลือกตั้ง อบจ.ปทุมฯ ไม่ส่งผลถึงเลือก สส. ชี้ พท.ขาดทุน หลังชนะคู่แข่งฉิวเฉียด มอง “ทักษิณ” บารมีลด

 

 

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. กล่าวถึงการประกาศรับรอง การเลือกวุฒิสภาที่ล่าช้าว่า การเลือกวุฒิสภาครั้งนี้ กกต. ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย ตั้งแต่การแบ่งกลุ่ม การเลือกในระดับแรก ๆการฮั้วกัน จนทำให้เกิดภาพจำที่ว่า กกต.ไม่ทำงาน การประวิงเวลาใรการประกาศออกไปครั้งนี้ จึงอาจทำให้ลบภาพเก่า ๆ และทำให้สังคมเห็นเหมือนว่า กกต. ให้ความใส่ใจ พยายามใช้เวลาในการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนการประกาศรับรอง

 

 

ทั้งนี้ เชื่อว่า การประกาศรับรองอาจทอดเวลาไปไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ ส่วนผู้ที่มีปัญหาก็ต้องดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง และถอดถอนในภายหลัง แต่ก็ต้องใช้อำนาจศาลร่วมด้วย ไม่ได้จบที่ กกต. ซึ่งอาจจะใช้เวลาเป็นปีและผู้ถูกถอน ก็จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย เงินเดือน เบี้ยประชุมในระยะเวลาที่ผ่านมา

 

 

ขณะที่ปัจจุบัน เริ่มมีการจัดเสวนา พบปะ ระหว่างว่าที่สมาชิกวุฒิสภา ทั้งที่มีการเปิดเผยและไม่เปิดเผย จนทำให้เกิดข้อสังเกตที่ว่าอาจจะเป็นการแบ่งกลุ่มกันนั้น นายสมชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ว่าที่สมาชิกจะหาเวลาพบปะกันเพราะการทำงานก็ต้องอาศัยความเป็นกลุ่มก้อน แต่ที่ต้องระวังคือการจัดพบปะจะเป็นการรวบรวมเสียงในการกระทำบางประการหรือไม่ หากจะบอกในระยะสั้นขั้นต้น ก็อาจเป็นเรื่องของการรวมเสียงสำหรับการเลือกประธานรองประธานวุฒิสภา ส่วนระยะยาว อาจเป็นเรื่องของการรวมเสียงเพื่อต่อรองทางการเมือง ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ก็จะทำให้วุฒิสภาที่ประชาชนหวังว่าจะปลอดการเมือง การแทรกแซงและกลุ่มทุน ผิดหวังไป

 

 

ขณะเดียวกัน นายสมชัย กล่าวถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ว่า การเลือกครั้งที่ผ่านมา มีแตกต่างจากการเลือกสภาผู้แทนราษฎร ที่แบ่งเป็นเขต สามารถดูคะแนนนิยมในแต่ละพื้นที่แยกกันได้ แต่การเลือกแบบจังหวัดนี้ ผู้สมัครจะต้องมีการวางเครือข่าย ต้องมีการอาศัยนักการเมืองท้องถิ่น หรืออดีต สจ. ในการหาคะแนนเสียง ซึ่งคะแนนเสียงที่นายบาญ พวงเพ็ชร์ชนะมาครั้งนี้ ไม่ได้เรียกว่าชนะไม่ได้มาก จึงไม่สามารถบอกได้ว่าในอนาคตหากมีการเลือก สส. จะชนะหรือแพ้ เพราะภาพรวมเป็นทั้งจังหวัด ไม่ใช่ระดับเขต

 

 

หากถามถึงการใช้ภาพลักษณ์ของพรรคการเมือง หรือบุคคลสำคัญของพรรคลงไปหาเสียง จะเห็นได้ว่านายชาญ ใช้บุคคบสำคัญของพรรคเพื่อไทย ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งใช้ในนามอิสระ จึงประเมินว่าการลงทุนของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ยังขาดทุน เพราะควรจะชนะถล่มทลายมากกว่านี้ แต่ที่ปรากฏคือผลออกมาแค่ฉิวเฉียด

 

 

ส่วนการที่วิเคราะห์เช่นนี้ อาจหมายถึงบารมีและอิทธิพลของนายทักษิณ ชินวัตร อ่อนกำลังลงหรือไม่นั้น นายสมชัย ระบุว่า นายทักษิณห่างหายไปจากการเมืองเมืองไทยเป็นระยะเวลานาน และเมื่อกลับมาถึงประเทศไทยก็มีกระบวนการที่นายทักษิณใช้จนทำให้สังคมมองว่าเป็นอภิสิทธิ์ชน และแม้ว่านายทักษิณจะพยายามเดินสายลงพื้นที่ และสร้างแรงกระเพื่อมทางการเมือง แต่จากที่ตนมองเห็นยังได้ไม่เท่าที่ควรจนทำให้คะแนนนิยมลดน้อยลงไป

 

 

สำหรับการร้องเรื่องข้อทุจริตเลือกตั้ง ก็อยู่ที่อีกฝ่ายว่าจะนำเรื่องนี้ยื่นต่อ กกต.หรือไม่ อีกทั้งตนยังเชื่อว่าการเลือกตั้ง อบจ. จะมีมีทั้งใช้เงินและอิทธิพล ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับ กกต.ว่าจะดำเนินการอย่างไร จะถึงขั้นให้ใบเหลือง ใบแดง ใบส้มหรือไม่

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube