Home
|
ข่าว

“ปริญญา” มอง ศึก อบจ.ปทุมธานี ทุกอย่างจบที่ศาล

Featured Image
“ปริญญา”มอง ศึก อบจ.ปทุมธานี ทุกอย่างจบที่ศาล ชี้เพื่อไทยไม่ถือเป็นการการันตีพื้นที่ หลังก้าวไกลไม่ส่งคนลงชิง พร้อม จี้ อว. จัดการซื้อขายวุฒิปลอม หวั่นสร้างความเสียหายวงการการศึกษาไทย

 

 

 

 

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการเลือกนายก อบจ. ปทุมธานี ที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายก อบจ. มีคะแนนชนะฉิวเฉียด สะท้อนถึงคะแนนนิยมของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นั้น ต้องยอมรับว่า มีผล เมื่อนายทักษิณ และผู้นำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ไปช่วยหาเสียง แม้ว่าจะชนะ 1,000 กว่าคะแนน แต่ถือว่านายทักษิณ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ

 

 

เพราะมีหลายเรื่องเกี่ยวพันกัน ซึ่งต้องเข้าใจว่าจังหวัดปทุมธานีเป็นพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว แต่ช่วงหลังกลับเสียพื้นที่ให้กับพรรคก้าวไกล ซึ่งก่อนหน้านี้ นายชาญ ก็เคยเป็นอดีตนายก อบจ.หลายสมัยแต่เพิ่งมาแพ้ พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ในสมัยที่ผ่านมา ฉะนั้นในทางกลับกันต้องวิเคราะห์ด้วยว่าเหตุใด พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ถึงแพ้ ซึ่งส่วนหนึ่งการเลือกก่อนเวลาอาจเป็นหนึ่งปัจจัย และอีกปัจจัยข้อหนึ่งคือเลือกนายกอบจ. ปทุมธานี สองครั้งที่ผ่านมา เป็นการเลือกในช่วงผิดเทอม

 

 

ขณะที่ จังหวัดปทุมธานีมีมหาวิทยาลัย 10 กว่าแห่ง ซึ่งนักศึกษาส่วนหนึ่งต้องย้ายทะเบียบบ้านมาในมหาวิทยาลัย รวมไปถึงไม่มีระบบการเลือกตั้งล่วงหน้า จึงต้องเรียกร้อง กกต.ให้แก้กฎหมายท้องถิ่น ขณะเดียวกัน นายปริญญา ยังมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยไม่สามารถการันตีได้ว่าเอาชนะพรรคอันดับหนึ่งได้ เนื่องจากพรรคก้าวไกล ไม่ได้ส่งผู้สมัคร นายก อบจ. ลงเลือกตั้งครั้งนี้ แต่อย่างน้อย ก็เป็นการกลับมาของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดปทุมธานี เพื่อหวังชนะพรรคก้าวไกลในครั้งหน้า อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ กกต.จะ ประกาศรับรองนายชาญเมื่อใดและจะปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่นั้นสำคัญกว่า

 

 

นอกจากนี้ การจะประกาศให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ยังเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นเรื่องของอีกพรรคหนึ่งคือพรรคภูมิใจไทยด้วย นายปริญญา ระบุว่า ต้องเข้าใจว่านายชาญ มีคุณสมบัติครบถ้วนในการสมัคร ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็พูดถูก ไม่ได้ขาดคุณสมบัติแม้แต่ข้อเดียว เนื่องจากศาลยังไม่ได้พิพากษา แต่การชนะการเลือกตั้งแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

 

 

เรื่องนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาตอบข้อหารือของกระทรวงมหาดไทย มาตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปี 2565 เพราะเคยเกิดเหตุการเช่นนี้ในสามพื้นที่ ซึ่งกฤษฎีกาตอบมาว่ามีผลมายังการเลือกตั้งครั้งใหม่ เพราะขัดต่อเจตนารมย์ของกฎหมาย เพื่อไม่ให้ยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน แต่ตนตั้งคำถามว่า ตอนสมัคร กกต.ได้แจ้งนายชาญหรือไม่ เนื่องจากมีแนวทางในลักษณะดังกล่าว รวมไปถึง

 

 

พรรคเพื่อไทยทราบหรือไม่ หากทราบแล้วยังทำถือว่าพลาด และหากไม่ทราบก็ถือว่าพลาดเช่นกัน จึงเชื่อว่าเรื่องนี้พรรคภูมิใจไทยคงไม่ทำให้ตัวเองเสี่ยงในเรื่องที่กฤษฎีกามีคำวินิจฉัยในลักษณะนี้ และเรื่องนี้หากจะจบคงไปจบที่ศาลเพราะมาตรา 81 ของ พ.ร.บ. ป.ป.ช. เมื่อศาลรับคำร้องแล้วต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ศาลสามารถมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้ ซึ่งนายชาญ หรือพรรคเพื่อไทย สามารถไปร้องศาลได้ว่าขอให้คำสั่งเป็นอย่างอื่น

 

 

นายปริญญา ยังกล่าวถึงเรื่องการซื้อขายการศึกษา ในฐานะที่อยู่ในวงการการศึกษามานานเรื่องนี้มีจริงหรือไม่ ว่า ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีกันพูดมาอยู่บ้าง ซึ่งบางที่มีการซื้อขายปริญญาได้ และมีการพูดกันว่าอาจจะมีจริงกันในบางที่ หากพบว่ามีหลักฐานว่ามีการซื้อขายจริงก็ต้องจัดการเพราะเสียหายกันไปหมด แต่เท่าที่ตนประสบมาก็ไม่เคยเห็นกับตนเอง มีเพียงแค่ได้ยินมาบ้าง

 

 

แต่เรื่องนี้ไม่ควรเกิด และหากมีเรื่องการกันเกิดขึ้น หน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ก็ต้องจัดการเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ถ้าใบปริญญาซื้อขายกันได้เมื่อไหร่ก็เสียหายกันไปหมด กับคุณภาพทางการศึกษาเพราะประเทศไทยไม่ได้มีชื่อเสียงที่โดดเด่นทางด้านการศึกษาอยู่แล้ว และเราก็มีปัญหาอยู่แล้วว่าคนจะเข้าเรียน มหาวิทยาลัยน้อยลง เพราะคนที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้นก็ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ ฉะนั้นจึงขอถือโอกาสเมื่อมีการร้องเรียน ทำให้การศึกษามีคุณภาพมากขึ้น

 

 

 

หากมีหลักฐานจริงก็ต้องจัดการไม่ให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้หรือไม่ในการซื้อขายวุฒิการศึกษาจะซื้อกันได้ง่ายขนาดนี้ นายปริญญา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่าย หากออกมาจากผู้ที่มีอำนาจจริงๆ หรืออาจมีเจ้าหน้าที่

 

 

สอดแทรกเข้าไปก็มีความเป็นไปได้ และย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย แต่ถ้าหากเกิดขึ้นแล้วก็ต้องจัดการ เราจะปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะคนที่เขาตั้งใจจะสอบเข้า ตั้งใจไปเรียนเสียค่าหน่วยกิต จนจบการศึกษามาก็กลายเป็นว่าสิ่งนี้ใช้เงินซื้อได้ แล้วเราจะเรียนกันไปทำไม ส่วนเรื่องนี้พัวพันกับผู้ที่อาจจะเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองมองอย่างไร นายปริญญา กล่าวว่า จะต้องทำให้ชัดเจนไม่ลูบหน้าปะจมูก ว่ากันตามเนื้อผ้า จัดการให้เห็นว่ากระทรวงอว. เอาจริงเรื่องนี้ เพราะความจริงแล้วความการศึกษาไทยมีปัญหามากอยู่แล้ว พอมีเรื่องนี้ก็ยิ่งทำให้มีปัญหามากขึ้นไปอีก

 

 

 

ยิ่งเป็นการเสื่อมเสียหรือไม่ กับการที่ ไปซื้อวุฒิการศึกษามาเพื่อเข้ามาสู่การเมืองระดับประเทศ นายปริญญา กล่าวว่า ก็ยิ่งไปกันใหญ่และกระทบกับการเข้าไปสู่หน้าที่การทำงานในตำแหน่งต่างๆ ก็จะกลายเป็นของเก๊เป็นทอดๆ ต่อไป

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube