Home
|
ข่าว

อธิบดีอุทยานฯ เร่งฟังความเห็นเฉือนทับลาน 2.6 แสนไร่ให้ส.ป.ก.

Featured Image
อธิบดีอุทยานฯ เร่งเปิดรับฟังความเห็นประชาชน-ออนไลน์ ปมเฉือนที่อุทยานฯทับลาน 260,000 ไร่ให้ส.ป.ก. หวังแก้ปัญหาที่ทำกิน แต่ คนไม่มีคุณสมบัติ-รุกที่จะไม่ได้รับการยกเว้น เตรียมสรุปใน 30 วัน

 

 

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีการรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อดำเนินการแบ่งพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานจังหวัด นครราชสีมา – ปราจีนบุรี จำนวน 260,000 ไร่ไปให้ ส.ป.ก. ดูแลว่า ปัญหาพื้นที่พิพาทในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน มีมานานกว่า 40 ปีแล้ว

 

 

เนื่องจากพื้นที่ ดังกล่าวก่อนเป็นอุทยานแห่งชาติได้เป็นป่าสงวนมาก่อน และได้มีการจัดพื้นที่ให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยได้เข้าไปทำกินเนื้อที่ประมาณ 58,000 ไร่ แต่หลังจากนั้นได้มีการประกาศ อุทยานแห่งชาติไปทับพื้นที่ในส่วนนี้ด้วยซึ่งถือเป็นความบกพร่องของ กรมป่าไม้ในอดีต

 

 

จึงมีการเรียกร้องให้กันพื้นที่ออกจากอุทยาน และมีการสำรวจพื้นที่ใหม่อีกครั้งในปี 2543 แต่กระบวนการดังกล่าวไปไม่ถึงจุดหมาย ซึ่งหลายรัฐบาลที่ผ่านมาพยายามแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน และมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือสคทช. และมีมติให้กันพื้นที่ชุมชน จำนวน 265,000 ไร่ ให้เป็นพื้นที่ของส.ป.ก. และครม. ได้มีมติเห็นชอบในวันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา แต่บุคคลใดที่ถูกดำเนินคดี ในพื้นที่ดังกล่าวจะไม่ได้รับการยกเว้น

 

 

นายอรรถพล เปิดเผยว่าจากมติดังกล่าวทำให้กรมอุทยานฯต้องมาดำเนินการปรับปรุงแนวเขต แต่จะทำได้ต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั้งจากในพื้นที่และประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการและจะสิ้นสุดในวันที่ 12 กรกฎาคม ก่อนจะรวบรวม เสนอให้คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ พิจารณาภายใน 30 วัน เพื่อมีมติเสนอต่อครม. ต่อไป โดยสิ่งสำคัญจะต้องยึดหลักข้อเท็จจริง ทั้งเรื่องการอยู่อาศัยทำกิน และการดูแลรักษาผืนป่า เนื่องจากในจำนวน 265,000 ไร่ มีทั้งคนที่อยู่อาศัยอยู่เดิม จากการจัดสรรพื้นที่และคนที่มาซื้อต่อเป็นมือที่ 2 มือที่ 3 รวมถึงกลุ่มรีสอร์ทที่ถูกดำเนินคดีกว่า 12,000 ไร่

 

 

ส่วนที่หลายคนมองว่ามติครมเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 เป็นการเอื้อนายทุน อธิบดีกรมอุทยานชี้แจงว่า รัฐบาลที่ผ่านมาพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้กับชาวบ้าน จึงเห็นว่าควรทำให้เป็นที่ดินของรัฐ และส.ป.ก. ก็ถือเป็นที่ดินของรัฐ ดังนั้นส.ป.ก.จึงต้องเข้ามาพิจารณาตรวจสอบว่าใครมีสิทธิ์

 

 

ในส่วนของกรมอุทยานเองก็จะต้องไปพิจารณาร่วมกันในชั้นของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติเพื่อเสนอต่อครม. ผมยังว่าบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมายก็ยังจะไม่มีคุณสมบัติถือครองที่ดินอยู่อย่างนั้น เพราะกังวลว่าหากมีการจัดสรรที่ไปแล้ว เกิดผลกระทบเพื่อให้กับนายทุนกลุ่มรีสอร์ทเข้าไปดำเนินการ

 

 

ส่วนประชาชนจะต้องได้รับการจัดสรรพื้นที่จำนวนเท่าไหร่และใครจะได้บ้าง นายอรรถพล ระบุว่า ต้องไปหารือในชั้นคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ เพราะคุณสมบัติแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอยู่เดิมบางคนมาซื้อขาย เปลี่ยนมือบางคนเข้ามากว้านซื้อ จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติผู้ครอบครองที่ดินของรัฐ

 

 

เมื่อถามว่า มติครม. ให้ดำเนินการตามแผนที่ที่มีการรังวัดใหม่ในปี 2543 เสียงของประชาชนจะสามารถเปลี่ยนแปลงมติดังกล่าวได้หรือไม่ นายอรรถพล ระบุว่าเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาและเป็นข้อเสนอของคณะกรรมการอุทยานฯ ซึ่งตอนนี้มีการรับฟังความเห็นทั้งชาวบ้านในพื้นที่ และในโลกออนไลน์ แต่ทุกอย่างต้องไปยุติที่คณะกรรมการอุทยานฯ เพื่อเสนอต่อสคทช. หรือ ครม. หากมีมติ ให้ดำเนินการ ตามแผนที่ปี 2543 กรมอุทยานก็ต้องมาดำเนินการรังวัดเพื่อปรับแผนที่ท้ายกฎหมายใหม่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube