“ณรงเดช-ก้าวไกล” ชี้ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ผิดฝาผิดตัว
“ณรงเดช-ก้าวไกล” ชี้ “ปุ๋ยคนละครึ่ง”ผิดฝาผิดตัว ลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิตข้าวไม่ได้จริง ทำชาวนายากลำบากกว่าเดิม สะท้อนรัฐบาลออกแบบนโยบายโดยไม่เข้าใจ-ไม่ฟังเสียงประชาชน
นายณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นถึงโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหรือโครงการ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ของรัฐบาล โดยกล่าวว่า ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โครงการนี้ถูกตั้งคำถามมากมายทั้งจากชาวนาและ สส.ในสภาฯ เพราะมีความยุ่งยากซับซ้อน และมีเงื่อนไขหลายประการที่ไม่ตอบโจทย์พี่น้องชาวนา จนกลายเป็นประเด็นสำคัญที่คณะกรรมาธิการการเกษตรฯ ต้องเชิญหน่วยงานต่างๆ มาชี้แจงถึง 2 ครั้ง ในวันที่ 3 และ 11 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา
โครงการปุ๋ยคนละครึ่งเป็นโครงการภายใต้มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/2568 ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 โดยรัฐบาลจะสมทบค่าปุ๋ย (เคมีและอินทรีย์) และชีวภัณฑ์ให้กับชาวนาแบบซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ภายในวงเงิน 500 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือคิดเป็นมูลค่าการสนับสนุนสูงสุด 10,000 บาทต่อครัวเรือน โดยมีเงื่อนไขว่า ชาวนาต้องสั่งซื้อปุ๋ยผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เท่านั้น เลือกสูตรปุ๋ยที่ต้องการใช้ในการทำนาจากทั้งหมด 16 สูตร จ่ายเงินจากบัญชีของ ธ.ก.ส.ที่ตนมีอยู่ไปก่อน (สำหรับมูลค่าปุ๋ยที่ตนซื้อเอง) แล้วไปรับปุ๋ย (ทั้งส่วนที่ตนซื้อและรัฐบาลสมทบ) ผ่านสหกรณ์ที่ตนเป็นสมาชิกหรืออยู่ใกล้เคียง ตามที่ชาวนาแจ้งไว้ในแอปพลิเคชัน
ด้วยเงื่อนไขที่กล่าวมาข้างต้น พี่น้องชาวนา จึงตั้งคำถามมากมาย เช่น ทำไมรัฐบาลสนับสนุนการทำนาแค่เฉพาะค่าปุ๋ย สนับสนุนเป็นเงินสดได้หรือไม่ ทำไมเลือกได้แค่สูตรปุ๋ย เลือกยี่ห้อปุ๋ยได้หรือไม่ ทำไมต้องให้ชาวนาจ่ายเงินไปก่อน (โดยปกติ ชาวนาส่วนใหญ่มักซื้อปุ๋ยด้วยเงินเชื่อ) ถ้าชาวนาไม่มีเงินในบัญชี ธ.ก.ส.จะทำอย่างไร จะเข้าร่วมโครงการนี้ได้หรือไม่ ไปจนถึงคำถามที่ว่า เมื่อรัฐบาลทำโครงการนี้แล้ว จะเลิกให้การสนับสนุนผ่านโครงการช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท
หรือชื่อเต็มคือโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวด้วยหรือไม่ โดยพี่น้องชาวนาบางส่วนสะท้อนว่าอยากให้รัฐบาลทำโครงการไร่ละ 1,000 บาท มากกว่าโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง
ตัวแทนหน่วยงานราชการที่มาชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าภาพหลัก คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการข้าว หรือหน่วยงานที่เป็นแหล่งที่มาของเงินในการดำเนินโครงการคือ ธ.ก.ส. ต่างก็รับทราบถึงเสียงท้วงติงมากมาย
ทั้งเสียงจากภายในห้องประชุมคณะกรรมาธิการที่มีพี่น้องชาวนามาร่วมประชุมด้วย และจากภายนอก แต่หน่วยงานทั้งหมดก็ชี้แจงว่า โครงการปุ๋ยคนละครึ่งนี้กลับตัวไม่ได้แล้ว มีแต่จะเดินหน้าตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดไว้ต่อไป เมื่อคณะกรรมาธิการการเกษตรฯ และพี่น้องชาวนาได้ยินเช่นนั้นจึงรู้สึกหนักใจ เพราะในขณะที่โครงการปุ๋ยคนละครึ่งนี้กลับตัวไม่ได้แล้ว การดำเนินโครงการต่อไปก็มีแต่จะพบอุปสรรคใน 4 มิติ ได้แก่
1. ไปไม่ทันเวลา
2. ชาวนาที่ไม่มีเงินในบัญชี ธ.ก.ส. จะเข้าไม่ถึงโครงการนี้
3. ไปไม่ถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
4. ความไม่ชัดเจนในมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอื่นๆ
ดังนั้น โครงการปุ๋ยคนละครึ่งเป็นตัวอย่างของการออกแบบโครงการที่ไม่เข้าใจความต้องการและข้อจำกัดของพี่น้องชาวนา อีกทั้งรัฐบาลยังผลีผลามมีมติดำเนินโครงการไปก่อน โดยไม่ได้รับฟังเสียงของพี่น้องชาวนาและผู้แทนราษฎร ทำให้โครงการออกมาผิดฝาผิดตัว และจะกลับมาทบทวนใหม่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
แม้ว่าเสียงห่วงใยของพี่น้องชาวนาและคณะกรรมาธิการการเกษตรฯ จะไม่สามารถหยุดยั้งโครงการนี้ได้ แต่ณรงเดชยังมองในแง่ดีว่า การท้วงติงก็มีผลให้หน่วยงานที่ดำเนินการยอมปรับเงื่อนไขสำคัญ นั่นคือ การให้ชาวนาเลือกยี่ห้อปุ๋ยที่ตนจะซื้อ (และรัฐบาลจะสนับสนุน) เองได้ จากเดิมที่จะชาวนาเลือกเฉพาะสูตรปุ๋ยที่ต้องการเท่านั้น แล้วให้สหกรณ์เลือกผู้ขายปุ๋ยเอง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการการเกษตรฯ จะติดตามเรื่องนี้ต่อไป ว่าพี่น้องชาวนาจะได้รับปุ๋ยตรงตามสูตร
ตามคุณภาพ และตามยี่ห้อที่ตนต้องการจริงหรือไม่
ทั้งหมดนี้คือความผิดปกติอันเนื่องมาจากการออกแบบโครงการโดยขาดความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของพี่น้องชาวนา ผู้ซึ่งเป็นหัวใจและกลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ ถ้าหากเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลห่วงเสียงกังวลของพี่น้องชาวนา กลับไปทบทวนและออกแบบโครงการที่มีความยุ่งยากและข้อจำกัดน้อยกว่านี้ รวมถึงแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงเป้า แม่นยำ และถูกต้องตามช่วงเวลาอย่างแท้จริง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews