รัฐมนตรี ชี้แจงสภา “จุลพันธ์” แหล่งเงินดิจทัลเปลี่ยนเพราะฟังเสียงสะท้อน กรอบเปลี่ยน แต่ประชาชนได้เงินปีนี้แน่นอน “พิชัย”ย้ำ ดันดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อุ้มภาคครัวเรือน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาเป็นพิเศษร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. … หรืองบกลางเพิ่มเติม เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ
หลังจากที่ สส.ฝ่ายค้าน อภิปรายไปเพียง 2 คน ได้แก่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายคัดค้านเสร็จสิ้น ปรากฏว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ขอใช้โอกาสนี้ ลุกขึ้นชี้แจงทันที
เริ่มจาก นายจุลพันธ์ ลุกขึ้นชี้แจงคนแรก แซวว่า เห็นนางสาวศิริกัญญา ใส่ชุดเขียว นึกว่ามาเชียร์ ธกส. พร้อมชี้แจงว่า แหล่งงบประมาณที่ใช้ทำดิจิทัลวอลเล็ตเปลี่ยนไป เป็นเพราะกลไกที่เปลี่ยนจากรับฟังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อไปดูข้อมูลแล้วเราสามารถจัดการได้ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่ ซึ่งคณะอนุกรรมการกำกับ ที่มีตนเองเป็นประธานก็นำข้อเสนอนี้ไปยังคณะกรรมการนโยบายเพื่อพิจารณาและมีมติเห็นชอบไปแล้ว เพื่อให้มีความเหมาะสมขึ้น
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนกรอบระยะเวลา หรือกรอบระยะทาง ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็มีการเปลี่ยนจริง แต่ยืนยันว่า ปลายปีนี้เงินถึงมือพี่น้องประชาชนแน่นอน ยังยืนยันในกรอบเวลานี้อยู่ แม้จะมีการปรับเปลี่ยนในรายละเอียดบ้าง ทั้งสินค้าต้องห้าม แหล่งเงิน และขณะนี้เราเดินหน้ามาถึงจุดที่สามารถยืนยันได้ว่า ระบบเราสามารถเสร็จได้ทัน และมีเงินเพียงพอ
นายจุลพันธ์ ยืนยันด้วยว่า ดิจิทัล วอลเล็ต ไม่ใช่นโยบายการสงเคราะห์ประชาชน ถ้ายังเถียงกันอยู่เรื่องวิกฤตหรือไม่ ตนเองเคยยกสถานการณ์ให้ดูแล้วว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในระดับที่ดี ตั้งแต่เราเป็นรัฐบาลมาตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัวชี้ชัด เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถลืมตาอ้าปากได้ วันนี้รัฐบาลใช้พี่น้องประชาชนเป็นกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจ นั่นก็คือเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ให้ถึงมือพี่น้องประชาชนและประชาชนเป็นคนใช้
ทั้งนี้ ที่เราตั้งงบประมาณในการขาดดุลสูงเกือบเต็มเพดาน ก็เป็นข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของกลไกทางงบประมาณ ตนเองเข้าใจว่า ท่านรู้ แต่ถ้าเป็นข้อสังเกต เพราะเรามีพระราชบัญญัติหลายฉบับที่สามารถรองรับสถานการณ์ได้ทุกรูปแบบ มิฉะนั้น ประเทศไทยอยู่ไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง และการจัดเก็บรายได้ที่พลาดเป้า ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครเก็บได้ตรงตามเป้าถือเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น ต้องพยามเก็บให้ได้มากที่สุด
ด้านนายพิชัย ย้ำรัฐบาลต้องดันดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อุ้มภาคครัวเรือน การผลิตให้กลับมาตั้งตัวได้ และยืนยันทุกคนได้ประโยชน์ ไม่กระจุกเฉพาะทุนใหญ่
นายพิชัย ยังยืนยันถึงการเพิ่มหนี้ด้วยว่า จะต้องอยู่ในวิสัยของขีดความสามารถของประเทศในการชำระหนี้ ไม่ว่าหนี้จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจ่าย ซึ่งเศรษฐกิจที่เข้มแข็งของรัฐบาล จะช่วยให้ภาคประชาชน และภาคการผลิต มีความเข้มแข็งด้วย พร้อมย้ำว่า วันนี้มีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดผลต่อเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่องผ่านโครงการประเภททุนทั้งโครงสร้าง การบริโภค การลงทุน และการผลิต
เช่นเดียวกับนายเผ่าภูมิ ที่ขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะ และทุกมิติแต่ละด้าน เราอาจมองไม่ตรงกัน โดยเฉพาะมิติด้านเศรษฐกิจ ซึ่งในฐานะรัฐบาลจำเป็นต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อน เพราะทราบกันดีอยู่แล้วว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในภาวะชะลอตัว หากไม่มีการกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ก็จะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำยิ่งขึ้นไปอีก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
