“พิธา” ติงรัฐบาลคิดให้ดี ไม่เคยเห็นประเทศไหนแก้ปัญหา “ปลาหมอคางดำ” ระบาดด้วยการรับซื้อ “ชัยธวัช” โอดพื้นที่ระบาดมีแต่ของก้าวไกล
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาปลาหมอคางดำระบาด ว่า ตนให้นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. และนายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ ตามอยู่ เห็นข้อมูลใหม่เข้ามาว่ามีการส่งออกกว่า 320,000 ตัว ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะปลาหมอคางดำเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ ที่จะทำให้ระบบนิเวศของไทยเสีย
ทั้งนี้ ตนศึกษามาว่า ไทยไม่ได้เป็นที่แรก ที่อเมริกา ฟลอริด้า ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ โดนหนักมาหลาย 10 ปี อยากให้กรมประมงและรัฐบาลได้ลองศึกษาดูว่าในต่างประเทศทำอย่างไร เพื่อให้มีแผนการทำงานออกมาชัดเจนวิธีกำจัดด้วยชีวภาพ กำจัดด้วยกายภาพ สารเคมีก็มีนะ ออสเตรเลียก็มีสารเคมี ระยะสั้น กลาง และยาว ถ้าเอามาประกบกัน
เข้าใจว่า กรมประมงก็ทำอยู่แล้ว คือ ใช้ปลาที่เป็นคู่แข่งกันในการเข้าไปจับ หรือการใช้ตัวผู้ที่เป็นหมันก็เป็นวิธีที่ต่างประเทศทำ แต่ที่รู้สึกว่าไม่เคยเห็นประเทศไหนทำคือการรับซื้อ เพราะจะทำให้เกิด Cobra Effect ยิ่งรับซื้อปุ๊บ คนไม่มีความสนใจมาก่อน ก็พร้อมที่เพาะ ยิ่งขาย มันก็จะยิ่งไปกันใหญ่ ดังนั้น ไม่เคยเห็นการสร้างมูลค่าให้ปลาหมอคางดำ คนอาจจะใช้โอกาสนี้เพาะเลี้ยงมากขึ้น และส่งให้กรมประมง มันก็มีข้อเสีย อยากให้รัฐบาลคิดให้ดี
นายพิธา กล่าวต่อว่า ตนเข้าใจว่ากรมประมงก็ไม่เห็นด้วย เพราะเคยทำมาแล้วในปี 2561 แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และทำให้ประชากรปลาหมอคางดำมากขึ้น ดังนั้น ขอให้ลองคิดเรื่องนี้ดีๆ ว่ากายภาพ ชีวภาพ เคมี
แผนการเป็นอย่างไร ขอย้ำว่า ต้องจัดการให้รวดเร็ว เพราะแข่งกับเวลา
นายพิธา กล่าวเสริมว่า เราตั้งกระทู้สดถามรัฐบาลตั้งแต่ ต.ค. ปีที่แล้ว สส.เขตหลายคนต้องไปช่วยชาวบ้านจับปลาหมอคางดำมาตลอด แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน มีการเคลื่อนไหวบ้างในการปล่อยปลากะพงขาวนิดๆหน่อยๆพอเป็นพิธี แต่พอรัฐมนตรีไปปล่อยแล้วก็พบปัญหา เพราะคนในพื้นที่บอกว่าภายหลังรัฐมนตรีไปปลากระพงไซต์เล็ก แล้วมันจะไปสู้ปลาหมอคางดำได้
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขอขยายความว่า ระหว่างที่มีประชุมสภา ตนได้พูดคุยกับ สส. เขต ตอนนี้ผลกระทบที่รุนแรงมาก ล้วนอยู่ในพื้นที่ที่มี สส.เขตเป็นของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะพื้นที่ 3 สมุทรรวมไปถึงบางขุนเทียน โดยตนได้บอก สส. เขตว่ารัฐบาลกำลังชูนโยบายเรื่องรับซื้อปลาหมอคางดำมาเป็นพระเอกในการแก้ปัญหาเรื่องนี้
จึงเป็นความเป็นห่วงว่า นโยบายนี้ จะสร้างผลกระทบมุมกลับ กลายเป็นว่า จะมีข้อดี หากรับซื้อ จะมีการช่วยกันจับในแหล่งน้ำสาธารณะ ซึ่งหลายพื้นที่ไม่มีมาตรการที่ชัดเจน และสิ่งที่กังวลมาก คือ หากรัฐบาลเน้นตรงนี้เป็นพระเอกจะส่งเสริมให้คนไปเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ ยิ่งสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นอย่างนี้ การทำมาหากินอย่างอื่นก็มีปัญหา แล้วปลาหมอสีขายได้กิโลกรัมละ 15 บาท บ่อปลา บ่อกุ้งที่ทำมาหากินไม่ได้เพราะราคาตก ก็ไปเลี้ยงปลาหมอสีเอามาขายเลย อันนี้เราคุยกันมาก่อน
แล้วเราก็ไปพบว่า มีคนแอบเพาะเลี้ยงส่งออกไปแล้ว จึงอยากให้เน้นมาตรการอย่างอื่น และความรับผิดชอบของคนหรือเอกชนที่ชัดเจนว่าจะต้องมีความรับผิดชอบอย่างไร ร่วมกับภาครัฐที่จะมาจัดการปลาหมอสีให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ อันนี้ประเด็นสำคัญเลย ตนจึงกังวล เพราะเห็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ออกมาเล่นใหญ่ในเรื่องนี้ คิดว่าอาจจะผิดที่ผิดทาง
สำหรับการระบาดในพื้นที่ สส.พรรคก้าวไกล จะเป็นการวัดฝีมือ สส.ในพื้นที่หรือไม่ นายชัยธวัช ย้ำว่า เรื่องนี้สำคัญ เพราะจริงๆ แล้ว สส.ของพรรคก้าวไกล ในพื้นที่เราไม่ได้เพิ่งมาตื่นตัวเรื่องนี้ หากจำกันได้ การประชุมสภาสมัยที่แล้ว ก็มีการพูดคุยเรื่องนี้แล้ว เพราะ สส.ในพื้นที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านอย่างไร
นายชัยธวัช ย้ำด้วยว่า เราจะต้องชัดเจน สส.จะต้องมีการสรุปให้ชัดเจนว่า มาตรการในการแก้ปัญหาตรงนี้ควรมีอะไรบ้าง และน่าจะต้องมีการไปจัดเวทีเพื่อพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อตั้งเป้าหมายร่วมกันในการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม คู่ขนานกันไปกับการประสานงานและผลักดันให้เรื่องนี้ร่วมกับรัฐบาลจากนั้น นายพิธา กล่าวต่อว่า อะไรก็ตามที่มีมูลค่ามันไม่หายไปหรอก พอไปใส่มูลค่าให้มัน ฟาร์มกุ้งที่ได้รับผลกระทบมันมากกว่า 15 บาทเพราะฉะนั้น ต้องคิดดีว่านี้คือวิธีที่ถูกต้องหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews