Home
|
ข่าว

“ประเสริฐ” จ่อตั้งกองทุนดัน “ดิจิทัลสตาร์ทอัพไทย”

Featured Image

 

 

 

“ดีอี-ดีป้า” ติดตามขับเคลื่อน ศก.-สังคมดิจิทัลในเขตพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน จ่อถกแนวทางการจัดตั้งกองทุนหนุน “ดิจิทัลสตาร์ทอัพไทย” พร้อมจัดตั้งเขตส่งเสริมดิจิทัลในพื้นที่เป้าหมาย ยันอุ้มสตาร์ทอัพรายเดิมด้วย เชื่อเสริมเครื่องยนต์บูมเศรษฐกิจ

 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามกิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการต่าง ๆ ตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของกระทรวง (The Growth Engine of Thailand) ใน 3 ด้านที่ดำเนินการโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ในเขตพื้นที่ภาคใต้ โดยมี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมด้วยผู้บริหาร และผู้แทนพนักงานดีป้า ให้การต้อนรับ

โดย นายประเสริฐ พร้อมคณะได้ร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่และดิจิทัลสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยวและการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Travel Tech & Smart City) ในกิจกรรม ‘Ignite Andaman Digital Hub’ กิจกรรมภายใต้ โครงการ DIGINEXT by SEEDTHAILAND โครงการสำคัญที่มุ่งเพาะเมล็ดพันธุ์คนดิจิทัลรุ่นใหม่ใน 3 กลุ่ม ได้แก่ YOUTH, FUTURE CAREER และ DIGI-PRENEUR สู่การเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศในอนาคตพร้อมรับฟังแนวคิด แลกเปลี่ยนมุมมอง รับทราบปัญหา อุปสรรค และเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาในภาคการท่องเที่ยวและการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในพื้นที่

“จากนี้ กระทรวงดีอี และ ดีป้า จะร่วมหารือแนวทางการจัดตั้งกองทุนเพื่อการส่งเสริมดิจิทัลสตาร์ทอัพไทย และการจัดตั้งเขตส่งเสริมดิจิทัลในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างแรงจูงใจให้เกิดดิจิทัลสตาร์ทอัพรายใหม่ พร้อมช่วยให้ดิจิทัลสตาร์ทอัพรายเดิมสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยเบื้องต้นจะต้องมีการกำหนดแนวทางการจัดตั้งเขตส่งเสริมดิจิทัลในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่ง กระทรวงดีอี และ ดีป้ามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กองทุนเพื่อการส่งเสริมดิจิทัลจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนดิจิทัลสตาร์ทอัพแต่ละพื้นที่ของประเทศ ซึ่ง กระทรวงดีอี และ ดีป้า รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะเร่งหารือในรายละเอียดเพื่อขับเคลื่อนให้กลไกส่งเสริมดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป”

นายประเสริฐ ยังได้เยี่ยมชมและให้กำลังใจนักเรียนและครูที่เข้าร่วมกิจกรรม ‘Coding Bootcamp & Roadshow’ และกิจกรรม ‘Coding War’ พื้นที่ภาคใต้ตอนบน กิจกรรมภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ดำเนินการ 8ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งโครงการดังกล่าวมุ่งส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่พร้อมรองรับการพัฒนาทักษะโค้ดดิ้ง ผ่านการยกระดับห้องเรียนโค้ดดิ้ง 1,500 โรงเรียนทั่วประเทศ โดยพื้นที่ภาคใต้ตอนบนมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ 49 โรงเรียน

 

นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำหลักสูตรโค้ดดิ้ง พร้อมเสริมทักษะ การสอนแก่ครูที่จะเป็นโค้ดดิ้งโค้ช 3,000 คนให้มีเทคนิค พร้อมถ่ายทอดความรู้แก่นักเรียน 3 แสนคนต่อปี การเสริมทักษะโค้ดดิ้งเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลแก่ครูผู้สอนและนักเรียนผ่านกิจกรรม Coding Bootcamp และ Coding War และการสร้างความตระหนักด้านโค้ดดิ้งและการประยุกต์ใช้จริงแก่ผู้ปกครองและประชาชนทั่วไปผ่านกิจกรรม Coding Roadshow รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรการเรียนโค้ดดิ้งที่เผยแพร่ผ่านระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม

 

 

นอกจากนี้ นายประเสริฐ ยังได้พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการท้องถิ่นที่และอินฟลูเอนเซอร์ในกิจกรรม Digital Content-Driven E-Commerce Workshop: การอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเพิ่มยอดขายด้วยดิจิทัลคอนเทนต์’ ภายใต้โครงการ CONNEXION โครงการส่งเสริมการยกระดับองค์ความรู้และชุดทักษะใหม่ด้านดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนที่จำหน่ายสินค้าและให้บริการภายในจังหวัดและพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน เพื่อสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อต่าง ๆ

 

อาทิ เทคนิคการถ่ายภาพสินค้า การสร้าง Storytelling การ Live ขายสินค้า การเปิดร้านค้าใน Social Commerce อย่าง TikTok และ Facebook รวมถึงการนำข้อมูลการค้าออนไลน์จาก e-Marketplace ชั้นนำของไทยจากแพลตฟอร์ม eTailligence มาประยุกต์ใช้วางแผนและประกอบการตัดสินใจด้านการตลาด ทั้งหมดเพื่อผลักดันสินค้าและบริการท้องถิ่นสู่โลกออนไลน์ สร้าง Digital Content Creator และ Micro Influencer หน้าใหม่ให้กับท้องถิ่น และรองรับภาคการท่องเที่ยวในอนาคต

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube