Home
|
ข่าว

สินค้าเกษตร ส่งออกมิย.ติดลบ0.3% ครึ่งปีแรกยังโต 2% ตามเป้า

Featured Image
ส่งออกมิย.ติดลบ0.3% แต่ครึ่งปีแรกยังโต 2% ตามเป้า สินค้าเกษตรหดตัวเนื่องจากผลผลิตน้อยลง เศรษฐกิจคู่ค้าฟื้นตัวช้า
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนมิถุนายน และ 6 เดือนแรกของปี 2567 ว่า การส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายน 2567 มีมูลค่า 24,796.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 0.3 มาจากสินค้าผลไม้เข้าสู่ช่วงท้ายของฤดูกาล จึงมีผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ดุลการค้าไทยเกินดุลต่อเนื่อง 2 เดือน ขณะที่บรรยากาศการค้าโลกเริ่มมีความวิตกกังวลต่อแนวโน้มการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า ทั้งยังมีความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งในหลายประเทศ
นอกจากนี้ ประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี อาทิ การเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า ยังส่งผลให้ความต้องการของเครื่องยนต์สันดาป หดตัวลงอย่างชัดเจน ทั้งนี้ การส่งออกไทยครึ่งแรกของปี 2567 ขยายตัวร้อยละ 2.0 ในขณะที่การส่งออกของไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 มีมูลค่า 145,290.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 2.0 โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตร หดตัวร้อยละ 3.3 กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน โดยสินค้าเกษตรหดตัวร้อยละ 2.2 กลับมาหดตัวหลังจากขยายตัวในเดือนก่อนหน้า และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร
หดตัวร้อยละ 4.8 กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน โดยผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง หดตัวร้อยละ 37.8 กลับมาหดตัวหลังจากขยายตัวในเดือนก่อนหน้า น้ำตาลทราย หดตัวร้อยละ 51.9 หดตัวต่อเนื่อง 6 เดือน และไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง หดตัวร้อยละ 13.4 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน สำหรับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 0.3 ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน
โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 13.5 กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวเดือนก่อนหน้า แนวโน้มการส่งออกในปี 2567 กระทรวงพาณิชย์ คาดว่า การส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย โดยมีปัจจัยบวกจากการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร และการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลที่สนับสนุนความต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่มีปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์ภัยแล้งที่ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ตลาดลดลง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่สงครามกลางเมืองในหลายประเทศ ปัญหาค่าระวางเรือที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจของคู่ค้าบางประเทศฟื้นตัวได้ค่อนข้างล่าช้า รวมถึงการเลือกตั้งในหลายประเทศสร้างความไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอท่าทีนโยบายของรัฐบาลใหม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube