“สามารถ” ยันไม่ได้ทำอะไรให้พรรคเสียหาย ย้ำวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ทำในนามส่วนตัว ไม่เคยใส่เสื้อพลังประชารัฐไปด่านายกฯ ลั่นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่พรรคลูกไล่
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐแสดงความไม่พอใจต่อการเคลื่อนไหวของนายสามารถ โดยเตือนหากยังไม่จบ ไม่หยุดการกระทำ จะใช้มติกรรมการบริหารพรรค ขับไล่ออกไป ว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรมาก เพราะว่าตนไม่ได้ทำอะไร ให้พรรคเสียหาย สิ่งที่ตนทำไม่ว่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ก็ทำในนามส่วนตัว ตามเสรีภาพบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่เคยใส่เสื้อพรรคพลังประชารัฐไปด่านายกรัฐมนตรี ตนแค่ออกมาพูดแทนประชาชนที่วันนี้กำลังเดือดร้อนเรื่องปากท้อง
“ถ้าท่านนายกรัฐมนตรี คุณเศรษฐา ทวีสิน พูดว่าเสียหาย คุณเศรษฐาก็ฟ้องผมได้ แต่ปรากฏว่าตั้งแต่พูดมาจนถึงปัจจุบัน คุณเศรษฐาไม่เคยฟ้องผมแม้แต่คดีเดียว ไม่เคยมี สส.หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาโต้ตอบผมแม้แต่คนเดียว กลับกันพรรคพลังประชารัฐเดือดร้อนแทนนายกรัฐมนตรี ผมเลยงงว่าพรรคเป็นพรรคลูกไล่ หรือพรรคร่วมรัฐบาล”
นายสามารถ กล่าวต่อว่า คำว่าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่พรรคลูกไล่ หรือพรรคสาขา พรรคพลังประชารัฐเรามีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คือพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถ้าตนจะเชียร์ ให้พลเอกประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วตนผิดหรือ ตนจะต้องถูกขับออกจากพรรคหรือ
นายสามารถ ยกตัวอย่างของพรรคประชาธิปัตย์ที่สมาชิกพรรคสามารถด่าหัวหน้าพรรค แต่เมื่อกรรมการบริหารพรรคเปิดข้อบังคับ เพื่อหาวิธีขับสมาชิกพรรคคนนั้นออกจากพรรค จนทุกวันนี้ก็ยังหาไม่ได้ แถมสมาชิกพรรคคนนั้นยังขู่ว่าขับเลยจะได้ฟ้องศาล ตนจึงสงสัยว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองใช้คนละฉบับหรือไม่
“ผมเชียร์ ผมชม หัวหน้าพรรค เอาคนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค กลับจะถูกให้ขับออกจากพรรค ผมเลยตอบไปว่า ไม่ต้องขับผมหรอกครับ ถ้าขับผมแล้วสสมาชิก 60,000 คน จะเดือดร้อน เพราะถ้าพูดไม่ได้ ต่อไปด่ารัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องเขียนข้อบังคับพรรคมาว่า ห้ามพูดถึงรัฐบาล ห้ามโจมตีรัฐบาล ถ้าเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล” นายสามารถ กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยด่ารัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐเลยสักคนเดียว ทั้งๆ ที่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน สุดทน สุดกลั้น แต่เราเข้าใจความเป็นพรรคการเมือง เราต้องให้เกียรติกัน
นายสามารถ ยกตัวอย่าง นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี หรือนายภูมิธรรม เวชชัย ซึ่งมีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาล ก็ออกมาว่านายเศรษฐา แต่ไม่เคยนายเศรษฐาออกมาตำหนินายภูมิธรรมไม่เห็นนายภูมิธรรมตำหนินายวรชัย
นายสามารถ กล่าวด้วยว่า ตนไม่เคยถูกขับพ้นพรรค แต่ขอถามกลับว่า คนที่พูดเคยถูกขับหรือเปล่า สื่อมวลชนคงรู้ คราวที่แล้วก็ทำตนเสียหายมาทีนึงแล้ว แต่ตอนนั้นตนอ่อนทางการเมือง ไม่ได้ออกมาพูด ทุกคนจึงเข้าใจว่า ตนเป็นคนเลว เป็นคนชั่ว ซึ่งเมื่อผลออกมาแล้วว่า ตนไม่ผิด ท่านไม่คิดจะขอโทษตนหน่อยหรือ ไม่คิดจะทำหนังสือแถลงออกมาหน่อยหรือ คราวที่แล้วก็งุบงิบกันทำเอกสารหลุด คราวนี้มาบอกไลน์หลุด แล้วมาเบลอชื่อแบบนี้หรือ หรือกลัวว่าเปิดชื่อออกมาแล้ว จะไม่ใช่ 40 สส.จริง แบบนี้มันยุติธรรมกับตนหรือ
นายสามารถ กล่าวว่า หากวันนี้จะตั้งกรรมการสอบตน ก็ไม่ต้องสอบหรอก ตนเป็นเพียงสมาชิกพรรคตัวเล็กๆ เพราะถ้าทำแบบนั้น 60,000 คน จะออกหมด ไม่งั้นพลเอกประวิตรคงบอกให้ตนลาออกไปนานแล้ว
”วันที่ 14 สิงหา ไม่มีใครรู้ว่าคุณเศรษฐาจะรอดหรือจะโดน แต่การเตรียมความพร้อมในฐานะพรรคการเมืองเราต้องทำ เราจะเป็นพรรครวมอย่างเดียวหรอ ไม่คิดจะเป็นพรรคแกนนำเลยหรอ ถามว่า 40 สส.ที่แอบอ้างว่า อยากจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่เคยคิดจะชูพลเอกประวิตรเป็นนายกฯ บ้างหรอครับ ไม่คิดจะให้พลเอกประวิตรมามีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาล เพื่อจะแก้ปัญหาให้ประชาชนเลยหรอครับ หรือวันนี้ที่ท่านนั่งอยู่มันเพียงพอแล้ว ท่าน สส.ผู้ทรงเกียรติทั้งหลายไม่มีใครอยากเป็นรัฐมนตรีกันบ้างหรอครับ หรือท่านบอกว่าที่เขานั่งมันดีอยู่แล้ว เพียงพอแล้ว ถ้าท่านคิดอย่างนั้น ท่านก็เดินต่อไป ซึ่งมันสวนทางกับผม” “ผมในฐานะสมาชิกพรรครักพลเอกประวิตรยิ่งกว่าพ่อ ยิ่งกว่าเจ้านาย ท่านเป็นคนให้โอกาสทางการเมืองผม ผมจะทำจนสุดทาง หากไม่ไหวแล้วชีวิตผมต้องเดินต่อ ทางการเมืองไม่มีใครกลัวใครทั้งนั้น คนเก่งอยู่ที่ไหนก็ได้”
เมื่อถามว่า ได้มีการคุยกับร้อยเอกธรรมนัสหรือยัง นายสามารถ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการคุยกัน เพราะเรื่องไม่ได้เกิดจากตน แม้จะปรับความเข้าใจกันยากขึ้นก็ไม่เป็นไร เพราะหากร้อยเอกธรรมนัสไม่ด่าตนและตนไม่ด่าร้อยเอกธรรมนัสก็ไม่มีปัญหาอะไร การที่มาชี้แจงในวันนี้ ร้อยเอกธรรมนัสให้เกียรติตนมาก จึงรู้ว่ากระบวนการที่ผ่านมา รู้ตัวผู้กระทำแต่ขอไม่พูดถึง พร้อมอโหสิกรรมให้ แต่วันนี้มาขอโทษตนหน่อยก็ดี
เนื่องจากยังไม่เคยเห็นกระบวนการสอบสวนว่า ตนมีความผิดแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเรื่องดังกล่าวไม่เคยเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค แต่มีเพียงกระแสข่าวออกไป ว่าตนเป็นคนชั่ว คนเลว คนต่ำช้าแล้วมันยุติธรรมหรือไม่ คราวที่แล้วตนนั้นใหม่ทางการเมือง แต่วันนี้ไม่ใหม่แล้วจะไม่ยอมตายคนเดียว และไม่ยอมให้ถูกกระทำฝ่ายเดียว ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเหตุการณ์นี้รู้สึกน้อยใจหรือไม่ นายสามารถย้อนถามผู้สื่อข่าวกลับมาว่า “ถ้าเป็นคุณ คุณจะน้อยใจหรือไม่ ขอให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา”
ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐได้มีการหารือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำรอยนั้น นายสามารถ กล่าวว่า ให้เขียนข้อบังคับพรรค อย่างสถาบันทางการเมืองต้องเป็นพื้นที่พูดคุย นำปัญหาของประชาชนมาพูดคุยกัน และกำหนดเป็นนโยบาย หากไม่กล้าวิจารณ์นายกรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินได้ ใครจะเป็นที่พึ่งของประชาชน
“ขนาดคนในพรรคเพื่อไทยยังวิจารณ์นายกฯ ได้ แล้วผมเป็นใคร เป็นแค่สมาชิกพรรคตัวแค่นี้ และเวลาผมวิจารณ์นายกรัฐมนตรี ผมก็วิจารณ์ในนามส่วนตัว ดังนั้น จะมาลงโทษผมเรื่องอะไร” นายสามารถ ทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายสามารถให้สัมภาษณ์ ปรากฏว่านายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐ และคณะได้ลงมาชั้นล่างพอดี นายอรรถกรได้ทำท่าเบ้ปากและเอามือวนที่หู ก่อนจะส่ายหน้าและโบกมือในอาการกวน โดยช่วงที่นายอรรถกร เดินผ่านวงสัมภาษณ์ไปนั้น ได้กระแอมใส่ด้วย ก่อนจะเดินออกไปทันที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews