รัฐบาลย้ำ 1 ส.ค.67 นี้ คิกออฟลงทะเบียน Digital Wallet สำหรับผู้ที่มีสมาร์ทโฟน ขณะที่ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนเปิดให้ลงทะเบียนในรอบถัดไป พร้อมอำนวยความสะดวกประชาชน เปิดจุด Walk-in ช่วยลงทะเบียน
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 1 ส.ค.67 นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป (หลังจากนั้นลงทะเบียนได้ 24 ชม.) จะเป็นวันแรกของการเปิดระบบลงทะเบียนและยืนยันตัวตนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เน้นย้ำการลงทะเบียนของผู้ที่มีสมาร์ทโฟน สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้โดยตรงจากแพลตฟอร์มของระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนทั้ง ไอโอเอส (iOS) และแอนดรอยด์ (Android)
โดยรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนลงทะเบียนโครงการฯ สำหรับผู้ที่มีสมาร์ทโฟน ตั้งจุดให้บริการ (Walk-in) ช่วยลงทะเบียน และสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ใน 4 สถานที่หลักทั่วประเทศ ได้แก่ ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมจำนวน 5,199 จุด ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. – 15 ก.ย.67 นี้
ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. – 15 ก.ย.67 รัฐบาล พร้อมด้วยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้บริการประชาชนผู้มีสมาร์ทโฟน แต่ต้องการความช่วยเหลือในการลงทะเบียน ตามระยะเวลาทำการใน 4 สถานที่หลักทั่วประเทศ ได้แก่
ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์, ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ) , ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่ง
ขณะที่กลุ่มของผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟนนั้น จะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. – 15 ต.ค.67 ณ สถานที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งจะมีการแจ้งระบุสถานที่อย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยจะต้องใช้บัตรประชาชนในการใช้จ่าย และต้องตรวจสอบคุณสมบัติสถานะบุคคลตามทะเบียนบ้าน
ทั้งนี้ในหัวค่ำวันนี้ (31 ก.ค.67) ระบบจะหยุดทำงานราว 2-3 ชั่วโมง เพื่อรีเซตระบบอีกครั้ง เตรียมความพร้อมสำหรับเปิดรับการลงทะเบียนในวันที่ 1 ส.ค.67
ทั้งนี้รัฐบาลเชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจที่สำคัญในการกระจายรายได้ เกิดการจับจ่ายใช้สอย สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศตั้งแต่ระดับฐานราก พร้อมทั้งช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชน สามารถพึ่งพาตนเองได้ เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ รวมถึงเป็นรากฐานสำคัญด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews