Home
|
ข่าว

“ไฮไลต์ไทยคู่ฟ้า” โชว์ผลงานท่องเที่ยวทำเงินพุ่งกว่า 6.5 แสนล้าน

Featured Image
รัฐบาลออกรายการใหม่ “ไฮไลต์ไทยคู่ฟ้า” โชว์ผลงาน โวท่องเที่ยวทำเงินพุ่งสูง กว่า 650,000 ล้านบาท ทำจีดีพีโตขึ้น 3% พร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหายาเสพติดหลัง ขู่หากพบหน่วยงานใดเกี่ยวข้องปราบหมดไม่สนลูกใคร

 

 

 

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยน.ส.เกณิกา อุ่นจิตต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงความคืบหน้าผลงานรัฐบาล ในรายการ “ไฮไลต์ไทยคู่ฟ้า” ถึงกรณีการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวด้วยมาตรฐานระดับโลกส่งต่อเม็ดเงินสู่ประชาชน และความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดขีดเส้นตายใน 3 เดือน

 

 

โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาการทำงานของรัฐบาล ซึ่งในเรื่องการท่องเที่ยว ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเนื่องจากจะสามารถฟื้นโดยเศรษฐกิจของไทยได้โดยในปีที่ผ่านมาการท่องเที่ยวสร้างรายได้ประมาณ 2.09 ล้านล้านบาท มีจำนวนนักท่องเที่ยว เดินทางเข้าประเทศกว่า 21 ล้านคน ซึ่งนักท่องเที่ยวแต่ละประเทศหากเทียบสถิติกับปีที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกประเทศอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล

 

 

ขณะที่ตัวเลขการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง มีการประมาณการว่าจะเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก โดยหากคิดจากการเทียบสถิติจากปีที่ผ่านมา พบว่าจะอยู่ที่ประมาณ 38 ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณการอยู่ที่ 206 ล้านคน
ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณการอยู่ที่ 2,738 ล้านบาท

 

 

โดยภาคการท่องเที่ยวจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา มีมูลค่ากว่า 6,500,000 ล้านบาท อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ และไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง มาจากการท่องเที่ยว โดยในช่วงสัปดาห์หน้าตนจะมีการอัพเดทตัวเลขทางด้านการเกษตร

 

 

ขณะที่น.ส.เกณิการ์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด ว่า ถือเป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล ในเวลา 11 เดือนที่ผ่านมาได้สั่งการและลงพื้นที่ในแต่ละจังหวัด ที่ผ่านมามีการทำงานบูรณาการร่วมกันจากทุกหน่วยงาน โดยมีการกำหนด 25 จังหวัด
นำร่องเพื่อแก้ไขปัญหาโดยให้ระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 1 มิ.ย.-31 ส.ค. ซึ่งมีจังหวัดต้นแบบ ธวัชบุรีโมเดล? จังหวัดร้อยเอ็ด? และท่าวังผาโมเดล จังหวัดน่าน ซึ่งการประเมินผลทั้งหมด มี 12 ตัวชี้วัดหลัก และ 31 ตัวชี้วัดย่อย

 

 

โดยมุ่งเน้นเรื่องการปราบปรามคัดกรองผู้เสพ ผู้ค้ารวมไปถึงเอ็กซเรย์พื้นที่ นำผู้ป่วยหรือผู้เสพมาบำบัดโดยสมัครใจ มีกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้บำบัดและมีค่ายทหารบูรณาการแก้ไข พร้อมฝึกอาชีพให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

 

 

ขณะที่การคัดกรองในปัจจุบัน มีผู้เข้าสู่กระบวรการแล้วกว่า 146,269 คน โดย 10 จังหวัดที่มีการคัดกรอง ประกอบด้วยขอนแก่นกรุงเทพมหานครนครราชสีมา เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด อุดรธานี สงขลา ปทุมธานี นครสวรรค์ และเลย

 

 

ขณะเดียวกันรัฐบาลยังเห็นชอบเพิ่มเพราะบำเหน็จความเห็นชอบกรณีพิเศษสร้างขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ด้านยาเสพติดทั่วประเทศ ไม่เกินร้อยละ 2.5 และผู้ปฏิบัติงาน ไม่เกิน 1.5 ซึ่งใช้งบประมาณ 85 ล้านบาท อัดฉีดตั้งแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ 1 มิ.ย.-31 ก.ค. ในปี 2566 และ ปี 2567 จะเห็นได้ว่ามีจำนวนตัวคดีและผู้ต้องหาเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงเวลาดังกล่าวของปีนี้มีจำนวนคดีเพิ่มขึ้นเป็น 13,144 คดี /มีผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นเป็น 23,581 ราย

 

 

โดยน.ส.เกณิการ์ กล่าวย้ำในช่วงท้ายว่า รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินหน้าแก้ไขปัญหาในทุกมิติ พร้อมกับระบุว่า หากพบว่ามีหน่วยงานใดเข้าไปเกี่ยวข้องก็พร้อมที่จะปราบหมด ไม่สนลูกใคร

 

 

ขณะที่ในช่วงท้ายโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศการท่องเที่ยวไทยเราฟื้นได้อย่างดีมาก หากตัดเกรด คือ A + ต้องชมการท่องเที่ยวและททท.ที่ใช้ฝีมือและกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมและในปีหน้าคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 650,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่ทำให้ GDP ขยายตัวไปได้ มากกว่า 3% และที่เรื่องยาเสพติดนายกรัฐมนตรีย้ำว่าหากฟื้นเศรษฐกิจแบบปล่อยปัญหายาเสพติดเอาไว้ก็จะเป็นเครื่องบั่นทอนกำลังการผลิตของภาคเศรษฐกิจของไทย ที่จำเป็นต้องขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปให้ได้ซึ่งถือเป็น 2 เรื่องใหญ่ในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจทรัพยากรทุกอย่างเพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหา

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube