กมธ.ต่างประเทศ ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ สปป.ลาว พบ ไม่ได้แย่อย่างที่คิด พร้อมเตือนคนไทยบางคนอย่าดูแคลนเพื่อนบ้าน
นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ (กมธ.)ได้ติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจใน ประเทศ สปป.ลาวซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่สำคัญของไทยโดยได้เชิญตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ ตัวแทนภาคเอกชนและตัวแทนสมาคมไทย-ลาวมาให้ข้อมูลต่อ กมธ.
ทราบว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจนั้น สปป ลาวยังเติบโตปีนี้ร้อยละ 4 และสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ได้แย่อย่างที่สื่อมวลชนบางสำนักได้นำเสนอหรือที่มีการเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ แม้ว่าประเทศสปป.ลาวจะมีความท้าทายในเรื่องสำคัญ 4 เรื่อง คือ อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น, การอ่อนค่าของเงินกีบเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น, ปริมาณเงินตราต่างประเทศ
และภาระหนี้ต่างประเทศที่ สปป.ลาวได้กู้มาลงทุนในโครงการพลังงาน สร้างเขื่อนและโครงการอื่นๆ อย่างไรก็ตามแม้มีความท้าทาย 4 เรื่องสำคัญดังกล่าวก็คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจลาวจะยังเติบโตร้อยละ 4 และจุดแข็งที่สำคัญ ของเศรษฐกิจลาวคือในเรื่องพลังงานสะอาดหรือไฟฟ้าที่ผลิตจากเขื่อนต่างๆและภาคการท่องเที่ยวและขนส่ง
ซึ่งจะสามารถที่จะทำให้เศรษฐกิจลาวเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นอย่าหลงเชื่อข่าวลือที่พูดในทำนองว่าเศรษฐกิจลาวกำลังจะมีวิกฤติหนัก ซึ่งเท่าที่ฟังจากกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้เป็นเช่นนั้น นอกจากนั้นกมธ.ยังได้ติดตามความคืบหน้าของการเชื่อมระบบขนส่งทางรางระหว่างไทยกับ สปป. ลาวเพื่อเชื่อมการขนส่งไปยังจีนตอนใต้
ซึ่งขณะนี้ก็เดินหน้าไปค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขนส่งผู้โดยสารและเชื่อมการขนส่งสินค้าซึ่งจะทำให้สินค้าในประเทศไทยสามารถใส่ตู้คอนเทนเนอร์ ส่งไปยังลาวแล้วขึ้นไปยังจีนตอนใต้ เช่นกันขนส่งผลไม้ไทยทุเรียน มังคุดและอื่นๆได้รวดเร็วขึ้น
นายนพดล กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนนั้นอาจมีการนำเสนอในสื่อออนไลน์ของคนไทยจำนวนไม่กี่คนที่มีทัศนคติไม่สร้างสรรค์ กับประเทศเพื่อนบ้าน แต่คนไทยส่วนใหญ่นั้นยังเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของชาวต่างชาติ
ไม่ว่าจะเป็นแรงงานเมียนมาร์หรือคนลาวก็ตามล้วนเป็นชาวอาเซียนด้วยกันและประเทศไทยนั้นควรจะต้องใช้นโยบายเติบโตไปกับเพื่อนบ้าน มั่นคงไปกับเพื่อนบ้าน ไม่ควรไปดูแคลนเพื่อนบ้านเพราะประเทศไทยอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ได้ในภูมิภาคนี้เราต้องร่วมมือผนึกความเชื่อมโยงระหว่างกัน ให้แน่นแฟ้นยิ่งยิ่งขึ้นไป
โดยนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลนี้ได้มีหมุดหมายที่สำคัญในเรื่องความร่วมมือกับสปป.ลาวใน 4 เรื่อง คือ การร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด, การแก้ไขปัญหาฝุ่นข้ามแดนหรือพีเอ็ม 2.5, การแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ซึ่งทั้ง 4 เรื่องนี้เป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ซึ่งกระทบต่อทุกคนในภูมิภาคนี้ซึ่งจะต้องร่วมมือกันเท่านั้นจึงจะทำสำเร็จ
ตนจึงเรียกร้องให้คนไทยบางคนได้ตระหนักถึงความสำคัญและหยุดดูแคลนและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเพื่อนบ้าน เพื่อสันติภาพและสันติสุขในภูมิภาคต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews