“ภูมิธรรม”สั่งการทีมพาณิชย์ ขยายความร่วมมือการค้าไทย-คาซัคสถาน พร้อมชวนร่วมงานแสดงสินค้าในไทย หรือมาเลือกซื้อสินค้า และประกาศร่วมมือด้าน Soft Power ระหว่างกัน
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤิทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับ Dr.Mirgali Kunayev กงสุลกิตติมศักดิ์ของไทยแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน และ รอ.ชัชวรรณ สาครสินธุ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอัสตานา ที่สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ไทย ณ นครอัลมาตี ว่า
ตนได้รับนโยบายจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีนำทีมพาณิชย์มาหารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับโอกาสทางการค้าของไทยในสาธารณรัฐคาซัคสถาน และยังได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการเปิดสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศที่สาธารณรัฐคาซัคสถาน
เพื่อให้มาทำหน้าที่เป็นด่านหน้าในการสำรวจตลาดว่าโอกาสการค้าของไทยอยู่ตรงไหน และจะขยายความร่วมมือกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เพื่อผลักดันการส่งออกของไทยให้เพิ่มขึ้นได้อย่างไร ซึ่งมีความเห็นตรงกัน และกระทรวงพาณิชย์จะเร่งดำเนินการจัดตั้งต่อไป โดยจะพิจารณาความเหมาะสมในการจัดตั้งระหว่างเมืองอัสตานาและเมืองอัลมาตี
ทั้งนี้ ไทยยังได้แจ้งว่า นอกจากการหาโอกาสในการขยายโอกาสทางการค้าระหว่างไทยและคาซัคสถานแล้ว ยังมีภารกิจสำคัญ คือ การลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทยและคาซัคสถาน (Agreement on Trade and Economic Cooperation between Thailand and Kazakhstan) การพบหารือผู้บริหาร DAMU Industrial and Logistics Center
เพื่อทราบลู่ทางในการขนส่งและกระจายสินค้าทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศของคาซัคสถาน และเป็นประธานการมอบประกาศนียบัตร Thai SELECT แก่ร้านอาหารไทยในเมืองอัลมาตี
“ได้ขอทราบแนวทางการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมในการโปรโมตสินค้าไทยในตลาดคาซัคสถาน เพื่อให้ผู้บริโภคชาวคาซัคสถานรู้จักและต้องการใช้สินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น และขอทราบความคิดเห็นในเรื่องการโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าจากไทยสู่คาซัคสถาน พร้อมข้อเสนอแนะต่อผู้ประกอบการไทยที่สนใจส่งออกสินค้าสู่คาซัคสถาน”
นายภูสิต ยังกล่าวด้วยว่า ได้ใช้โอกาสนี้แจ้งถึงนโยบายของรัฐบาลไทย ที่ให้ความสำคัญกับการผลักดันสินค้าและบริการของไทยที่เป็น Soft Power ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก อาทิ ภาพยนต์ ศิลปะ การท่องเที่ยว กีฬา แฟชั่น ดนตรีและเฟสติวัล รวมถึงสินค้าอาหารไทย ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกันได้
โดยปัจจุบันไทยมีการพัฒนาความสามารถด้านคอนเทนต์ที่มีความน่าสนใจและหลา กหลายมากขึ้น อีกทั้งมีบริการเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Production & Post Production Services) ที่เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ โดยได้ขอทราบทิศทางนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของคาซัคสถาน และความต้องการของอุตสาหกรรม เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจของไทยในการรองรับการเติบโตของธุรกิจในคาซัคสถาน
ในปี 2566 มูลค่าการค้าระหว่างไทย–คาซัคสถาน มีมูลค่ารวมกว่า 172 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 26% โดยมีสินค้าส่งออกศักยภาพ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกล และส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น ซึ่งหากภาครัฐและเอกชนของทั้ง 2 ฝ่ายสามารถหารือและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น จะเป็นโอกาสที่ดีในการขยายมูลค่าทางการค้าที่สูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews