Home
|
ข่าว

สมาคมนักข่าวฯ-ThaiPBS ยื่นสภาสอบจริยธรรม “บิ๊กป้อม”

Featured Image

 

 

 

สมาคมนักข่าวฯ-ThaiPBS ยื่นสภาสอบจริยธรรม “บิ๊กป้อม” เหตุมีพฤติกรรมคุกคามสื่อ ประสานเสียงขอให้เป็นบรรทัดฐานการทำหน้าที่ร่วมกับแหล่งข่าว

 

 

 

นายสุปัน รักเชื้อ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พร้อมด้วย นายอิทธิพันธ์ บัวทอง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เข้ายื่นหนังสือต่อ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบจริยธรรมข้อ 12 และ 13 ในข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ 2563
โดยนายสุปัน กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีการปรากฏคลิป ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในประเด็นการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่ พล.อ.ประวิตร กลับแสดงพฤติกรรมไม่พอใจ และเกรี้ยวกราด ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ใช่ทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งเมื่อพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว การกระทำแบบนี้ ไม่ใช่การหยุมหัว แต่เป็นพฤติกรรมที่เกรี้ยวกราดและคุกคามสื่อ ซึ่งนี่ไม่ใช่พฤติกรรมครั้งแรกของนักการเมืองท่านนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีการดูหมิ่นดูแคลนเพื่อนร่วมวิชาชีพมาก่อน

 

ดังนั้น จากการพิจารณา จึงยื่นคำร้องให้ตรวจสอบจริยธรรมนักการเมืองคนนี้ เพราะนี่เป็นเหตุการณ์ เสมือนนิสัย ที่ทำต่อสื่อมวลชนในความผิดจริยธรรมข้อ 12 และ 13 ทั้งนี้ การพิจารณาของคณะกรรมการสภา จะเป็นอย่างไรขอไม่ก้าวล่วงแต่ขอทราบผลการพิจารณาทุกขั้นตอนตามที่ระบุไว้ในระเบียบข้อบังคับ และไม่ใช่เป็นการเร่งรัด แต่มองว่าเช่นเดียวกัน หากสื่อ ถูกยื่นตรวจสอบจริยธรรมทางสมาคมก็จะตรวจสอบ โดยใช้กรอบเวลา 30 วันและคาดว่าการตรวจสอบของสภาจะใช้เวลาประมาณเดียวกัน นอกจากที่สมาคมจะมายื่นกับสภาแล้วยังมีองค์กรภาคประชาสังคมเตรียมยื่นให้กับ ป.ป.ช. แล้วด้วย

 

นายสุปัน ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายคน มองว่า เจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่องว่า เป็นการตีความในเรื่องของการทำร้ายร่างกายซึ่งเจ้าทุกข์จะต้องเป็นผู้ร้องแต่เรากำลังพูดถึงจริยธรรมและการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่การทำหน้าที่จะต้องได้รับการปกป้อง และต้องตระหนักในส่วนนี้แต่ถ้าใครจะ เปลี่ยนประเด็นไปที่เรื่องของการถูกกระทำ ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกระทำ

 

“นี่คือปรากฏการณ์ครั้งแรกที่เพื่อนร่วมวิชาชีพลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิเสรีภาพของเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันมากกว่าการออกแถลงการณ์ และด้วยการที่เป็นวิชาชีพสื่อสามารถทำได้แค่นั้นและนี่ อาจจะเป็นเรื่องใหม่ และเป็นบรรทัดฐานให้กับนักการเมืองที่จะปฏิบัติต่อสื่อมวลชนให้ตระหนักว่าเราไม่ใช่คู่ขัดแย้งเราทำหน้าที่ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้าแหล่งข่าวหรือนักการเมืองไม่เต็มใจที่จะตอบ หรือไม่พร้อมที่จะตอบ ก็ขอให้บอกว่าไม่ตอบ อย่างล่าสุดอดีตนายกรัฐมนตรีที่ยิ้มแล้วเดินออกไปไม่เห็นจะต้องแสดงกิริยา ที่เกรี้ยวกราดและคุกคามกันขนาดนี้”

 

นายสุปัน ยังกล่าวด้วยว่า การยื่นร้องครั้งนี้ ยืนยันไม่มีประเด็นทางการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง เพียงแค่ต้องการปกป้องสิทธิเสรีภาพในการทำงานของเพื่อนร่วมอาชีพมากกว่าที่จะถูกโยงไปเป็น ประเด็นทางการเมือง และเรื่องนี้องค์กรวิชาชีพได้ปรึกษากันในทุกแง่ทุกมุม และได้มีการส่งคลิปให้กับคณะกรรมการไว้พิจารณาด้วย และการแสดงท่าทีล่าช้าเป็นเพราะต้องดูในทุกแง่ทุกมุมและต้องรอบคอบพอสมควรในกรอบกฎหมายและจริยธรรมที่เรามีอยู่

 

ขณะที่นายนพดล ศรีหทัย บรรณาธิการบริหาร และผู้ประกาศของ ThaiPBS ยื่นหนังสือขอให้สอบจริยธรรมพลเอกประวิตรเช่นเดียวกัน เนื่องจากภายหลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวแล้ว พบว่า ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เนื่องจากไทยพีบีเอส เป็นองค์กรสื่อสาธารณะที่ต้องคุ้มครองผู้สื่อข่าว เพราะการทำงานของสื่อหลังจากนี้ที่มีความเข้มข้นขึ้น ดังนั้น การข่มขู่ ทำร้ายเป็นการริดรอนสิทธิ์ของการทำงานของสื่อ และการยื่นในครั้งนี้จะเป็นบรรทัดฐาน และ การยื่นในครั้งนี้เพื่อให้เกิดเป็นแบบอย่างการทำหน้าที่ของสื่อและบรรทัดฐานทางจริยธรรม

 

ส่วนการดำเนินคดีอาญาข้อหาทำร้ายร่างกายนั้นขอให้เป็นหน้าที่ของสมาคมสื่อทำไปก่อน เนื่องจากมองว่าหากดำเนินการจะมีผลต่อการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวที่ ต้องทำงานร่วมกับแหล่งข่าวซึ่งสอดคล้องกับเจตจำนงของผู้สื่อข่าวที่อยู่ในคลิปที่ไม่ต้องการดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การยื่นสอบในครั้งนี้คงไม่มีผลต่อการทำหน้าที่สื่อสาธารณะ และคงไม่ใช่เรื่องที่ไม่กล้าเดินหน้านำเสนอสิ่งที่ประชาชนอยากรู้

 

สำหรับเรื่องการพูดคุยกันระหว่างพลเอกประวิตรกับผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่า เป็นการหยอกล้อนั้น นายนพดลกล่าวว่า ภาพที่ออกมาไม่ใช่การหยอกล้อและไม่เคยเกิดขึ้น มาก่อนสามารถดูออกว่า เป็นการหยอกล้อหรือข่มขู่ทำร้ายร่างกาย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube