ประธานหอการค้าไทย เห็นด้วยแจกกลุ่มเปราะบางเป็นเงินสด พร้อมเสนอโครงการคูณสอง ประชาชนจ่ายร้อย-รัฐให้ร้อย ย้ำ ไม่ใช่โครงการคนละครึ่ง แนะออกมาตรการภาษีจูงใจกลุ่มกำลังซื้อสูง หวังดึงเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังเข้าพบน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ ว่า ควรจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ กลุ่มเปราะบางที่ต้องมอบเงินให้ทันเป็นเงินสด ส่วนกลุ่มที่สอง คือกลุ่มที่ยังพอมีกำลังซื้อโดยมีการเสนอโครงการคูณสอง
ซึ่งไม่ใช่โครงการคนละครึ่ง เพราะหากคนกลุ่มนี้ใช้เงิน 100 บาท ในการซื้อของจะได้เงินอีก 100 บาทจากรัฐบาลในการสนับสนุน และกลุ่มที่สาม คือกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงจะสามารถออกมาตรการดึงเงินจากกลุ่มนี้ออกมามากที่สุดได้อย่างไร และการจับจ่ายใช้สอยผ่านมาตรการภาษีอื่นๆ ซึ่งจะสามารถนำเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันก็มีมาตรการช่วยเหลือลดค่าใช้จ่าย เช่น การลดค่าค่าไฟ ค่าน้ำมัน และตรึงราคาสินค้าที่จำเป็น โดยภาคเอกชนจะช่วยกันดูว่าส่วนใดสามารถตรึงราคาได้ และต้องมีมาตรการช่วยเหลือลดอัตราดอกเบี้ยให้กับประชาชนที่เป็นลูกหนี้ นอกจากนี้ยังอยากช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอีเรื่องสินค้าราคาถูกที่เข้ามาตีตลาดในประเทศ ที่จะต้องจำกัดการนำเข้า
โดยไม่ใช่การกีดกันทางการค้า แต่เพื่อเป็นการสร้างความธรรม รวมไปถึงเป็นการดึงเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมเข้ามาในประเทศให้เร็วที่สุด เพื่อสามารถสร้างกลยุทธ์ด้านการวางแผนในระยะยาวให้กับประเทศ วึ่งนายกรัฐมนตรีและคณะได้ตอบรับเป็นอย่างดี และแสดงถึงความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานจับมือกับภาคเอกชน สร้างความเชื่อมั่นวางแผนร่วมกัน ทำให้เศรษฐกิจเติบโตไปได้
ขณะที่นายญนน์ โภคทรัพย์ รองประธานสภาหอการค้าไทย ระบุว่า รัฐบาลและภาคเอกชนไม่สามารถแบ่งแยกกันได้และร่วมกันสร้างความมั่นใจเรื่องเศรษฐกิจทั้งด้านการปรับหนี้ ซึ่งนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีแผนรองรับเรียบร้อยแล้ว และสิ่งสำคัญที่สุดคือยกระดับเอสเอ็มอีให้มีความแข็งแรง
ซึ่งเอกชนและรัฐบาลมีเป้าหมายสำคัญอย่างโครงการด้านการท่องเที่ยวที่ยังต้องการเรื่องของความชัดเจนในทุกส่วนและจะมีการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในประเทศได้อย่างไร
นอกจากนี้รัฐบาลยังให้ความสำคัญ เรื่องพลังงานสีเขียวที่รัฐบาลจะต้องทำให้ชัดเจนในปี 2030 ซึ่งปัจจุบันมีความห่างไกลรัฐบาลจึงต้องทำให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันนายกฤษณะ วจีไกรลาศ เลขาธิการหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ โดยหอการค้ามีกลุ่ม YEC หรือกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่กว่า 7,000 คน ที่จะช่วยขับเคลื่อนเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ขยายผลไปยังต่างประเทศ ยกระดับเมืองต่างๆให้มีความเข้มแข็งมีรายได้ จีดีพีเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้นายสนั่น ปฏิเสธคำถามถึงความชัดเจนในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยขอให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียด หลังจากการหารือกับสภาอุตสาหกรรมและสมาคมธนาคาร เนื่องจากจะเป็นข้อสรุปที่ดีที่สุด แต่ที่มีความคิดเห็นตรงกันคือรัฐบาลต้องประชาสัมพันธ์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศเพื่อให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี
ส่วนเห็นด้วยหรือไม่ที่จะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตในกลุ่มเปราะบางเป็นเงินสดก่อน นายสนั่น ระบุว่า เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เฉพาะกลุ่มเปราะบาง
ส่วนในปีงบประมาณต่อไปหากแจกเป็นเงินสดอีก 30 ล้านคนเห็นด้วยหรือไม่ นายสนั่น กล่าวว่า วันนี้ไม่มีการพูดคุยว่าอีก 30 ล้านคนจะเป็นรูปแบบใด แต่เห็นว่าคนอีกสองกลุ่มที่เหลือจะต้องได้รับการกระตุ้นด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews