เปิดคำแถลงนโยบายรัฐบาล 12-13 ก.ย.นี้ รัฐบาลจัด 10 นโยบายเร่งด่วน รวมดิจิทัลวอลเล็ต-ลดค่าครองชีพ-ดึงรายได้เศรษฐกิจใต้ดิน-สถานบันเทิงครบวงจร – พร้อมนโยบายระยะยาวกัญชาการแพทย์-ซอฟต์พาวเวอร์-ปฏิรูปภาษี-30 บาทรักษาทุกที่-ทำ รธน.ฉบับประชาชน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา มีคำสั่งนัดประชุมรัฐสภา ในวันที่ 12-13 กันยายนนี้ เพื่อให้คณะรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 พร้อมได้แจกคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ในรูปแบบเล่ม และในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้สมาชิกรัฐสภา ทั้ง สส.และ สว. ไปพิจารณาล่วงหน้าก่อนการประชุมดังกล่าว
ทั้งนี้ คำแถลงนโยบายของรัฐบาล มีจำนวนทั้งสิ้น 14 หน้า และภาคผนวก ซึ่งอธิบายความสอดคล้องระหว่างนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดิน ของคณะรัฐมนตรี กับหน้าที่ของรัฐ และแนวนโยบายแห่งรัฐของรัฐธรรมนูญ และยุทธศาสตร์ชาติ
สำหรับนโยบายของรัฐบาลนั้น ประกอบไปด้วย นโยบายเร่งด่วน 10 นโยบาย ที่รัฐบาล จะดำเนินการทันที ได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อบ้านและรถ ช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งในและนอกระบบ, การดูแลและส่งเสริม พร้อมปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการไทย
โดยเฉพาะ SMEs จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมของคู่แข่งทางการค้าต่างชาติในแพลตฟอร์มออนไลน์, การออกมาตรการเพื่อลดราคาพลังงานและสาธารณูปโภค พร้อมผลักดันการพัฒนาขนส่งสาธารณะ และกำหนดค่าโดยสารร่วมในพื้นที่กรุงเทพฯเพื่อรองรับนโยบายค่าโดยสารราคาเดียว
ตลอดสาย เพื่อลดภาระค่าเดินทาง, การสร้างรายได้ใหม่ของรัฐด้วยการนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษี และเศรษฐกิจใต้ดิน เข้าสู่ระบบภาษี, การกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย และบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความ
สำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก และประกันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุน, การยกระดับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัยผ่านแนวคิด ” ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” และเร่งเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและราคาพืชผลการเกษตร, การส่งเสริมการท่องเที่ยว และการปรับโครงสร้างการตรวจลงตาทั้งหมดของประเทศ
เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอวีซ่า พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะสถานบันเทิงครบวงจร, การแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร, การแก้ปัญหาอาชญากรรมอาชญากรรมออนไลน์และมิจฉาชีพ รวมไปถึงอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ,และ การส่งเสริมพัฒนาศักยภาพ และจัดสวัสดิการทางสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อสร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและเศรษฐกิจแก่กลุ่มเปราะบาง
นอกจากนั้น ยังมีนโยบายในระยะกลางและระยะยาว ที่รัฐบาลจะต่อยอดการพัฒนาของภาคการผลิตและการบริการ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพื่อวางรากฐานสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต โดยปรับโครงสร้างของเศรษฐกิจ และพัฒนาเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ๆ เพื่อเร่งให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางโดยเร็ว และพัฒนาบทบาทให้เป็นผู้เล่นสำคัญทางเศรษฐกิจในเวทีโลก ได้แก่ “การสร้างโอกาสต่อยอดจากอุตสาหกรรมเดิม” โดยรัฐบาลจะส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคต
พร้อมส่งเสริมการยกระดับภูมิปัญญาไทยไปสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ, “การส่งเสริมโอกาสในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” ได้แก่เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มในทางเศรษฐกิจและควบคุมผลกระทบทางสังคมโดยการตรากฎหมาย และทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงินของโลก, “การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อขยายโอกาส”
โดยจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านวิจัยและนวัตกรรมเดินหน้าการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนาดใหญ่ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่มีคุณภาพ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และเปลี่ยนโครงสร้างทางภาษีครั้งใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้ ดึงแรงงานนอกระบบที่มีอยู่กว่าร้อยละ 50 เข้าสู่ระบบ และศึกษาความเป็นไปได้ของการปฏิรูประบบภาษีไปสู่แบบ Negative Income Tax ที่ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับเงินภาษีคืนเป็นขั้นบันได และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ เพื่อยุติความขัดแย้งและข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดิน สนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิที่ดิน
นโยบาย “การพัฒนาคนทุกช่วงวัย” โดยส่งเสริมการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพของเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียม พัฒนาระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น ทั้งในระบบ นอกระบบ ตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิตและยกระดับทักษะและปลดล็อคศักยภาพของคนไทยเพื่อสร้างงานสร้างรายได้ ผ่านการส่งเสริม “1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์” และยกระดับระบบสาธารณสุขให้ดียิ่งกว่าเดิม ต่อยอดระบบสาธารณสุขไทยจาก 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น “30 บาทรักษาทุกที่” พร้อมยังส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศเร่งปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศเข้าถึงสิทธิที่พึงมี
นโยบาย “การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม” ในการให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ สร้างการมีส่วนร่วมในการรับมือกับภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และการบริหารจัดการน้ำระหว่างประเทศ พร้อมยกระดับการบริหารจัดการน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง กับทุกภาคส่วน โดยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ รวมถึงการสานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนเพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของอาเซียนในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ตลอดจนส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ของอาเซียนผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย
นโยบาย “ด้านการเมืองและความขัดแย้ง” ที่จะพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของคนไทยและต่างชาติ ด้วยการพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ มีนิติธรรม และความโปร่งใส ผ่านการเร่งจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยเร็วที่สุด และรัฐบาลจะยึดมั่นในหลักนิติธรรมและความโปร่งใส ใช้งบประมาณของรัฐน้อยที่สุดแต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด การปฏิรูประบบราชการและกองทัพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เปลี่ยนผ่านราชการไทยไปสู่ราชการทันสมัยในระบบดิจิตอล รวมถึงการยกระดับการบริการภาครัฐให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนให้มากขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews