สภา ออกประกาศขอความร่วมมือสื่อ กลุ่มเสี่ยงใกล้ชิด รมต. ของดเข้าพื้นที่ “ชวน” ยันเดินหน้าพิจารณาพรบ.ประชามติ เข้มมาตรการป้องกันโควิด 19 – ส.ส. ภท. – ปชป. ลาประชุม กักตัว
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ขณะนี้มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ สำนักงานเลขาธิการ, สภา ผู้แทนราษฎร มีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์การแพร่ระบาด ดังกล่าว จึงขอความร่วมมือ สื่อมวลชนทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ในการทำข่าวใกล้ชิด กับคณะรัฐมนตรี หรือบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และมีความประสงค์ จะเข้ามาทำข่าว ณ อาคารรัฐสภา ตั้งแต่วันนี้ (7 เม.ย.64) ขอความร่วมมือให้เฝ้าระวังกักตัวเพื่อติดตามอาการ และให้สื่อมวลชนท่านอื่นมาปฏิบัติหน้าที่ทำข่าวณ อาคารรัฐสภาแทน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการการเข้า – ออก อาคารรัฐสภา ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่สำนักงานฯ
ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องด้วยความห่วงใยอย่างยิ่งรวมทั้งได้เพิ่มความเข้มข้นให้มากยิ่งขึ้น และขอขอบคุณในความร่วมมือมา ณ โอกาสนี้
รัฐสภาเตรียมพิจารณา ร่างพรบ.ประชามติ ขณะมี ส.ส.ภูมิใจไทยประชาธิปัตย์ ลาประชุม กักตัว 14 วัน
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มีคำสั่งนัดสมาชิกประชุมร่วมรัฐสภา (สมัยวิสามัญ) ในเวลา 09.30 น. วันนี้ (7 เม.ย.64) โดยวาระสำคัญเป็นการ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว พิจารณาต่อจากการประชุมร่วมกันของรัฐสภา สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นการพิจารณาต่อที่มาตรา 10 จากทั้งหมด 67 มาตรา
หลังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ได้ขอถอนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวออกไป เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับเนื้อหาในมาตรา 9 หลังที่ประชุมเห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างน้อยที่ให้ประชาชนและรัฐสภาเสนอคณะรัฐมนตรีให้ทำประชามติได้และนำกลับเข้าสู่การพิจารณาอีกครั้งรวมถึงวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 3 ฉบับ
ขณะเดียวกัน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในกรุงเทพมหานคร จนทำให้มีรัฐมนตรีรวมถึง สส. ที่เป็นสมชิกรัฐสภาต้องลาการประชุมและกักตัว 14 วัน เพราะมีประวัติเสี่ยงหรือใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ จึงต้องดูอาการก่อน โดยวันนี้ สส.และรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทยทั้งหมดรวมถึงรัฐมนตรี และ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินทางไปแสดงความยินดีในวันเกิดพรรคภูมิใจไทย 6 เมษายน ที่ผ่านมา ก็ขอลาประชุมทั้งในวันที่ 7-8 เมษายนนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังออกมาตรการตรวจคัดกรองโควิดแบบขั้นสูงสุด พร้อมขอความร่วมมือบุคคลหรือสื่อมวลชนที่ใกล้ชิดกับรัฐมนตรีที่มีประวัติเสี่ยง ให้งดเข้ารัฐสภาก่อน
“ชวน” ยันเดินหน้าประชุมสภา พิจารณา พรบ.ประชามติ เข้มมาตรการป้องกันคัดกรองการแพร่ระบาดโควิด 19
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวถึงมาตรการป้องกันและคัดกรองการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในพื้นที่รัฐสภาภายหลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมีความเสี่ยงสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นคณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า ในส่วนพื้นที่ของอาคารรัฐสภาทุกจุดทางเข้า-ออก ได้มีมาตรการคัดกรองอย่างเข้มงวด
และหากท่านใดที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็ขอให้เดินทางไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งกรณีที่ส.ส. – ส.ว. เดินทางเข้าพบและร่วมงานกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา และ กรณีการทำบุญของพรรคภูมิใจไทย ที่มีผู้ร่วมงานติดเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การประชุมร่วมกันของรัฐสภาในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติ ยังคงเดินหน้าตามระเบียบวาระตามปกติโดยไม่ได้มีแผนสำรอง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสมาชิกไม่ได้มีปัญหา จะมีปัญหาเพียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทยที่เดินทางเข้าร่วมงานทำบุญประจำปีเพียงบางท่านเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ทุกคน
อย่างไรก็ตาม ในการเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของ ส.ส. ไม่จำเป็นที่จะต้องส่งผลตรวจรายงานมายังสภา ขณะเดียวกัน หาก ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และส.ส.ที่มีความเสี่ยงสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารับการตรวจจากโรงพยาบาลแล้ว ไม่พบเชื้อโควิด-19 ก็สามารถเดินทางเข้าร่วมประชุมที่รัฐสภาได้
สำหรับบรรยากาศาสุด สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด
บุคคลที่จะผ่านเข้าออกบริเวณพื้นที่อาคารรัฐสภาจะต้องผ่านการสแกนแอปไทยชนะ ตรวจวัดอุณหภูมิ พร้อมทั้งต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่
กำหนดประตูเข้า-ออก เฉพาะทางหลักเท่านั้น รวมถึงออกประกาศมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ตลอดจนขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ปฏิบัติหน้าที่ในการทำข่าวใกล้ชิดกับคณะรัฐมนตรี หรือบุคคลที่มีความเสี่ยงงดเข้าพื้นที่
“สุทิน” เชื่อรัฐสภาพิจารณาพรบ.ประชามติได้ ยันฝ่ายค้านไม่ติดใจเนื้อหาที่มีการแก้ไข มั่นใจ ไม่กลายเป็นกับดักทำร่างถูกตีตก
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติในวันนี้ ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ covid 19 ในระลอกที่ 3 ที่เกิดขึ้น และมีสมาชิกรัฐสภาเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่ยังเชื่อว่าการประชุมสามารถเดินหน้าไปได้ตามปกติ
โดยเฉพาะฝ่ายค้านที่จะยังเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง และยืนยันว่าในส่วนของเนื้อหาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ฝ่ายค้านก็ไม่ติดใจหลังจากที่มีการปรับแก้เนื้อหาให้สอดคล้องกับมาตรา 9 แล้ว แม้จะมีการ กำหนดว่าจะต้องให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อนการทำประชามติ รวมถึงให้แยกการประชุม ระหว่างส.ส. และสว. ในการขอทำประชามติก็ตาม
รวมทั้งเชื่อว่า ไม่กลายเป็นกับดักที่จะทำให้การออกเสียงประชามติถูกตีตกในชั้นวุฒิสภา เพราะเห็นว่าเป็นเพียงทางออกเดียวที่จะทำให้สอดคล้องกับมาตรา 9 ได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ไม่ได้กำหนดให้รัฐสภาประชุมร่วมกันพิจารณาของมาทำประชามติได้
ส่วนกระแสข่าว ที่จะมีการเปลี่ยนตัวประธานวิปฝ่ายค้านนั้น เรื่องนี้ตนได้สอบถาม ไปยังต้นตอของข่าวแล้ว ก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ที่ให้ข่าว
แต่อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตนก็ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง
เปิด ประชุมรัฐสภา ช้า ส.ส.- ส.ว. ลาประชุมจำนวนมาก “ขจิตร”โวยองค์ประชุมยังไม่ครบ ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่บางพรรคเจตนา ไม่ต้องการผ่าน ร่าง พรบ.ประชามติ
การประชุมร่วมรัฐสภา หลังจากเกิดกรณี การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 และมี ส.ส. – ส.ว. เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยง ทำให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภามีความล่าช้าในการเปิด ประชุมรัฐสภา จากกำหนดการประชุมในเวลา 09:30 น. แต่สามารถเปิดประชุมได้เวลา 10.03 น. เนื่องจาก มี ส.ส. และ ส.ว.ลังเลการเข้าประชุม โดยนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้หารือก่อนเปิดประชุม
เริ่มจาก นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นตั้งข้อสังเกตว่า เหตุผลที่องค์ประชุมยังไม่ครบไม่ใช่ ความบังเอิญ แต่เป็นเจตนาของพรรคการเมืองบางพรรค ที่ไม่ต้องการผ่านร่างพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และหวังให้องค์ประชุมไม่ครบ เพราะร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลต่อการจัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงขอให้ประธานรัฐสภา ตรวจสอบเจตนาของสมาชิกที่ไม่เข้าร่วมประชุมเป็นรายบุคคล มีเจตนาหลบเลี่ยงการประชุมในวันนี้หรือไม่
ด้านนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดรัฐสภามีความล่าช้าในการฉีดวัคซีน จึงขอให้ประธานรัฐสภาเร่งรัดอย่าเกรงใจหรือห่วงว่าประชาชนจะมองว่า เป็นการฉีดก่อนประชาชน เพราะ ส.ส. อยู่ในภาวะเสี่ยงสูง
ทั้งนี้ ประธานรัฐสภา ยืนยันว่า หลังจากกรณีที่เกิดขึ้นรัฐสภามีมาตรการเข้ม และลดจำนวนบุคลากร ของรัฐสภาลง ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนจบครับว่าส่วนตัวรู้สึกเกรงใจจริง ว่าควรให้คนที่มีความเสี่ยงมากกว่า เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ได้รับการฉีดวัคซีนกันก่อน ส่วนใครต้องการจะฉีดก็แล้วแต่ความสมัครใจของแต่ละบุคคล
ด้าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปฝ่ายรัฐบาล หารือขอให้ประธานรัฐสภาเลื่อนการประชุมออกไปก่อน เนื่องจากมีสมาชิกหลายพรรคการเมืองแจ้งความประสงค์ลาประชุม ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง
ซึ่งนายชวน หลีกภัย ชี้แจงว่า หากจะมีการเลื่อนการประชุมต้องเห็นชอบร่วมกันในที่ประชุมรัฐสภา เพราะองค์ประชุมได้ครบแล้วไม่มีเหตุผล ที่จะต้องเลื่อนการประชุม ทำให้นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แสดงความกังวล ว่า หากมีสมาชิกติดเชื้อ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะ ส.ส. มาจาก 76 จังหวัด ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ย้ำว่า จะไม่มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญอีกแล้ว และเริ่มเข้าสู่วาระการประชุมทันที โดยระบุว่า เวลาเป็นของมีค่าไม่สามารถย้อนกลับมาอีกได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news