Home
|
ข่าว

สว.กลุ่มอาชีพชาวสวนฯร้องไห้กลางสภาถูกขวางตั้งกมธ.แก้น้ำท่วม

Featured Image

 

 

 

สว. กลุ่มอาชีพชาวสวนฯ สุดทน ร้องไห้กลางสภา หลังถูกขวางตั้งกมธ.วิสามัญแก้น้ำท่วม ขณะ “เปรมศักดิ์” ปะทะ “นายพล” ซัดเป็นขอทาน หลังมาขอโควตาให้ สว.บ้านใหญ่ แต่กลับผิดสัจจะ ไม่ยอมให้ตั้ง กมธ.ศึกษาปัญหาน้ำท่วม

 

 

การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติจากวิกฤตอุทกภัยอย่างเร่งด่วนและเป็นระบบซึ่งเสนอโดยนายเศรณี อนิลบล สว. และ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ

 

ทั้งนี้ นพ.เปรมศักดิ์ นำเสนอญัตติโดยตอนหนึ่ง ระบุว่า เมื่อวานนี้ มีชาย 3 คน บอกตนว่า ทำไมไม่แก้ไข ทำไมต้องศึกษา หากศึกษาไม่ต้องตั้งกมธ. ตนไม่บอกว่าเป็นใคร แต่ส่วนสูงสูงกว่าตน ทั้งนี้ไม่ได้กลัว แต่อย่ามารุม ขอให้มาทีละคน ที่ถามตน ตนรู้สึกงง ทั้งที่ญัตตินี้ได้รับการบรรจุวาระโดยประธานวุฒิสภาแล้ว

 

 

 

 

“วันเสาร์-อาทิตย์ ก่อนมีการประชุม มีพล.อ.คนหนึ่งโทรศัพท์หาตน ซึ่งไม่ใช่ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง บอกให้ผมล้มเลิก ผมบอกล้มเลิกอย่างไร เพราะพุธที่แล้วมีการคุยกันเมื่อสัปดาห์แล้วบอกว่ามีการขอกรรมาธิการ 30 คน ขอ สว. 20 คน เป็นคนนอก 10 คน และส่วนของสว.ขอเป็นกลุ่มใหญ่ 15 คนและกลุ่มเล็ก 5 คน แบบนี้ต้องมาขอเหมือนเป็นขอทาน จนบรรลุข้อตกลงว่า สว. 20 คนมาจากบ้านใหญ่ 15 คนและสว.เสียงส่วนน้อย 5 คน ใครว่าไม่ใช่ในการประชุมห้อง 428 ขอให้ค้าน หากผมพูดความเท็จให้ฟ้าผ่าร่างเป็น 2 ซีก ตนยินดีตายกลางสภา ผมขอให้พิสูจน์กันหน่อยว่าทำไมกลับไปกลับมา แม้ผมไม่ใช่นายพลแต่รักษาสัจจะ และพล.อ.คนนี้ยังบอกว่าหากอภิปรายขอให้จบไม่ต้องตั้งกรรมาธิการ ผมงง”

 

ด้านพล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. อภิปรายว่า ตนเป็นคนที่โทรหา นพ.เปรมศักดิ์ เอง และได้อธิบายว่า เมื่อตั้งคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภาแล้ว ต่อไปอยู่ในอำนาจหน้าที่ จะขัดแย้งกันหรือเป็นภาระหรือไม่ ทั้งนี้ วันที่ 12 – 13 ก.ย.รัฐบาลจะแถลงนโยบายให้คุยในสภา ให้ข้อยุติ ได้สาระแล้วนำเสนอในการแถลงนโยบายรัฐบาล เพราะหลายคนเห็นว่าได้ผลไวกว่าจะศึกษาในกรอบเวลา 30 – 120 วัน เพราะศึกษามานานแต่แก้ปัญหาไม่ได้

 

“ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เคลือบแคลงสงสัย พล.อ. คือ ผมเอง ที่โทรหาหมอเปรมเป็นการปรึกษา ว่ามีหลายคน และควรฟังความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ ขอให้หมอเปรมถอยได้หรือไม่ ผิดถูกหรือไม่ แต่เป็นความจริง”

 

 

 

 

จากนั้น ประธานได้เปิดให้สมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายเศรณี อนิบล สว.จากกลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง ได้ลุกอภิปรายด้วยเสียงสั่นเครือว่า อุทกภัยถือเป็นปัญหาเร่งด่วน ใครที่บ้านไม่เคยถูกน้ำท่วมไม่เคยสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะน้ำท่วมพื้นที่ทำกินจะไม่รู้สึก จากนั้น นายเศรณี ได้ร้องไห้ จนไม่สามารถพูดต่อได้ทำให้มีสมาชิกนำกระดาษทิชชูมาให้ ก่อนที่นายเศรณี กล่าวต่อว่า มันเป็นความเจ็บปวดของประชาชนคนไทยที่ทุกข์ยากมามากกว่า 10 ปีเวลาน้ำท่วมบ้านไม่สามารถไปไหนได้ ในสภาวะปกติอาหารการกินก็ลำบากยากเข็น ถนนหนทางเสียหายรัฐบาลไม่ว่าจะยุคไหนก็ต้องทุ่มเทงบประมาณมาซ่อมมาสร้างเสียเงินไปมากมายเกษตรกรไม่สามารถจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ต้องปลูกใหม่

 

“แล้วท่านคิดว่าไม่สำคัญหรอครับ ฉะนั้นญัตตินี้ในฐานะตนที่มาจากกลุ่มที่6 คลุกคลีกับเกษตรกรมาตลอดเห็นความทุกข์ยากความลำบากของประชาชนที่ถูกน้ำท่วมของพี่น้องเกษตรกรที่มีผลผลิตเสียหายแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะทุกรัฐบาลได้แต่เยียวยาได้แต่ชดเชยแต่เกษตรกรเขาต้องการไหมครับ เขาไม่ต้องการสิ่งที่เราอยากเห็นคือ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เร่งด่วนและเป็นระบบไม่ว่าจะรัฐบาลไหนก็ต้องแก้รัฐบาลเรื่องนี้ให้ได้ “

 

ทั้งนี้ นายเศรณี ยังกล่าวอีกว่า ในคำแถลงนโยบายของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บอกว่า จะยกระดับการบริหารจัดการน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ซึ่งทุกรัฐบาลเขียนแบบนี้ แต่ทำไม่ได้เพราะไม่ได้ทำ การศึกษาระบบจัดการน้ำมามากกว่า 10 ปีแต่ศึกษาแล้วเก็บในลิ้นชัก ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือสำนักงบประมาณล้วนแล้วไม่ได้ให้ความสำคัญอย่างจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาตลอดเวลาที่ผ่านมา “เก่งกันนักหนาเก่งกันทุกคน” บอกจะทำอย่างนั้นจะทำแต่ไม่เคยทำ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเป็นวาระแห่งชาติเพราะเขียนนโยบายไว้ ฉะนั้นในวันแถลงนโยบายตนก็จะพูดเรื่องนี้อีกเพราะลงชื่อไว้แล้วในเรื่องการบริหารจัดการน้ำตนยังไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนที่จะมีความกล้าหาญมีความจริงจังและมีความจริงใจที่จะเอาเรื่องนี้มาแก้ไข

 

ตนรับราชการมาทั้งชีวิตอยากจะบอกผู้บังคับบัญชาว่าสิ่งที่ท่านทำในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งที่ผ่านมามันเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกาถูกที่คัน ทำสิ่งที่ไม่ควรจะทำแต่สิ่งที่ควรทำกับไม่ทำ

 

ดังนั้นหากวันนี้สามารถตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ก็อยากใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของตัวเองและเพื่อนสมาชิกที่เห็นด้วยเพื่อหาทางดำเนินการแก้ไขปัญหา ในเรื่องนี้ และน่าจะเห็นผลในทางปฏิบัติบ้าง อย่างน้อยมีคนกล้าพูดกล้าอภิปรายในทุกเวทีเพื่อทวงถามไปยังรัฐบาลว่าสิ่งที่ได้แถลงนโยบายไว้นั้นทำแล้วหรือยัง หากในอีกหนึ่งปีข้างหน้าเกิดน้ำท่วมรัฐบาลจะทำอย่างไร

 

ส่วนที่ พล.อ.สวัสดิ์ กล่าวว่า กำลังจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ ซึ่งจะดูแลเรื่องนี้อยู่แล้วนั้น ส่วนตัวได้ไปตรวจสอบเห็นว่า ไม่มีคณะกรรมาธิการชุดใดที่จะเข้ามาดูแลเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้งเลย แล้วจะเอาเรื่องนี้ไปไว้ที่ไหน หากนำเรื่องนี้ไปไว้ในชั้นอนุกรรมธิการ บ้านตนมองว่าคำว่าอนุฯ แปลว่า น้อย ในขณะที่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่แล้วจะได้เรื่องหรือไม่ เมื่อเป็นเรื่องใหญ่ก็ควรอยู่ในชั้นกรรมาธิการ สามัญหรือวิสามัญซึ่งตนได้แปรญัตติในเรื่องนี้แล้วแต่ที่ประชุมบอกว่าข้อบังคับไม่สามารถทำได้เพราะจะเกิน 21 คณะ

 

“พร้อมมองว่า สภาแห่งนี้เป็นสภาที่ทรงเกียรติ เป็นสภาที่ศักดิ์สิทธิ์ เหมือนที่นายกฯคนใดบอกเราไม่ใช่โรงเรียนประชาบาลบ้านนอก ที่จะต้องเชื่อฟังครูใหญ่ทุกอย่างเราต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง จึงขอกราบเรียนประธานที่เคารพและเพื่อนสมาชิกทุกคนที่เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมาธิการชุดนี้ว่าเราควรจะมาร่วมมือกันไม่ว่าคุณจะอยู่โรงเรียนไหนมีครูใหญ่กี่คนก็ต้องช่วยกันว่าจะแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมืองในสมัยของเราอย่างไร เราเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยเราเป็นสิ่งหนึ่ง ที่เข้าใจถึงความทุกข์ของประชาชนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เพื่อนสมาชิกที่มีความคิดมีสติปัญญาจะเห็นด้วยกับตน“

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube